บทที่ 3
เห็นได้ชัดว่าตัวตนของแคมป์นั้นสูงส่งเกินกว่าที่สุภัคคาดคิดไว้เสียอีก
เธอมองดารินด้วยแววตาพึงพอใจ แล้วพูดด้วยท่าทีเหนือกว่า “เธอตามฉันเข้ามา”
ดารินเดินตามสุภัคเข้าไปในวิลล่า เมื่อเปลี่ยนรองเท้าที่โถงทางเข้าบ้านเสร็จก็เดินมายังห้องนั่งเล่น
สุภัคพอนั่งลงก็เริ่มถามเธอเกี่ยวกับเรื่องของแวนซ์ทันที
ดารินไม่ได้ปิดบัง เรื่องเมื่อคืนวุ่นวายใหญ่โตขนาดนั้น สุภัคแค่ลองไปสืบถามดูก็รู้ได้ง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องปิดบัง
“หนูกับเขาจบกันแล้วค่ะ เขาจีบหนูแค่เพราะพนันกับคนอื่น ไม่ได้คิดจะแต่งงานกับหนูจริงๆ”
“โง่เง่า!” สุภัคสบถออกมาคำหนึ่ง
ดารินก้มหน้า ไม่ได้พูดอะไร
เธอรู้ว่าสุภัคกำลังด่าว่าเธอไม่รู้จักมัดใจผู้ชาย
เธอไม่ได้สนใจว่าทำไมแวนซ์ถึงมาจีบดาริน แต่กลับโทษดารินที่ทำให้ความฝันของตระกูลสมิทธิ์ที่จะได้เกี่ยวดองกับตระกูลรัตน์ต้องพังทลายลง
เมื่อเห็นดารินไม่พูด สุภัคก็ยิ่งโมโห ลุกขึ้นเดินเข้ามาตบหน้าฉาดใหญ่
“แกคิดว่าแวนซ์ไม่แต่งกับแก แล้วแคมป์จะแต่งเหรอ? ตระกูลโฮรินเป็นใครกัน ถึงจะมามองคนอย่างแก? ฉันเตือนแกไว้นะ ไม่ว่าแวนซ์จะจีบแกเพราะอะไร แต่เขาก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่แกจะหาได้แล้วสำหรับการแต่งงาน ไม่อย่างนั้น แกก็ต้องทำตามที่ฉันจัดการให้! จะทำยังไง ก็ไปคิดเอาเอง!”
ยอมรับการจัดการของเธอน่ะเหรอ?!
แค่คิดถึงชายแก่ที่มองเธอด้วยสายตาหื่นกระหายคนนั้น ดารินก็รู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอาเจียน
หลานชายคนเล็กของชายแก่คนนั้นยังอายุมากกว่าเธอเสียอีก จะให้เธอแต่งงานกับเขาน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ!
ดารินตอบรับสุภัคไปส่งๆ แล้วหันหลังเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเอง
ทันทีที่ปิดประตูลง ร่างกายที่ทนมาถึงขีดสุดก็พังทลายลง เธอทิ้งตัวลงบนเตียง ดวงตาเบิกกว้างมองเพดานด้านบน
ในวินาทีที่น้ำตาไหลรินลงมาอย่างเงียบงัน ดารินบอกกับตัวเองว่า อดทนอีกนิด อดทนอีกหน่อยเธอก็จะสลัดพ้นจากครอบครัวของป้าสุภัคได้แล้ว
เรซูเม่ที่เธอส่งไปยังบริษัทต่างประเทศได้รับการตอบกลับแล้ว และเธอก็ผ่านการคัดเลือกรอบแรกแล้วด้วย
ขอแค่ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย เธอก็จะสามารถไปทำงานและหนีไปจากครอบครัวนี้ได้ไกลๆ
โทรศัพท์ดังไม่หยุด ดารินขมวดคิ้ว ฝืนร่างกายที่อ่อนล้าหยิบกระเป๋าขึ้นมา
เปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ออกมา ถึงได้เห็นว่าแวนซ์โทรหาเธอหลายสายมาก แถมยังส่งข้อความเสียงในวีแชตมาอีกหลายสิบข้อความ
แค่สุ่มกดเปิดฟังข้อความหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงสบถด่าทอด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างบ้าคลั่งของผู้ชาย
ก็ไม่พ้นด่าว่าเธอเป็นนางแพศยาที่ไปอ่อยเพื่อนของเขา
เขาเป็นเหมือนคนบ้า คงจะด่าด้วยคำหยาบทั้งหมดที่สรรหามาได้ในชีวิตนี้แล้ว
ดารินไม่มีอารมณ์จะมานั่งฟังทีละข้อความว่าเขาด่าตัวเองว่าอะไรบ้าง เธอจึงกดลบทิ้งแล้วบล็อกทันที!
ในวินาทีที่โลกกลับมาสงบสุข เธอกลับไปมองแคมป์ที่อยู่ในรายชื่อเพื่อนของเธออีกครั้ง
นี่เป็นเพื่อนที่เพิ่มกันไว้เมื่อตอนเช้าที่เขามาส่งเธอกลับบ้าน
ดารินไม่ได้ไปรบกวนเขา เธอปิดโทรศัพท์ หันไปกอดผ้าห่ม ไม่นานก็ผล็อยหลับไป
หลายวันต่อมา ดารินยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวสำหรับการคัดเลือกรอบสุดท้ายของบริษัทต่างประเทศ
เนื่องจากแคมป์มาส่งเธอถึงบ้าน ป้าสุภัคจึงสงบเสงี่ยมไปพักหนึ่ง แต่เมื่อเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นแคมป์หรือแวนซ์ก็ไม่ได้มาหาดารินเลย เธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป!
เธอเริ่มจัดการนัดบอดให้ดารินอีกครั้ง แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่หมายปองในความงามของดารินและมาสู่ขอ แต่กลับถูกสุภัคใช้แวนซ์เป็นข้ออ้างปฏิเสธไป ท้ายที่สุดดารินก็ถูกแวนซ์ทิ้งอีก
เมื่อเป็นเช่นนี้ ดารินก็กลายเป็นของมีตำหนิ หาคนที่เหมาะสมมารับช่วงต่อไม่ได้ สุภัคจึงทำได้เพียงพาเธอไปร่วมงานเลี้ยง
ผู้หญิงสวยไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มักจะกลายเป็นจุดสนใจของคนอื่นเสมอ
โดยเฉพาะดารินที่ถูกสุภัคจับแต่งตัวอย่างประณีต ราวกับดอกกุหลาบที่เบ่งบานอย่างงดงามที่สุด โดดเด่นอยู่กลางงานเลี้ยง
สายตาของผู้ชายเกือบทั้งงานต่างจับจ้องมาที่ร่างของเธอ ความงามของเธอกลายเป็นเครื่องมือชั้นยอดในการเข้าสังคมของสุภัค
ตลอดทั้งงานเลี้ยง สุภัคได้รับข้อเสนอความร่วมมือทางธุรกิจมาไม่น้อย
ดารินเองก็ต้องเพิ่มช่องทางการติดต่อของผู้ชายหลายคนตามคำสั่งของเธอ
ในช่วงท้ายของงานเลี้ยง ในขณะที่ดารินคิดว่างานสังคมที่แฝงไปด้วยจุดประสงค์นี้กำลังจะสิ้นสุดลง เธอก็ถูกสุภัคผลักไปให้ชายคนหนึ่ง
“คุณพลคะ ดารินของเราเป็นเด็กดีนะคะ คุณต้องช่วยฉันดูแลเธอให้ดีๆ ด้วยนะ! ไม่ต้องรีบส่งเธอกลับเร็วหรอก พวกคุณสนุกกันให้เต็มที่สำคัญที่สุด!”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ดารินรู้สึกราวกับตกลงไปในเหวน้ำแข็ง!
เธอนึกว่ามีบารมีของแคมป์คอยข่มอยู่ อย่างน้อยป้าสุภัคคงจะไม่คิดแผนอะไรกับเธอไปอีกสักพัก
ไม่นึกเลยว่าป้าสุภัคจะใจร้อนรนขนาดนี้ ถึงขั้นที่เมื่อการนัดบอดไม่ได้ผล ก็ขายเธอทิ้งเหมือนสินค้าราคาถูกเพื่อแลกกับผลประโยชน์โดยตรง
ก่อนที่สุภัคจะจากไป เธอยังส่งสายตาข่มขู่มาให้ดารินอีกด้วย
หัวใจของดารินมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน พ่อของเธอขายเธอให้กับป้าสุภัคเพื่อเงิน
ตอนนี้ป้าสุภัคของเธอก็ขายเธอให้กับผู้ชายคนอื่นเพื่อเงินอีกทอดหนึ่ง
“คุณดารินคงเหนื่อยแล้วสินะครับ เราไปหาที่เงียบๆ พักกันหน่อยดีกว่านะ!”
