บทที่ 8 Chapter 8 ต้องไป

“คุณเข้ม”

“ทีหลังอย่าริแก้ผ้า อ้าขาให้ผู้ชายคนไหนง่ายๆ ผู้ชายมัน ‘เอา’ ได้ทั้งนั้น แค่อยาก ไม่จำเป็นต้องรักต้องชอบ จำเอาไว้”

พุดแก้วหน้าชาวาบ ตัวแข็งทื่อ น้ำตาพานจะร่วง เมื่อครู่เธอเหมือนขึ้นสวรรค์ แต่เวลานี้กำลังลิ่วล่องดิ่งนรกเพราะสายตาและคำพูดร้ายกาจของโรมรัน

ชายหนุ่มยืดตัวขึ้น ผลุนผลันลงจากเตียง เดินกระแทกส้นเท้าหนักๆ ออกไปจากห้อง โดยไม่หันกลับมามองร่างขาวผ่องแม้หางตา

น้ำตาอุ่นร่วงพรู ความอัปยศอดสูเหมือนตราประทับตีหรากลางใบหน้า พุดแก้วไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน สาวน้อยปิดหน้าร้องไห้โฮ แต่เสียงนั้นไม่ดังออกมาสักแอะ เพราะเธอเอามือปิดปากไว้ พลิกตัวมุดหน้าเข้าหาหมอนใบใหญ่ ร้องไห้ให้สาสมกับความอดสูใจ เวลาผ่านไปหลายนาทีถึงกลั้นใจรวบรวมเรี่ยวแรงลงจากเตียงมาหยิบเสื้อใส่ ด้วยหัวใจร้าวรอน

“พรุ่งนี้ฉันจะให้ไอ้พันพาไปเปิดบัญชี ขาดเหลืออะไรบอกมันให้จัดการให้ อีกสามวันเธอเข้ากรุงเทพฯ ได้”

เสียงห้าวราบเรียบไร้อารมณ์พูดขึ้น กายแกร่งกำยำยืนพิงผนังข้างประตู

พุดแก้วอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหน เขาตบหน้าเธอด้วยการปฏิเสธพร้อมสั่งสอนความใจกล้าหน้าไม่อายของเธอด้วยการกระทำที่แสนหยาบคาย

“ค่ะ พุดจะไป” เธอหมุนกลับมามองคนใจร้าย มองทุกส่วนเสี้ยวบนหน้าคมคายดุดัน เพื่อจะได้จดจำให้ขึ้นใจ หน้าตากระชากหัวใจแบบนี้น่ะร้ายกาจมากแค่ไหน

ใบหน้าคมดุดันเครียดขึ้งมองเธออยู่ก่อนแล้ว ก่อนมือหนาจะเอื้อมมาคว้าท้ายทอยเล็ก เหนี่ยวกระชากพุดแก้วเข้าไปรับจูบที่กระแทกลงปิดปาก ลิ้นร้อนรสเหล้าแทรกเข้าสู่โพรงปากเล็กทันที โรมรันบดขยี้แรงๆ พุดแก้วหอบหายใจรุนแรงยามเขาผละห่าง

“พุดเกลียดคุณเข้ม”

แล้วร่างบางก็หมุนตัววิ่งหนีลงจากเรือน

โรมรันสบถเบาๆ ยกขวดเหล้าดีกรีแรงขึ้นกรอกเข้าปาก ดื่มอักๆ บางส่วนมันไหลย้อยออกตรงมุมปาก หากเขาไม่สนใจมันมากไปกว่าป้ายหลังมือเช็ดปากแรงๆ

“เด็กบ้า ก่อเรื่องใส่คนอื่นยังจะมาตะโกนใส่หน้าอีก”

ใจอยากจะลงไป อยากจะปลอบสาวน้อยที่คงต้องร้องไห้หน้าเปียก โรมรันต้องตัดใจ สบถแรงๆ อีกครั้งหมุนตัวกลับเข้าห้อง กระแทกประตูปิดโครมใหญ่

เพราะรู้ดีว่า ขืนทำแบบที่คิด นอกจากพุดแก้วจะไม่ได้ไปเรียนแล้ว เธออาจจะเกลียดเขาเพิ่มมากขึ้นก็ได้

“คิดบ้าอะไร เด็กบ้านี่ มันน่าตีให้ก้นลายนัก”

ขวดเหล้าถูกกระแทกวางบนโต๊ะ มือหนากระตุกเข็มขัด สะบัดกางเกงยีนตัวโปรดออกไปทางปลายเท้าพร้อมๆ กับกางเกงชั้นใน หลักฐานความต้องการพุ่งผงาดเด่นหรา

เมื่อครู่ โรมรันยั้งตัวเองสุดฤทธิ์ไม่ให้เผลอแนบกายลงทาบทับร่างขาวผ่อง ไม่ใช่กลัวพุดแก้วจะรู้ว่าเขาเองก็ต้องการ แต่ถ้าแนบนัวกัน เขาคงไม่ปล่อยให้เธอวิ่งฉิวหนีไปแน่ๆ อย่าคิดว่าจะได้ลงจากเตียง ถ้าร่างกายเขามันยังไม่อิ่มสวาทจากเธอ หากเขาก็ต้องยั้งใจ เธอเด็กเกินไป แถมเป็นเด็กในปกครองอีกต่างหาก

“โธ่โว้ย!”

เคลมเด็ก เลี้ยงต้อย ล่อลวง สารพัดน้ำคำคนที่จะโยนใส่หน้า โรมรันคิดว่า เขารับมันไม่ได้แน่ ใช่ว่าเขาจะอาย แต่คนที่เสียหายคือเธอ ยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม

“ให้โตกว่านี้ก่อนเหอะ พ่อจะจับปล้ำทำเมียให้สะใจ เอาให้คลานลงจากเตียงไม่ไหวเลย คอยดู!”

รถยนต์สตาร์ตเครื่องเตรียมพร้อม คนเดินทางกลับรู้สึกไม่พร้อมอย่างมาก พุดแก้วหันไปมองบ้านหลังกะทัดรัด ที่ล้อมรอบด้วยไม้ดอกประดับ โดยเฉพาะดอกพุดแก้วสีขาวที่ปลูกเป็นแถวกำลังบานเต็มต้น ด้านหลังบ้านนั้นเต็มไปด้วยพืชผักสวนครัว เธอจำได้หมดว่าตรงไหนปลูกอะไร เพราะเธอปลูกมันกับมือ

ตาคู่งามทอดมองไปยังชานบ้าน กระถางดอกคุณนายตื่นสายสามกระถางไหวเบาๆ ตามแรงลม มันชูช่อบานเต็มดอกรับแสงเต็มที่ และบนนั้น เธอรับรู้ถึง เงาของผู้ชายร่างใหญ่ บึกบึนอย่างกับยักษ์ที่วนเวียนเป็นภาพความทรงจำ เขาที่สร้างความประทับใจและอับอายให้เธอ

“คุณเข้มติดงานไปส่งหนูพุดไม่ได้ครับ” พันแสงบอกอย่างรู้ทันความคิด ขณะเปิดรถที่ประตูหลังให้

กระบะแบบสี่ประตูคันนี้ โรมรันเอาไว้ใช้ไปติดต่องานในเมือง แต่วันนี้เขาต้องพาสาวน้อยพุดแก้วไปส่งกรุงเทพฯ โดยมีประนอมนั่งรถไปด้วย

พุดแก้วพยักหน้า ยิ้มแห้งๆ ให้คนสนิทของโรมรัน ตัดใจพาตัวเองขึ้นรถ

ให้รีรออาลัยยังไงก็ต้องไปอยู่ดี เธอจะทนมองหน้าเขาได้ยังไง ทำเรื่องน่าอายไว้แบบนั้น

ดูสิ เธอจะไปเรียนตั้งไกล เขายังไม่มาส่งด้วยซ้ำ ไม่มีคำพูดถามไถ่ หลังจากคืนนั้น โรมรันทำตัวราวกับไม่ได้อยู่บ้านนี้

“เอาน่าพุด ไว้ปิดเทอมค่อยกลับมาที่ไร่ วันนี้แกไม่อยากไป พอได้ไปที่อยู่ที่โน่นอาจจะชอบจนไม่อยากกลับมาก็ได้” ประนอมพยายามปลอบ

“ใครจะเหมือนเอ็งนังน้อม แค่ได้ไปส่งยังดีใจอย่างกับได้ไปเอง” พันแสงอดเย้าไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของประนอม

“ฉันอยากเห็นกรุงเทพนี่พี่พัน” สาวเจ้าหันไปเถียง ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือเด็กสาวที่เบาะหลัง

พุดแก้วยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ไร้ความสดใส

“เดือนหน้าจะมีงานประกวดพันธุ์วัวควาย วันนี้ทางจังหวัดเขามาดูเจ้าตัวที่คุณเข้มจะส่งประกวด คุณเข้มก็เลยต้องอยู่ดูแล เมื่อเช้าเข้าไปสั่งงานที่ฟาร์มแต่เช้า หนูพุดไม่ต้องคิดมากนะครับ” หนุ่มวัยสามสิบสามปลอบ

“พุดไม่ได้คิดอะไรสักหน่อยนี่จ๊ะ”

“ดีแล้วครับ ไปอยู่ที่โน่นตั้งใจเรียน จะได้จบเร็วๆ เท่านี้คุณเข้มก็พอใจแล้วล่ะครับ”

แน่ล่ะ... เขาอยากไล่เธอไปไกลๆ อยู่แล้ว เรื่องอะไรจะไม่พอใจ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป