บทที่ 9 หลบหลีกตั้งหลักใหม่

"หนูมุก...เดี๋ยวพี่ไปถึงจะเฟสทามมาหาหนูมุกทันที...ยังจำที่พี่สอนได้หรือเปล่า"

"จำไม่ได้" หนูมุกตอบกลับทันทีแต่น้ำตาก็ยังไหล หน้าตาแดงก่ำเพราะการร้องไห้หนักมาก

"ไหนขอดูสร้อยที่พี่ให้หน่อยสิครับ" หนูมุกดึงสร้อยคอทองคำขาวออกมาโดยจี้นั้นเป็นแหวนวงเล็กๆที่ดัดแปลงเป็นจี้ "เก็บรักษาไว้ให้ดีนะครับ...แล้วปิดเทอมนี้หนูมุกต้องบินไปหาพี่ที่อังกฤษนะครับ...พี่จะรอ"

"น่ารักมากหนูมุกของพี่" อลันพูดจบก็หอมแก้มที่ชื้นเปียกไปด้วยน้ำตาทั้งสองข้าง และหนูมุกก็เช่นเดียวกันก็หอมแก้มอลันกลับทั้งสองข้างกลับอย่างไม่ยอมแพ้ และหลังจากนั้นเอกวุฒิก็เข้ามาอุ้มเธอไว้ อลันยืนขึ้นยกมือไหว้พ่อทูนหัวอีกครั้งและเหลือบตาไปมองแม่ทูนหัวที่ตอนนี้น้ำตาไหลออกมาพร้อมโบกมือลา และก่อนที่เขาจะหันหลังก็โบกมือลาหนูมุกอีกครั้ง เธอกโบกมือลาตอบพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้งและสองมือของเด็กน้อยของหนูมุกก็โอบรอบคอบิดาซุกหน้าร้องไห้ครั้งใหญ่อีกครั้ง และนั้นเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่อลันหันหลังเดินเข้าเกทด้วยแววตาพร่าเลือน

"เฮ้ย!...แกเป็นอะไร...เป็นฝ่ายนัดพวกฉันออกมา...แต่แกกลับมานั่งยังกับคนไม่มีวันพรุ่งนี้ให้มาถึงยังไงยังงั้น" อมิตาหรือตา เพื่อนสาวคนสนิทเอ่ยขึ้น

"ตา...คืนนี้ขอไปนอนบ้านแกด้วยนะ" อมิตาหันไปมองเพื่อนที่อาการแปลกมากที่ถามอย่างพูดอีกอย่าง

"ขอทำไม...หนูมุกแกอยากไปตอนไหน...บ้านฉันต้อนรับแกตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว" อมิตาหันไปมองเพื่อนอีกครั้ง

"ขอบใจ" ปิ่นมุกพูดแค่นั้นอมิตาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะรู้จักปิ่นมุกเป็นอย่างดี ถ้าอยากเล่าก็คงเล่าออกมาเอง อมิตาพยักหน้าแค่นั้นพร้อมเอื้อมมือไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ  อย่างเข้าใจและให้กำลังใจ

"เย้ยยยยย" อมิตาร้องออกมาต่อจากนั้นทันที เมื่อนายเติ้ลเพื่อนชายที่ตัวเองคิดมากกว่าแค่เพื่อนขับรถแข่งเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่ง และหันกลับมามองคนที่นั่งข้างๆ ที่แค่ยิ้มดีใจระดับความดีใจแค่บันไดขั้นที่สอง ต่างจากเธอที่ความดีใจบันไดขั้นสูงสุด

"เป็นไงบ้างมุก...วันนี้เราทำเวลาดีขึ้นว๊ะ" เติ้ลหรือสุพัฒน์ถามความเห็นเพื่อนสาว

"อืม"

"อืม...แค่นี้เนี่ยนะ...แล้วนี่ตกลงแกจะลงสนามเหรอเปล่า"

"ไม่อ๊ะ...ไม่มีอารมณ์" อมิตานั่งมองการสนทนาระหว่างปิ่นมุกกับนายเติ้ลอย่างเงียบๆ  แบบที่เป็นมาตลอด

