บทที่ 8 เธอพยายามร้องเตือนตัวเองมากกว่าจะเตือนเขา

หนูมุกยกสองแขนโอบรอบคอแกร่งเรียนรู้รองรับการจูบครั้งที่สองของชายคนเดิม เด็กสาวที่ตกไปในหลุมความรู้สึกที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไรจังหวะการเต้นของหัวใจของหนูมุกเต้นถี่เร็วจนทำให้เธอหายใจไม่ทัน อลันค่อยๆ ถอนจูบอ่อนโยนนั้นย้ายมาสูดดมจุมพิตแผ่วเบาที่ลำคอเรียวแทน

"มุก...อืม!...อ้าร์ส..." หนูมุกรับรู้ถึงความรู้สึกใหม่ประสบการณ์ใหม่อีกอย่างที่อลันได้ส่งมอบให้กับเธอจนต้องร้องครางออกมาอย่างลืมตัว "...มุก...ต้องไป...แล้ว..." เธอพยายามร้องเตือนตัวเองมากกว่าจะเตือนเขา อลันหอบหายใจอย่างกักเก็บความรู้สึกที่ได้ปะทุออกมาแล้ว เป็นแบบนี้อีกแล้วสินะ อลันคิดในใจ แต่นับจากวันนี้ไปเขาจะเดินหน้าแบบนนสต๊อป อลันจึงค่อยๆ ขยับตัวออกจากเธอย้ายตัวเองไปนอนหงายอยู่ข้างๆ  แต่ไม่ยอมลืมตาต้องทำแบบนี้เท่านั้นเขาถึงจะปล่อยให้หนูมุกให้ออกไปได้

"ครับ...พี่ขอพักที่ห้องนี้แล้วกัน" อลันพูดแบบมีนัยยะและยังไม่ลืมตาและไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอเพื่อแสดงให้หนูมุกรับรู้ว่าเขาต้องการนอนหลับพักผ่อนจริง

หนูมุกลุกขึ้นนั่งและแอบมองเห็นเขานอนนิ่งๆ โอนอ่อนผ่อนตามความต้องการของเธออย่างง่ายได้ แต่ทำไมตัวเธอใจเธอและความรู้สึกเธอถึงไม่ดีใจหรือรู้สึกดีสักนิด มันกลับรู้สึกแย่มากกว่าเดิม ทำไม?...  หนูมุกได้แต่ถามตัวเองในใจ และลุกจากเตียงเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

เมื่อได้อยู่เพียงลำพังอลันจึงค่อยๆ เปิดเปลือกตามองตามแผ่นหลังของร่างบางที่เดินออกจากห้องไปแล้ว ผู้หญิงที่เขาทั้งรักทั้งทะนุถนอมกว่าสิ่งใดในโลกค่อยๆ ห่างสายตาออกไป เขาจำต้องยอมปล่อยเธอเดินออกไปจากห้องแต่ไม่ใช่จากชีวิตเขาแน่นอน ซึ่งจริงๆ แล้วเขากับเธอก็อยู่ด้วยกันตลอดเวลา พึ่งจะห่างกันแค่ช่วงสามปีที่ผ่านมาเท่านั้น เพราะเขาต้องยุ่งวุ่นวายเรียนรู้กับธุรกิจมากมายของครอบครัว หลังจากที่เขาเรียนจบปริญาโทด้วยวัยยี่สิบสี่ปีที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งทันทีที่เขาเรียนจบเขาก็รับช่วงต่อจากพ่อเขาทันที ตลอดสามปีนี้ทำให้เขาไม่มีเวลากลับมาหาปิ่นมุก หญิงสาวที่เขาโอบอุ้มเลี้ยงดูมาตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ และตอนนี้เธอกำลังศึกษาระดับปริญญาตรีปีสี่ มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย

