บทที่ 7 บทที่ 6 กวนประสาท
ในขณะที่ชานนท์และเพื่อนกำลังฉลองกันอย่างสนุกสนานจนเวลาล่วงเลยมาเกือบห้าทุ่ม เขาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโทรศัพท์ไปหารดา ซึ่งเธอกำลังรอสายจากเขาอยู่
"ทำไมพี่ชานนท์ถึงไม่โทรมาเนี่ย"
มือเล็กกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น จ้องมองไปยังหน้าจอซึ่งไม่มีวี่แววว่าเขาจะโทรศัพท์ติดต่อมาเลย
"ผู้ชายไม่รักษาสัญญา! คอยดูเถอะพรุ่งนี้จะไปก่อกวนถึงที่เลย"
ทางด้านของชานนท์ในตอนนี้มือของเขากำโทรศัพท์ของตัวเองเอาไว้แน่น จ้องมองไปยังเบอร์โทรศัพท์ของรดาที่เพิ่งได้มาเมื่อประมาณช่วงเย็น เขาเลื่อนนิ้วไปแตะตรงเบอร์โทรศัพท์ของเธอกำลังจะกดโทรออกแต่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้
'อย่าลืมโทรมานะไม่อย่างนั้นรดาจะมากวนพี่ชานนท์ทุกวันเลย ชิ'
และเมื่อเขานึกถึงประโยคของหญิงสาวที่เอ่ยขู่เอาไว้ว่าถ้าเกิดคืนนี้เขาไม่ติดต่อไปเธอจะตามมาก่อกวนทุกวัน และเมื่อนึกได้แบบนั้นก็ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไปทันที และแน่นอนว่าคืนนี้เขาไม่ติดต่อเธอกลับไปหรอก ส่วนเหตุผลน่ะเหรอก็ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรนี่ก็แค่ไม่อยากโทรก็เท่านั้น
"หึ..."
"แล้วทำไมมึงถึงไม่โทรหาน้องเขาล่ะ ไหนตอนแรกบอกว่าจะติดต่อไปไม่ใช่เหรอ ระวังล่ะจะกลายเป็นผู้ชายที่ไม่รักษาสัญญา"
"ก็กูไม่ว่างโทร"
เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมด ซึ่งบรรดาเพื่อนของเขาหันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง เอาจริงถึงแม้ว่าจะเป็นลูกเจ้าของตลาดที่ร่ำรวยมีเงินทองมันเหมือนหมาเห่าเครื่องบินแต่แล้วยังไงล่ะถ้าเกิดว่าเรารักกันจริงก็ควรจะต้องพยายามเพื่อคนนั้นไม่ใช่เหรอ
"มึงไม่ต้องไปฟังที่พวกลุงพูดนะ คนเราจะรักกันเงินทองมันไม่ใช่ปัญหาเว้ย เราสามารถเติบโตไปด้วยกันได้อยู่แล้ว ขอแค่มึงตั้งใจเพื่ออนาคตของตัวเองไปให้ไกลที่สุด คนอื่นเขามีเงินทองมีพ่อแม่คอยซัพพอร์ตแต่มึงมีมันสมองและสองมือ แถมยังมีพรสวรรค์เก่งทุกอย่าง อนาคตมึงไปได้อีกไกลเพราะฉะนั้นน้องรดาก็ไม่ไกลเกินฝันหรอก"
"ตั้งแต่คบกันเป็นเพื่อนกูยังไม่เคยเห็นมึงสนใจผู้หญิงคนไหนเลย น้องคนนี้เป็นคนแรกเลยละมั้งที่กูรู้สึกว่ามึงดูมีชีวิตชีวา"
"กูเห็นด้วยนะเว้ย ถ้าชอบก็ลุยเลยไม่ต้องไปแคร์ คนอย่างมึงไม่ได้สนใจยัยเจ๊ปากมอมนั่นอยู่แล้วนี่"
"ถ้าปัญหาเยอะเดี๋ยวกูบอกพ่อให้สั่งเก็บเลย"
ชานนท์ถึงกับกุมขมับเมื่อเพื่อนรักทั้งสี่คนดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย ชีวิตของพวกมันมีแค่การใช้กำลังอย่างเดียวเท่านั้น
"สั่งเก็บ...มึงคิดอะไรอยู่"
"เอ้า! อุปสรรคไม่ใช่เจ๊ปากมอมเจ้าของตลาดนั่นหรือไง"