"เอ่อ...ตามใจ...ว่าแต่แกจะเดินทางวันไหน" เติ้ลตัดสินใจถามเพื่อนสาวเพราะเขารู้เรื่องที่เธอต้องไปเรียนต่อที่อังกฤษในปีสุดท้าย  เขามองเพื่อนอย่างต้องรักษาสถานภาพความเป็นเพื่อนไว้ ทั้งๆ ที่ตัวเองคิดกับปิ่นมุกมากกว่าเพื่อนมานานแล้ว แต่ตัวเขาก็รู้เช่นกันว่าปิ่นมุกมีพี่อลันในใจเพียงคนเดียว เขาเคยคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปอะไรๆ ก็อาจเปลี่ยนแปลงและสามปีที่ผ่านมาที่หนูมุกไม่ได้บินไปหาพี่อลันเลยนั้น เขาเคยคิดว่าเวลานั้นที่เขารอคอยอาจมาถึง แต่แล้วมันก็ไม่ใช่เพราะหนูมุกก็ยังเป็นหนูมุกของพี่อลันไม่เปลี่ยนแปลง

"ไม่รู้"

"เอ่อ...มุก...ฉันยังไม่ได้บอกแกว่า...ฉันตัดสินใจจะไปเรียนต่อโทที่อังกฤษแล้วว๊ะ" ปิ่นมุกหันมามองเพื่อนชายพร้อมรอยยิ้มที่ออกมาอย่างดีใจ ก่อนหน้านี้เธอเคยถามหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ

"ฉันจะรอนะ" ปิ่นมุกตอบออกไป อมิตามองทั้งสองคนอย่างเงียบๆ เธอก็พอจะดูออกว่านายเติ้ลเพื่อนที่เธอแอบรู้สึกมากกว่าเพื่อนนั้น เขาก็รู้สึกกับ   ปิ่นมุกมากกว่าแค่เพื่อน แต่เธอคิดว่าทั้งเขาและเธอต่างก็ให้ความสำคัญของความสัมพันธ์ของเพื่อนมาเหนือสิ่งอื่นใด จึงพยายามหยุดความรู้สึกให้อยู่ในกรอบของแค่เพื่อนในเมื่ออีกฝ่ายต้องการรับรู้สถานะแค่นั้น

อมิตาพึ่งจะรู้จักเป็นเพื่อนกับหนูมุกตอนย้ายมาเรียนมัธยมต้นที่ภูเก็ตตามคุณพ่อกับคุณแม่ที่พึ่งย้ายมาตั้งรกรากที่นี่ ปิ่นมุกกับสุพัฒน์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้วและเมื่อทั้งสามจบมัธยมปลายก็ไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แม้ต่างสถาบันกันมีแต่เธอกับสุพัฒน์ที่เรียนสถาบันเดียวกันแต่คนละคณะแต่ทั้งสามก็ยังไปมาหาสู่กันตลอด

"งั้นเดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน...รอแป็บนะเดี๋ยวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน"   เติ้ลบอกก่อนที่จะลุกเดินออกไป และตัวเขาย้อนคิดไปถึงเมื่อเช้าตอนที่เขาเข้าไปรับปิ่นมุกและได้เจอกับเอกวุฒิพ่อของเพื่อนสาว ตอนที่เขาถามหาเพื่อนสาวทำให้เขารู้ถึงสาเหตุที่เพื่อนสาวต้องรีบร้อนออกจากบ้านวันนี้ สาเหตุคือพี่   อลันนั่นเอง เขากลับมารับหัวใจของเขาแล้วสินะ! นายเติ้ลรู้ว่าหลังจากวันนี้ไปเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกับปิ่นมุกอีกนาน และมันเป็นสาเหตุที่เขาตัดสินใจไปเรียนต่อที่อังกฤษแค่ปีเดียว เพราะเขาเองก็ตั้งใจเรียนเพื่อที่จะได้อยู่เคียงข้างเธอ เรียนจบพร้อมปิ่นมุกเช่นเดียวกัน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป