บทที่ 1 เรียกน้ำย่อย

เสียงเครื่องมือกระทบกับชิ้นส่วนโลหะดังขึ้นเป็นจังหวะ มือของชานนท์หมุนควงประแจกำลังซ่อมเครื่องยนต์ของรถที่กำลังมีปัญหาอยู่ในอู่ เสียงเงียบสงบในช่วงเย็นภายใต้แสงไฟสลัวกำลังตั้งใจทำงานในช่วงเย็นหลังจากที่เลิกเรียน ท่าทีดูสงบและตั้งใจแต่ทว่าเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในกระเป๋ากางเกงเขาจึงต้องหยุดชะงักจากนั้นก็วางอุปกรณ์ทุกอย่างลงที่พื้น ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดรับสายทันทีโดยไม่ได้ละสายตาจากรถที่กำลังซ่อม

"ว่าไง"

(ไอ้ชานนท์มึงอยู่ไหนวะ)

"กูทำงานอยู่พวกมึงมีอะไร"

(กูกับไอ้พีรมากินข้าวที่ตลาด แม่ง! ไอ้พวกคู่อริมาดักตี พวกกูกำลังวิ่งหนีกันอยู่เนี่ย)

เพื่อนของเขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ แต่โดยปกติมินทร์จะสู้ไม่ถอยเหมือนกันนะ ทำไมคราวนี้เขาถึงดูเหมือนกำลังวิ่งหนีอยู่

(หยุดนะโว้ย!)

"ปกติมึงต่อยมันคืนไม่ใช่หรือไง"

(ก็รอบนี้มันไม่ได้มาตัวเปล่านะสิ เสือกเอาไม้เบสบอลมาด้วย แม่ง! พวกกูก็เลยต้องวิ่งหนีกันเนี่ย รู้งี้เอาปืนพ่อมายิงกบาลไอ้เหี้ยนี้ดีกว่า)

(พวกกูอยู่กันสองคน มันมาเป็นเจ็ดคนไม่ไหววะ)

"พวกมึงใจเย็นกันก่อนเดี๋ยวกูไปหา อยู่แถวตลาดใช่ไหม"

(เออ ริมน้ำเนี่ยแหละ)

"เดี๋ยวกูไป"

เขารีบกดวางโทรศัพท์ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าตามเดิม จากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปจากตรงนั้น เฮียเจ้าของอู่เห็นชานนท์วิ่งออกไปด้วยความร้อนรนก็รีบเอ่ยทักทายทันที

"ไปไหนอีกล่ะมึง ต้องซ่อมรถให้เสร็จนะเว้ยลูกค้าจะเอาพรุ่งนี้แล้ว"

"เดี๋ยวมานะเฮีย พอดีว่าเพื่อนมีเรื่องนิดหน่อยต้องไปช่วยก่อน"

"เพื่อนอีกแล้วเหรอ กูบอกมึงกี่รอบแล้วว่าคบเพื่อนให้ดีหน่อย คบแต่ไอ้พวกเกเรต่อยตีกันทุกวัน มึงจะไปผู้เป็นคนเมื่อไหร่"

เฮียหนุ่มบ่นออกมาทันที ตัวของเขานั้นเก็บชานนท์มาเลี้ยงตั้งแต่อายุสิบปี เหตุผลก็เพราะว่าเด็กคนนี้พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ถ้าเขาไม่รับอุปการะเลี้ยงดูก็จะต้องถูกส่งต่อไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาสงสารก็เลยรับมาเลี้ยงดูคอยสั่งสอนแล้วก็ส่งเรียนหนังสือ แต่ไอ้ตัวนี้มันค่อนข้างเกเรแล้วก็ติดเพื่อนมาก อยากจะไล่ออกบ้านวันละร้อยรอบแต่ด้วยความที่เป็นคนเรียนเก่งมากแถมยังสามารถซ่อมรถที่อยู่ในอู่ได้ทุกอย่าง เรียกได้ว่าประสบการณ์แล้วก็ทักษะดีกว่าพนักงานในอู่ จึงทำให้เขายังต้องง้อไอ้เจ้าเด็กแสบนี่

"เอาน่าเฮียผมไปแป๊บเดียวเอง เดี๋ยวคืนนี้มาทำให้ต่อจนเสร็จเลยนะ นี่ก็เหลือไม่มากแล้วรับรองพรุ่งนี้ส่งรถทันแน่นอน"

"กูปวดหัวกับมึงมากเลยไอ้ชานนท์ จะเป็นผู้เป็นคนกี่โมงวะเนี่ย"

"อย่าบ่นเยอะนะเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก"

"ไอ้...! เฮ้อ"

เฮียหนุ่มถึงกับกุมขมับเอาไว้แน่น จ้องมองไปยังชานนท์ที่ตอนนี้กำลังวิ่งออกไปจากอู่ซ่อมรถ ไม่รู้ว่ากลับมาจะมีสภาพแบบไหน ถ้าไม่ปากแตกก็คิ้วแตกไม่งั้นก็ถึงขั้นแขนหักกลับมา คราวนี้แหละจะไล่ออกบ้านเลยคอยดู

"กลับมาเถอะมึงพ่อจะเขกกบาลให้"

ทางด้านของชานนท์เขารีบวิ่งเข้ามาในตลาดซึ่งอู่ซ่อมรถของเฮียหนุ่มไม่ได้อยู่ไกลจากตลาดมากนัก และเมื่อเขาวิ่งเข้ามาถึงก็เห็นแก๊งคู่อริถือไม้เบสบอลกำลังวิ่งตามหาอะไรบางอย่าง ซึ่งคิดว่าน่าจะกำลังวิ่งตามหาเพื่อนของเขาอีกสองคน เรื่องของเรื่องก็คือพวกเขาไปดื่มที่ร้านเหล้าเมื่อคืนวาน แล้วเกิดการแย่งผู้หญิงกันเกิดขึ้นจึงทำให้ไอ้พวกนั้นแพ้แล้วพาลจึงมาแก้แค้นในวันนี้

"ไอ้พีร ไอ้มินทร์ ไอ้พวกเหี้ยนี่อยู่ไหนเนี่ย"

เขาวิ่งตามหาเพื่อนสองคนซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อไอ้พวกที่ถือไม้เบสบอลเจอเข้ากับเพื่อนของเขาที่ยืนอยู่ชิดกำแพง ผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีกรมท่ากำลังง้างมือเตรียมจะฟาดลงไปที่ตัวของเพื่อนเขา

"เฮ้ยพวกมึงทำอะไรวะ!"

เขาตะโกนเข้าไปก่อนจะหยิบท่อนไม้ที่วางอยู่ที่พื้นจากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปตีแผ่นหลังของผู้ชายที่ใส่เสื้อสีกรมท่าทันที

"โอ๊ยยยย!"

"มึงทำลูกพี่กูเหรอวะ"

ผลั๊วะ!

เขากำหมัดเอาไว้แน่นก่อนจะต่อยเข้าไปที่ปลายคางของผู้ชายอีกคนที่ตะโกนใส่หน้าเขาเสียงดังลั่น หลังจากนั้นก็ใช้เท้าถีบไปยังผู้ชายอีกคนที่เตรียมจะเอาไม้เบสบอลฟาดมาที่เขา

"มึงกล้าทำกูเหรอ"

"แน่จริงมาต่อยกับตัวต่อตัวดิวะ เอาอาวุธมาด้วยคิดว่าเก่งหรือไง"

"พวกมึงไม่ใช่เหรอหิ้วไม้เบสบอลมาคนละอันเนี่ย กูเอาไม้ตีพวกมึงก็บุญแล้ว อย่าให้ต้องใช้อย่างอื่นเลย"

เขาชี้นิ้วไปยังคู่อริที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะหันไปดูเพื่อนทั้งสองคนซึ่งตอนนี้ขยับตัวลุกขึ้น ใบหน้านั้นมีแต่รอยฟกช้ำเนื่องจากว่าอีกฝั่งนึงมากันประมาณเจ็ดคน แล้วมารุมเพื่อนของเขาที่อยู่กันแค่สองคนเท่านั้น

"ไอ้พวกหมาหมู่ พวกมึงมากันตั้งเยอะรุมเพื่อนกูสองคนเนี่ยนะ ลูกผู้ชายเขาทำกันหรือไง"

"ถ้างั้นมึงก็มาต่อยกับกูตัวต่อตัวเลย"

พูดจบมันก็โยนไม้เบสบอลออกไปให้ห่างจากตรงนั้น ก่อนจะยื่นมือมาตรงหน้าขยับนิ้วมือทั้งห้านิ้วเป็นเชิงให้เขาเข้าไปหาแถมยังยิ้มมุมปากด้วยความกวนประสาทอีก

"อ๋อ... สงสัยมึงอยากไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มสินะ ได้! หึ..."

เขายิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ก่อนจะโยนท่อนไม้ไปให้เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างหลังจากนั้นก็กระโจนเข้าไปหาผู้ชายที่ใส่เสื้อสีกรมท่า จากนั้นก็กระแทกหมัดลงไปยังใบหน้าของมัน แลกหมัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบางครั้งไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละไม่อย่างนั้นเฮียหนุ่มจะด่าทุกวันเหรอว่าเขารักเพื่อนมากจนเกินไป แต่ไม่มีใครเข้าใจความสัมพันธ์ของเขาและเพื่อนอีกสี่คนหรอก เพราะพวกเราสัญญากันไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราจะปกป้องกัน และจะเติบโตไปด้วยกัน ไม่ว่าใครที่คิดจะเข้ามารังแกพวกเราทั้งห้าคน มันพวกนั้นจะต้องไม่ตายดี...

"ไอ้ชานนท์มึงไหวไหมวะ"

พีรเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เอาจริงเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับมันเลย เพราะไอ้พวกคู่อริพวกนี้มันอยากจะมาตีเขามากกว่าคงเพราะแค้นเรื่องผู้หญิงเมื่อคืน

"คนอย่างกูไม่เคยแพ้ใครเว้ย"

ผลั๊วะ!

"โอ๊ยยยยย ตากู!"

"หึ... ไอ้ขยะมึงแพ้กูแล้ว"

บทถัดไป