"มันไม่ใช่แบบนั้น กูก็แค่คิดว่าเราสองคนฐานะต่างกันจนเกินไป และอีกอย่างเราก็รู้จักกันได้ไม่นานรดาเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับกูสักหน่อย พวกมึงอย่าไปพูดอะไรแบบนั้นล่ะ ถ้าเกิดมีใครมาได้ยินเข้าเดี๋ยวจะซวยกันหมด"
เขาเองก็ไม่อยากจะคิดให้มันไกลเกินตัว แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะพยายามสักครั้งเพราะรู้สึกว่ารดาต่างจากผู้หญิงคนอื่น เธอเป็นคนที่อ่อนโยนและดูไม่รังเกียจเขาที่เป็นเพียงแค่เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า
"พวกกูอยู่ข้างมึงนะเว้ย ถ้ารักหรือว่าชอบก็ลุยเลยพวกกูซัพพอร์ตอยู่ตรงนี้แหละ"
"ขอบใจมากเพื่อนรักทั้งหลาย ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเรื่องนี้เดี๋ยวกูจัดการเอง"
วันต่อมา...
ชานนท์ในชุดช็อปสีกรมท่าเดินมาหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ตรงโซฟาในอู่ซ่อมรถ จากนั้นก็ยกขึ้นพาดบ่าเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่อเตรียมตัวเดินไปที่วิทยาลัยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดมากนัก เนื่องจากว่าพื้นที่ตลาดอยู่ในตัวเมืองจึงอยู่ใกล้กับความเจริญหลายอย่าง
เขาหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์คันโปรดซึ่งเป็นรถที่เขาหวงแหนมากเนื่องจากว่าตกแต่งเองในทุกขั้นตอน ถึงมันจะดูเป็นมอเตอร์ไซค์คันธรรมดาสำหรับคนอื่นก็เถอะ แต่สำหรับเขาถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดแล้ว
"พี่ชานนท์!"
เขาควบรถมอเตอร์ไซค์เตรียมจะขี่ออกไปก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเล็กตะโกนมาจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มเหลือบสายตามองผ่านกระจกและเมื่อเห็นใบหน้าของรดาก็ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย
"ยังไม่ไปเรียนอีกเหรอ"
"ทำไมเมื่อคืนถึงไม่โทรมาหารดาคะ รอจนถึงเที่ยงคืนเลยนะ ทำไมพี่ถึงผิดคำสัญญา"
เธอเท้าสะเอววีนชายหนุ่มที่ตอนนี้ยิ้มมุมปากออกมาด้วยความกวนประสาท และเมื่อเธอเห็นใบหน้านั้นก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย เช้ามาก็พาให้อารมณ์เสียเนื่องจากเมื่อคืนเขาไม่ยอมโทรมาคุยกับเธอเลย
"เมื่อคืนดื่มเยอะไปหน่อยก็เลยเผลอหลับไป"
"ข้ออ้างแน่เลย"
"ก็บอกว่าเมาไง"
ทั้งสองคนจ้องมองใบหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร รดาเอามือกอดอกกอดจะสะบัดหน้าใส่เขาด้วยความงอน ชานนท์เห็นแบบนั้นก็ยื่นมือของตัวเองไปจับมือของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะดึงรั้งร่างเล็กเข้ามาหาตัว
"มางอนอะไรเมียก็ไม่ใช่"
"อ๊ะ...! มะ...เมียอะไรเล่า"
เธอถึงกลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อชายหนุ่มเอ่ยแซวแบบนั้น หญิงสาวกระแอมออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมา
"รดาจะไปเรียนแล้ว เชอะ!"
เธอเตรียมจะเดินออกไปจากอู่ซ่อมรถก็ต้องชะงักไปก่อนจะเบิกตากว้างเพราะรู้สึกว่าตัวเองเซถอยหลังไปชนกับอะไรบางอย่าง
"อ๊ะ"
"เดี๋ยวพี่ไปส่งขึ้นรถสิ"
ทั้งสองคนมองสบตากันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ของกันและกันยากที่จะหาทางออก และเมื่อได้สติรดาก็รีบปล่อยมือของเขาก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงสั่น
"ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวรดาเดินไปเอง"
"ไม่กลัวไอ้พวกโรคจิตมันลวนลามหรือไง ตอนนั้นไม่เข็ดเหรอยังจะคิดเดินไปอีก ทำไมคุณนายถึงปล่อยให้ลูกสาวคนเดียวเดินไปเรียนแบบนี้ล่ะ ได้ยินมาว่าหวงลูกสาวนักหนาทำไมถึงปล่อยให้เดินเช้าเดินเย็น"
เขารู้สึกสงสัยไม่น้อยเพราะโดยปกติคนที่หวงลูกสาวมากถึงขั้นนั้นไม่น่าที่จะปล่อยให้ลูกเดินไปโรงเรียนด้วยตัวเอง
"ความจริงแม่ให้คนขับรถไปส่งค่ะ แต่ว่า..."
"ว่า..."
"รดาอยากเจอพี่ชานนท์ก็เลยให้คนขับรถส่งในตลาด"
เธอเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกเขิน เบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่กล้าสบสายตากับเขาโดยตรง มือทั้งสองข้างจับจีบกระโปรงของตัวเองเอาไว้ก่อนจะกำเอาไว้แน่นเพราะรู้สึกว่าหัวใจเริ่มเต้นรัวอย่างประหลาด
"ดื้อเหมือนกันนะเนี่ย นึกว่าลูกสาวเพียงคนเดียวจะกลัวแม่ของตัวเองซะอีก"
"ไม่ค่ะรดาไม่กลัวคุณแม่ และท่านก็ไม่สามารถห้ามรดาได้เช่นกัน โดยเฉพาะรดาจะรักใครชอบใครก็เป็นสิทธิ์ของรดาเอง"
เธอจ้องมองสบตากับเขาด้วยสีหน้าแววตาที่จริงจังเป็นอย่างมาก ชานนท์เห็นแบบนั้นก็กระแอมออกมาเล็กน้อยก่อนจะดึงตัวหญิงสาวให้มาซ้อนตรงท้ายมอเตอร์ไซค์
"เดี๋ยวพี่ไปส่งที่โรงเรียน"
"ขอบคุณค่ะ"
เธอยิ้มออกมาทันทีก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายของเขา จากนั้นก็ใช้มือเล็กทั้งสองข้างกอดเอวของชายหนุ่มเอาไว้ เอาแก้มเอิบอิ่มแนบไปที่แผ่นหลังของเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีและรู้สึกว่าจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่เต้นรัวเหมือนเธอเช่นกัน
"จะกอดทำไมเล่ารัดแน่นเกินไปแล้ว"
"รดาตกรถมอไซค์ขึ้นมาจะทำยังไง พี่ชานนท์รับผิดชอบไหวเหรอ"
"แสบเอ๊ย!"
"ว่าแต่ทำไมหัวใจเต้นเร็วจังคะ"
รดายื่นมือของตัวเองที่กอดเอวอยู่ไปจับตรงหัวใจของเขาก่อนจะรู้สึกว่ามันเต้นรัวแทบจะทะลุออกมานอกอก เขาเดินลวนลามแบบนั้นก็สะดุ้งด้วยความตกใจ รีบดึงมือของเธอออกก่อนจะจับข้อมือของเธอมาวางไว้ที่เอวของเขาตามเดิม
"ลวนลามผู้ชายนิสัยไม่ดี"
"ก็แค่จับหัวใจเองนะ"
"เฮอะ!"
