บทที่ 3 บทที่ 2 หัวใจเต้นแรง
เขากุมมือหญิงสาวพาเดินไปยังอู่ซ่อมรถซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตลาดมากนัก และเมื่อมาถึงเขาก็พาเธอไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเล็ก จากนั้นก็เดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาส่งให้เธอถือไว้ในมือ
"ว่าแต่พี่ชื่ออะไรคะหนูจะได้เรียกถูก"
"ชานนท์"
เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะขยับตัวนั่งลงที่พื้น หญิงสาวรู้สึกตกใจเล็กน้อยพยายามจะขยับตัวลงไปนั่งที่พื้นแต่ก็ถูกชายหนุ่มห้ามไว้ซะก่อน
"ไม่ต้องหรอกนั่งอยู่ข้างบนนั่นแหละ จะทำแผลให้ไม่ใช่เหรอทำสิ"
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเธอ ทำไมเขารู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้จัง รู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนที่อ่อนโยนและสัมผัสได้ว่าเป็นคนที่ใสซื่อแล้วก็น่ารักมาก
"ค่ะ"

เธอรีบแกะกล่องปฐมพยาบาลก่อนจะหยิบแอลกอฮอล์มาเพื่อล้างแผลให้เขาก่อน หญิงสาวตั้งใจทำแผลให้เขาด้วยความนุ่มนวลและเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บมาก การกระทำของรดาอยู่ในสายตาของชานนท์ทั้งหมด ซึ่งเขาจ้องมองเธอตาแทบไม่กะพริบ ยิ่งอยู่ใกล้ก็ได้เห็นความสวยงามของใบหน้านั้น
"ไปทะเลาะกับใครมาคะทำไมถึงมีแผลฟกช้ำเต็มไปหมดเลย"
"ก็ต่อยตีกับไอ้พวกคู่อรินั่นแหละ วัยรุ่นก็งี้แหละศัตรูเยอะไปหมด"
"ก็อย่าไปสร้างศัตรูสิคะจะได้ไม่ต้องไปมีเรื่องกับใครไง ถ้าแค่ต่อยตีกันมันก็ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แต่ถ้าเกิดว่าใช้อาวุธขึ้นมาอย่างเช่นมีดหรือว่าปืนอาจจะไม่โชคดีแบบนี้นะคะ ดูแลตัวเองหน่อยสิ"
รดาบ่นออกมาก่อนจะแปะปลาสเตอร์ให้เขา จากนั้นก็ปิดกล่องปฐมพยาบาลก่อนจะวางลงที่พื้น เธอหันไปมองใบหน้าของเขาซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มก็จ้องมองมาเช่นกัน
"มองทำไมคะ"
"ชื่ออะไรเรา"
"ชื่อรดาค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ ม. 4 แล้วค่ะ แล้วพี่ชานนท์เรียนอยู่ชั้นไหนแล้วคะ"
"เรียนปวช 3 พี่แก่กว่ารดา 2 ปี"
หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองโดยรอบ ที่นี่เป็นอู่ซ่อมรถของเฮียหนุ่มซึ่งเขาเช่าที่ของคุณแม่เธอเพื่อประกอบธุรกิจ รดาเป็นลูกสาวเจ้าของตลาดที่นี่และคุณแม่มีธุรกิจปล่อยเช่าห้องเช่าอีกหลายที่ เรียกว่าเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมีเงินทองไม่น้อย
"ว่าแต่บ้านเราอยู่ที่ไหนล่ะเดี๋ยวพี่จะไปส่ง"
"อยู่หลังตลาดนี่ค่ะเดี๋ยวรดากลับเองก็ได้ ขอบคุณพี่ชานนท์มากเลยนะคะที่ช่วยรดาวันนี้ เอาไว้มีโอกาสรดาจะตอบแทนด้วยการเลี้ยงข้าวนะคะ"
เขาจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง รู้สึกว่าหัวใจเต้นรัวอย่างประหลาดเมื่อสบตาเข้ากับใบหน้าและสายตาคู่นั้น
"ไม่ต้องหรอก เดินไปเจอหมาข้างทางโดนรังแกก็ต้องช่วยอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ"
"โห! พี่ชานนท์ว่ารดาเป็นหมาเหรอคะ"
"เปรียบเทียบเฉย ๆ ไม่ได้บอกว่าเป็นหมาสักหน่อย"
เขาหันไปมองหญิงสาวก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ รดาเอามือกอดอกทำหน้างอง้ำใส่ชายหนุ่ม ผู้ชายอะไรหน้าตาก็ดีแต่ปากจัดชะมัดเลย แต่ถึงยังไงเธอก็รู้สึกชอบเขาอยู่ดีเพราะว่าพี่ชานนท์ดูเป็นคนที่อบอุ่นและเธอรู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่กับเขา
"ไม่ง้อหน่อยเหรอคะ"
หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มก่อนจะยื่นมือไปจับคอเสื้อของเขาเอาไว้จากนั้นก็ดึงไปมาจ้องมองสบตากับเขาดวงตาใสแป๋ว
"ทำไมต้องง้อด้วยล่ะ"
"ใจร้ายมาก"
เธอถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเซ็งก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นยืนจากนั้นก็หยิบกระเป๋าของตัวเองมาสะพายไว้ที่ไหล่
"รดากลับแล้วนะคะ"
"อืม กลับดี ๆล่ะ เดินไปทางที่มีคนเยอะหน่อย เป็นผู้หญิงอย่าไปเดินในที่ลับสายตาคน ไม่ได้โชคดีแบบนี้ตลอดไปหรอกนะ"
เขาเอ่ยเตือนหญิงสาวเพื่อให้เธอระมัดระวังตัวเองเอาไว้หน่อย เป็นผู้หญิงไม่ควรเดินไปไหนมาไหนเพียงคนเดียว คนสมัยนี้ก็ไว้ใจไม่ค่อยได้ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเมื่อไหร่ ระมัดระวังตัวเองเอาไว้ก็เป็นเรื่องที่ควรทำ
"เข้าใจแล้วค่ะ ว่าแต่พี่ชานนท์พักอยู่ที่ไหนคะ"
"ก็นอนที่ร้านนี่แหละ พี่ทำงานที่อู่ของเฮียหนุ่มช่วงเย็น ตอนเช้าก็ไปเรียนที่วิทยาลัย"
"อ๋อ โอเคค่ะถ้าอย่างนั้นรดากลับก่อนนะคะ"
เธอเดินไปใกล้เขาก่อนจะยื่นมือไปแตะจมูกของชายหนุ่มด้วยความอ่อนโยน จากนั้นก็ทำใจกล้าหอมแก้มเขา ส่งยิ้มไปให้ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นและรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันทีด้วยความเขินอาย ชานนท์ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตื่นตะลึง เพราะไม่คิดว่าเด็กสาวจะใจกล้าถึงขั้นหอมแก้มผู้ชายที่เพิ่งเจอกันเพียงครั้งเดียว
"ยัยเด็กบ้าเอ๊ย!"
หลังจากที่รดาออกมาจากอู่ซ่อมรถเธอก็เอามือปิดแก้มตัวเองทั้งสองข้างเพราะรู้สึกเขินเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าอะไรดลจิตดลใจให้เธอทำใจกล้าหอมแก้มผู้ชายที่เคยเจอกันครั้งแรก ไม่รู้สิเธอมีความรู้สึกว่าถูกชะตากับเขาอย่างประหลาด และคิดฝันไปไกลอยากจะสานสัมพันธ์กับเขารู้จักกันให้มากขึ้นกว่านี้ไปอีก
"อร๊าย! อะไรของแกเนี่ยรดา กล้าดียังไงไปหอมแก้มผู้ชายก่อนล่ะ"
เธอกรีดร้องออกมาภายในใจก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากอู่ซ่อมรถทันที เฮียหนุ่มที่เดินเข้ามาพอดีเห็นรดาวิ่งออกไปก็จำหนูน้อยคนนั้นได้ทันที เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ๊ผึ้งเจ้าของตลาดที่นี่ เป็นคุณนายที่ร่ำรวยมีเงินทองมากมาย แต่ไม่รู้ว่าลูกสาวของหล่อนมาทำอะไรที่นี่
"แม่หนูรดามาทำอะไรที่นี่ มาเก็บค่าเช่าเหรอ"
ชานนท์เหลือบสายตาหันไปมองเฮียเจ้าของอู่ก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย
"เฮียรู้จักเด็กคนนั้นด้วยเหรอ"
"รู้จักสิก็ลูกเจ๊ผึ้งเจ้าของตลาดไง"
ชานนท์นิ่งเงียบไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น รดาเป็นลูกสาวของเจ๊ผึ้งเจ้าของตลาดอย่างนั้นเหรอ... ถ้าเป็นแบบนี้เราสองคนควรจะอยู่ห่างกันไว้ เพราะเขานั้นไม่ค่อยลงรอยกับแม่ของเธอสักเท่าไหร่ อีกอย่างเขาเป็นเด็กกำพร้าต่ำต้อยเกินไปและไม่ควรคิดฝันกับเธอเกินเลยไปไกล
"สรุปว่าหนูรดามาทำอะไรที่นี่"
"ก็ไม่ได้มาทำอะไรหรอก เธอแค่ผ่านมาเฉย ๆ เดี๋ยวผมไปซ่อมรถต่อก่อนนะเฮีย เฮียก็กลับบ้านไปเถอะเดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง"
"แล้วหน้าแกไปได้แผลมาอีกแล้วเหรอ บอกแล้วว่าอย่าไปมีเรื่องกับคนนั้นคนนี้เยอะ ฉันรับเลี้ยงแกเพื่อให้เป็นคนดีของสังคมนะ เข้าใจที่พูดไหมเนี่ย"
"แล้วผมไม่เป็นคนดีของสังคมตรงไหน"
เขาขยับตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะจ้องมองไปยังเฮียหนุ่มที่ตอนนี้จ้องมองมายังเขาเช่นกัน
"คนดีของสังคมเขาไม่ไปต่อยตีกันทุกวันแบบมึงหรอก โอ๊ยกูปวดหัว!"
"เอาน่าวัยรุ่นมันก็แบบนี้แหละ ก็ช่วยไม่ได้ผมทั้งหล่อแล้วก็เรียนเก่ง ไอ้พวกนั้นมันอิจฉาก็เป็นเรื่องปกติปะ"
"กูจะบ้าตาย"
"กลับไปได้แล้วไป๊ผมจะทำงาน"
เขาเอ่ยปากไล่เฮียเจ้าของอู่ซึ่งเขานับถือเป็นเหมือนพ่อคนหนึ่ง เพราะถ้าเกิดว่าไม่มีเฮียหนุ่มเขาก็คงเร่ร่อนอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ถึงแม้จะด่ากันทุกวันแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารักและหวังดีกับเด็กเกเรคนนี้มาก
"มึงไล่กูเหรอไอ้เด็กเวร"
"ก็ถ้าอยู่แล้วมีประโยชน์ก็อยู่เถอะ แต่ถ้าไม่มีประโยชน์ก็กลับไปซะไป๊"
"ไอ้เด็กเวร เดี๋ยวกูตัดค่าขนมมึงเลย"
เฮียหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนจะกอดอกจ้องมองไปยังชานนท์ที่ตอนนี้กลับไปนั่งตรงที่นั่งประจำที่ จากนั้นก็ถือประแจเลื่อนเตรียมซ่อมรถคันนั้นให้เสร็จเรียบร้อยภายในคืนนี้
"ก็ลองตัดค่าขนมดูสิ ไม่ซ่อมรถให้นะบอกไว้ก่อน"
"เออมึงมันเก่ง มึงมันดีที่สุดเว้ย"
"หึ... กลับไปได้แล้วรำคาญ"
"ไอ้เด็กบ้าเอ๊ยมึงจะไปผู้เป็นคนกี่โมง เฮ้อ!"