ชายที่ชื่ออัครพลรอจนสุภัคจากไป ก็รีบร้อนจะพาดารินไปทันที
เขาไม่รอให้ดารินตอบ ก็โอบไหล่ของเธอแล้วพาเดินออกจากงาน
รอบด้านเต็มไปด้วยสายตาที่มองดูเรื่องสนุก ผู้หญิงหลายคนมองเธอด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม
ดารินพยายามผลักมือของผู้ชายคนนั้นออก แต่เขาโอบไว้แน่นมากจนผลักไม่ออก เธอกำลังจะถูกพาตัวไปอยู่รอมร่อ
ด้วยความร้อนใจ ดารินจึงร้องเสียงแหลม “คุณพลคะ...”
“เป็นอะไรไปเหรอ?” เมื่อมีสาวงามหยาดเยิ้มอยู่ในอ้อมแขน คุณพลก็แทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นว่าบนเตียงเธอจะเด็ดดวงขนาดไหน
“ขอโทษค่ะ พอดีว่าฉันดื่มน้ำไปเยอะหน่อย อยากจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ”
ไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นมา ดวงตาของคุณพลก็เป็นประกายขึ้นมา “ห้องน้ำเหรอ ดีเลย! เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน!”
พูดจบ เขาก็เปลี่ยนทิศทาง ลากดารินไปยังห้องน้ำ
ดารินเดาออกว่าผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไร ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อกาฬแตกพลั่ก เธอถูกเขาฉุดลากจนหน้ามืดตาลายไปไกล
เมื่อออกมาจากห้องจัดเลี้ยง ก็เดินผ่านแถวห้องส่วนตัว
ดารินไม่ต้องการที่จะนั่งรอความตาย เธอเหลือบไปเห็นประตูห้องหนึ่งไม่ได้ล็อก จึงกัดฟันเตะคุณพลไปทีหนึ่ง แล้วฉวยโอกาสตอนที่เขาเจ็บจนปล่อยมือ ผลักประตูห้องส่วนตัวพรวดพราดเข้าไป
ปัง! ดารินปิดประตูห้องลง พิงประตูหอบหายใจอย่างหมดแรง ใบหน้าซีดเผือด
พออาการดีขึ้นเล็กน้อย คิดจะขอโทษเจ้าของห้อง แต่พอหันหน้าไปก็เห็นคนทั้งโต๊ะกำลังมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะบรรยาย
ดาริน: ......
เธอมองแวนซ์ที่นั่งอยู่ตรงกลางโต๊ะ รู้สึกว่าไม่มีเรื่องอะไรจะบังเอิญไปกว่านี้อีกแล้ว
เธอเพิ่งจะอ้าปากคิดจะอธิบาย แวนซ์ที่อยู่ทางนั้นก็แสยะยิ้มมุมปากออกมา
คนที่นั่งข้างๆ เขาล้วนเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งรู้เรื่องของพวกเขาสองคนเป็นอย่างดี
ตอนนี้พอเห็นเธอ ทุกคนก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“เหอะ ฉันว่าแล้วว่าพอได้ยินว่าแวนซ์มีแฟนใหม่ ยัยนี่ต้องนั่งไม่ติดรีบตามมาแน่”
“ดูชุดที่ใส่มานั่นสิ ตั้งใจแต่งตามรสนิยมของแวนซ์เลยนี่หว่า!”
“แวนซ์ ว่าไงวะ?”
ดารินถึงได้สังเกตเห็นว่าข้างกายของแวนซ์ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่
เป็นผู้หญิงคนละขั้วกับเธอโดยสิ้นเชิง ดูใสซื่อบริสุทธิ์ ราวกับดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ
ทุกคนมองแวนซ์ด้วยสายตาที่รอชมเรื่องสนุก
แวนซ์คาบบุหรี่ไว้ในปาก เมื่อได้ยินดังนั้นจึงพ่นควันบุหรี่เป็นวงอย่างไม่ใส่ใจ แล้วหันไปคว้าคอของดอกไม้น้อยดอกนั้นเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม
ทันใดนั้นดารินก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้าช่างบาดตาบาดใจ เธอหันหลังตั้งใจจะเดินจากไป แต่กลับชนเข้ากับอ้อมอกของผู้ชายคนหนึ่งอย่างจัง