ปิ่นมุกเป็นเด็กที่ฉลาดและเรียนเก่งมาก เธอสามารถสอบเทียบระดับทำให้เธอสามารถจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้วยวัยยี่สิบเอ็ด เพราะตอนนี้เธอกำลังจะขึ้นปีสี่เหลืออีกเพียงปีสุดท้ายเธอก็จบตามคาดหวังไว้ แต่การกลับมาครั้งนี้ของเขาเพื่อมารับเธอไปอยู่ด้วยและให้เธอโอนเทียบหน่วยกิตเพื่อไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาต้องการ อลันค่อนข้างหนักใจเพราะเจ้าตัวดูท่าจะไม่ยอมท่าเดียวและไม่ปฎิบัติตามคำสั่งเขาเลย จึงทำให้เขาต้องบินมาประเทศไทยก่อนกำหนดเพื่อมาจัดการด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่งานที่นั้นยังไม่เรียบร้อย

"อดัม" อลันบ่นพึมพำเรียกชื่อน้องชายอย่างเป็นทางออก เพราะคงต้องขอความช่วยเหลือให้น้องบินไปช่วยควบคุมสถานการณ์แทนเขาที่อังกฤษ เพราะเขารู้ว่าสถานการณ์ของน้องสาวท้องชนกันของเขา คงไม่มีใครจัดการได้นอกจากเขาเท่านั้น

อลันมองรอบห้องนอนของเขากับเธอตั้งแต่เยาว์วัย และเห็นกล่องของขวัญวางซ้อนเรียงรายโดยปราศจากการแกะประมาณยี่สิบกล่อง กล่องเล็กบ้างใหญ่บ้างวางไว้แบบไม่ได้รับความสำคัญและใส่ใจจากเจ้าของเลยสักนิด เพราะมันเป็นของขวัญจากเขา น่าจะประมาณสองสามปีได้ดูจากจำนวนกล่องเพราะเขาจะส่งให้กับเธอทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่วันเด็กของประเทศไทย วาเลนไทน์ วันแม่ วันพ่อ คริสมาส ของขวัญวันเกิด แม้แต่วันที่เขากับเธอต้องห่างกันเป็นครั้งแรก ตอนนั้นปิ่นมุกอายุเจ็ดขวบและเขาอายุสิบห้าปี

อลันยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้เด็กน้อยปิ่นมุกร้องไห้ฟูมฟายน้ำหูน้ำตาไหลยังกับเขื่อนแตกไม่ยอมให้เขาจากไปท่าเดียว

"หนูมุกไม่ร้องนะ...โอ๋ๆๆๆ...." อลันเด็กชายอายุเพียงสิบห้าปี นั่งคุกเข่าสองมือพัลวันทั้งรูปผมยาวดำของเด็กผู้หญิงที่ร้องไห้ฟูมฟายน้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุดและอีกมือของเขาต้องคอยเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมายังกับเขื่อนแตก

"หนู...ฮือ!!!..มุก...ไม่ให้...ฮือ...ไป...ฮือออออ...." หนูมุกร้องไปพูดไป "หนูมุก...ฮือ...เปลี่ยน...ใจ...ฮือออออ" อลันโอบกอดเด็กสาววัยเจ็ดขวบเข้ามาในอ้อมแขนด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างไปจากเด็กในอ้อมแขนนี้เลย เขาเองก็ไม่อยากจากหนูมุกไปเลย เขาทั้งรักและช่วยพ่อแม่ทูนหัวเลี้ยงหนูมุกไม่ต่างไปจากไข่ในหิน ทั้งๆ ที่มีการพูดคุยและตกลงกันกับหนูมุกมากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วว่าเขาต้องเดินทางกลับประเทศอังกฤษ ตลอดสัปดาห์ทั้งเขาทั้งพ่อแม่ทูนหัวค่อยๆอธิบายให้หนูมุกเข้าใจ แต่พอมาถึงวันนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิเขาที่กำลังจะเดินเข้าเกทหนูมุกวิ่งเข้ามาดึงเขาและร้องไห้ฟูมฟายเสียงดัง เขาก็เข้าใจอยู่หรอกว่าจะเอาอะไรมากมายกับเด็กอายุเจ็ดขวบ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป