บทที่ 6 มารับเธอแล้ว

"แล้วหนูมุกละครับ?" อลันถามไปอย่างนั้น แต่เมื่อกี้นี้เขาเห็นเธอตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาแล้วว่าเธอยืนอยู่หน้าบ้าน แว็บแรกเขาดีใจคิดว่าเธอออกมายืนรอรับเขา  แต่แล้วจู่ๆ เธอก็วิ่งกลับเข้าบ้านไปทันที เฮ้ย!

"สงสัยจะลืมของเห็นบอกว่ามีธุระสำคัญต้องออกไปข้างนอก...วิ่งขึ้นห้องไปแล้ว" เอกวุฒิเลือกที่จะตอบและให้อีกเหตุผลอื่นไป แต่ทั้งสองต่างก็เข้าใจในการกระทำของหนูมุกดี อลันขมวดคิ้วทันทีและขอตัวไปหาต้นเหตุของการมาเมืองไทยครั้งนี้

แกร๊ก...แกร๊ก หนูมุกหันไปมองตามเสียงลูกบิดประตูทันที และไม่ทันที่เธอจะวิ่งไปยับยั้งประตูก็ถูกผลักเข้ามา พร้อมกับที่อลันเดินผ่านประตูเข้ามาและปิดประตูลงพร้อมกับยืนขวางประตูด้วยรอยยิ้ม และโชว์พวงกุญแจที่เกี่ยวไว้กับนิ้วและควงเล่นอย่างท้าทายหญิงสาวตรงหน้า อลันคาดไว้อยู่แล้วว่าหนูมุกต้องล็อคห้องจึงแวะไปหยิบกุญแจก่อน

หนูมุกมองภาพนั้นอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่โวยวายอะไร อลันจ้องตาเธอและไล่ลงมาที่จมูกปากและรูปร่างที่สมส่วนเอวคอดสะโพกกลมงอน ขาเล็กเรียวยาวภายใต้กางเกงยีนส์สีซีดเข้ารูปนั้น สามปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอและได้ยินเสียงเธอแบบตรงๆ มีแต่ภาพแอบถ่ายในกิจกรรมต่างๆ ของเธอจากลูกน้องของพ่อที่เขาขอให้ส่งมาคอยติดตามดูแลเธออยู่ห่างๆ อลันยังยืนอยู่ที่เดิม ทั้งๆ ที่ใจอยากจะดึงร่างบางเข้ามากอดและทำอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย แต่เขาก็ต้องยับยั้งช่างใจไว้ เพราะตอนนี้หญิงสาวตรงหน้าดูจากท่าทางและแววตาตอนนี้แล้วเธอคงยอมเขาหรอกนะ แต่เขาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้

"คิดถึงจัง" หนูมุกหลี่ตามองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่วางใจ กับคำทักทายที่พึ่งเข้าหูไปหมาดๆ

จะมาไม้ไหน หนูมุกคิดในใจ เข้มแข็งไว้ หนูมุกเธอตอกย้ำเตือนสติของตัวเอง ความรู้สึกที่ได้รับเมื่อสามปีก่อนเธอไม่เคยลืม 'จูบแรก' เขาได้จูบแรกของเธอไปแล้ว หลังจากนั้นสิ่งที่เธอได้รับตอบแทนคือความห่างเหินหลบหน้า หนูมุกยอมรับว่าเสียใจเป็นอย่างมาก หลังจากคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนที่เขาสอนให้เธอรู้จักสิ่งที่เรียกว่า 'จูบ' เขาทำกันอย่างไรและเขาก็ขอตัวออกไปทำงาน

หนูมุกยังจำความรู้สึกนั้นได้ว่ามันเป็นอย่างไร เธอทั้งตกใจและตื่นเต้นอย่างที่สุดเป็นประสบการณ์ใหม่แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกดี เพราะคนที่ให้ประสบการณ์นี้คือชายที่เธอทั้งรักและบูชาเป็นที่สุด คืนนั้นกว่าเธอจะหลับลงได้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมง พี่อลันก็ยังไม่กลับมาจนเธอเผลอหลับไปและมาตื่นในตอนเช้าไร้ซึ่งเงาและร่องรอยการกลับเข้ามานอนของอลัน

แต่นั่นหนูมุกยังไม่ได้รู้สึกแย่แต่อย่างใด มันหลังจากนั้นต่างหากที่เขาให้เธอกลับประเทศไทยพร้อมคุณพ่อคุณแม่ และตลอดเวลาที่เหลืออยู่ที่นั่นเธอมั่นใจเลยว่าพี่อลันหลบหน้าเธอ เขาไม่กลับมานอนที่บ้านอ้างว่าต้องทำงานจะกลับมาเฉพาะเวลาทานมื้อเช้ากับมื้อเย็นเท่านั้น และบอกแต่เพียงว่าต้องกลับไปดูงาน การกระทำแบบนั้นของเขาทำให้หนูมุกรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าที่สุด

หลังจากที่เธอกลับมาเมืองไทยครั้งนั้น เธอก็พยายามที่จะใช้ชีวิตให้เป็นปกติทั้งในด้านความรู้สึกและกิจวัตรที่ตลอดสิบเจ็ดปี พี่อลันจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับเธอทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเรียนที่บางอย่างที่เธอไม่เข้าใจก็จะถามเขาตลอด แม้จะห่างกันคนละทวีปแต่ก็เหมือนอยู่ใกล้กัน อลันจะมีเวลาให้กับเธอทุกครั้งยามที่เธอต้องการเขา พี่อลันของหนูมุก

อลันสังเกตว่าเหมือนหนูมุกเหม่อๆ กำลังตกอยู่ในภวังค์คิดอะไรอยู่ ก็เลยค่อยๆ ขยับเดินเข้าไปหา แต่แค่เพียงก้าวที่สองหนูมุกได้สติกลับมา พร้อมถอยห่างเขาไปสองก้าวทันทีเพื่อรักษาระยะห่างไว้ อลันหยุดการลุกล้ำและจ้องมองเข้าไปในดวงตานั้นอย่างท้าทาย

หนูมุกก็ไม่ยอมแพ้เมื่อเจอสายตาท้าทาย ถ้าหลบตาก็จะหาว่าเธอกลัว อลันก้าวเข้าไปหาหนูมุกอีกหนึ่งก้าวและเป็นไปตามที่คาด หนูมุกถอยหนึ่งก้าว แต่ก็ไม่ยอมละสายตาจากกันและกัน และเหมือนเดิมอลันทำเหมือนเดิมหนูมุกก็สนองกลับเหมือนเดิม อลันยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากตามเอกลักษณ์นิสัยของเขาที่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้

หนูมุกเอะใจกับรอยยิ้มนั้น แต่ช้าไปแล้วเมื่อคราวนี้อลันเปลี่ยนเป็นก้าวยาวๆ และเร็วขึ้น หนูมุกตกใจถอยหลังแต่ได้แค่เพียงก้าวเดียวเธอก็หงายหลังลงสู่พื้นผิวผ้าปูที่นอนที่เก็บเรียบร้อยแล้วนั้นทันที

"ว้าย!!!!"  หนูมุกร้องออกมาด้วยความตกใจ  และร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเขาตามลงมาใช้ทั้งแขนขากำยำรวมถึงตัวเขาทั้งตัวกักขังตัวเธอไว้ใต้ร่างเขาตาจ้องตากันโดยที่ใบหน้าห่างกันแค่หายใจรดกัน อลันลดสายตาลงมามองที่ปากบางสีชมพูอ่อนๆ ด้วยลิปสติกบางๆ เขาค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ด้วยวัตถุประสงค์เดียวที่ตลอดสามปีมานี้ต้องหักห้ามใจ ทั้งๆที่โหยหาเป็นที่สุด

"อืม!...ปล่อยนะ" ประโยคแรกในรอบสามปีที่หนูมุกพูดกับเขา เพื่อมาขวางกั้นการบรรลุวัตถุประสงค์ของเขา

"ยอมพูดออกมาจนได้" หนูมุกเสมองไปทางอื่นทันที เพราะตอนนี้ผิวหน้าอมชมพูของเธอแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะเสียงกระซิบที่ตอบกลับมานั้นห่างริมฝีปากเธอแค่มดวิ่งผ่านได้เท่านั้น หนูมุกเม้มปากแน่นตามสัญชาติญาณโดยทันทีพร้อมกับกลั้นหายใจไว้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป