บทที่ 8 ไม่เต็มใจ (2)

แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า แทนไทวางมือจากการทำงานตลอดทั้งวัน แผ่นหลังหนาเอนพิงกับพนักเก้าอี้ด้วยความอ่อนล้า พลางถอนหายใจอย่างหนัก มือของเขายกขึ้นลูบใบหน้าพร้อมกับหลับตาลง เรื่องทุกอย่างกำลังเป็นที่เข้าใจผิด ควรทำยังไงดีในเมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างข่าวนี้ขึ้นมา

ในวันที่เขาไปหาวศินเพื่อคุยเรื่องข่าวที่ออกมา ฝ่ายนั้นกลับทำท่าปฏิเสธด้วยความไม่รู้ที่มาของข่าว

‘ผมไม่รู้จริง ๆ ครับ คุณแทนว่าทำไมข่าวมันออกมาเป็นอย่างนี้ ผมเองก็เสียหายเหมือนกัน แต่ในเมื่อออกมาแล้วผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับ คงต้องรอให้

มันเงียบลงเท่านั้น’

แทนไทลืมตาขึ้นมา ชำเลืองมองนาฬิกาที่วางอยู่มุมโต๊ะ ก่อนขยับตัวจัดเก็บแฟ้มเอกสารที่ไม่ใช้แล้วสอดเข้าตู้ทางด้านหลัง ลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมหยิบโทรศัพท์เดินออกจากห้อง ไปยังลานจอดและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกดรับโทรศัพท์

“ว่าไง ?” เขาเอ่ยถามปลายสายเมื่อรู้ว่าเจ้าน้องชายโทรมา

[พี่แทนกลับบ้านมาเร็ว ๆ นะครับ คุณพ่อกลับมาแล้ว ท่านกำลังรอพบพี่ชายสุดที่รักของผมอยู่]

แทนไทถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความไม่พอใจ ขับรถต่อไปด้วยความกระวนกระวายใจ เมื่อรู้ว่าน้องชายหาเรื่องใส่ไฟให้อีกแล้ว

เพียงเวลาไม่ถึงชั่วโมง แทนไทก็กลับมาถึงบ้านด้วยความวุ่นวายใจ ยิ่งทุกคนอยู่รวมกันครบทั้งครอบครัว ยิ่งรู้สึกน่ากลัวขึ้นมากเท่านั้น

ชายหนุ่มเดินมายังห้องทำงานส่วนตัวของบิดา ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปซึ่งทุกคนต่างเข้ามานั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว

“นั่งลง”

แทนไทมองใบหน้าของผู้เป็นบิดาที่จ้องไม่วางตาด้วยสายตาผิดหวังพร้อมกับนั่งลงอย่างช้าๆ

“ฮึ ! ฉันไม่อยู่ทีไรเกิดเรื่องทุกที แกทำอะไรลงไปรู้บ้างไหม !” ธรรศเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห ทันทีที่ได้รู้ข่าวจากภรรยาในตอนดึกของเมื่อวาน เช้าวันนี้เขาจึงรีบนั่งเครื่องบินกลับมาจากญี่ปุ่นทันที

“แทนรู้ไหมว่าพ่อกับแม่อยากจะอกแตกตาย” เสียงของนิตยลัภย์แทรกขึ้น สีหน้าแสดงถึงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน

“บอกมาเจ้าแทน แกจะแก้ปัญหานี้ยังไง” ธรรศถามขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียดไม่ต่างจากบุตรชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า จะให้เขาแก้ปัญหายังไงในเมื่อเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าจะหาทางออกอย่างไร

“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างนักข่าวต่างใส่สีตีไข่กันทั้งนั้น” เขาตอบ

“แต่ภาพในข่าวมันฟ้องออกมา เป็นฉันเห็นก็ต้องคิดว่าแกเป็น !” น้ำเสียงของบิดาพูดด้วยความโมโห สายตามองที่หนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะ

“ผมไม่ได้เป็น !” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ไม่ต้องมาแก้ตัว แค่นี้ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว !”

แทนไทได้แต่มอง ไม่กล้าที่จะเถียงต่อ

“แกต้องแต่งงานให้เร็วที่สุด !” ธรรศพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนลุกขึ้นเดินเข้ามาหาแทนไท

“ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมไม่ได้เป็นเกย์” ชายหนุ่มยืนยันคำเดิม

“แล้วแกจะทำยังไง” ธรรศพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ

“ผมไม่รู้ แต่ผมไม่แต่งงานเด็ดขาด !” เขาตอบพร้อมกับลุกขึ้น มองบิดาด้วยความโกรธ ทำไมต้องให้แต่งงานในเมื่อทุกอย่างไม่ใช่ความจริง

“พี่ชายครับ ผมเข้าใจว่าการแต่งงานเหมือนเป็นการคบผู้หญิงเพื่อ บังหน้า แต่ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วครับ” เตชินท์พูดพร้อมกับขำออกมา

“หยุดพูดซะ !” แทนไทหันไปจ้องมองน้องชายตัวแสบ

“ไม่มีข้อแม้ ยังไงซะงานแต่งงานจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน !”

นั่นเป็นคำพูดที่เขาไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้องทิ้งตัวลงที่นอนด้วยความอ่อนล้าพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่จะแต่งงานด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นณัฐกฤตา

เครียด ! เขาเครียดมากกว่าเดิมอีกเป็นหลายสิบเท่าตัว

ทำไมหล่อนถึงตกลงแต่งงาน !

เขารู้จักกับหญิงสาวเพราะร่วมงานกันเมื่อหลายเดือนก่อน เธอเป็นคนออกแบบชุดนางแบบโฆษณาให้กับเขา พบเจอและคุยงานกับเธอไม่กี่ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกที่เจอคงจะเป็นเมื่อปีที่แล้วที่เขามาดูการถ่ายแบบโฆษณาน้ำหอมพอดีกับที่เธอเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้านักแสดงที่ต้องใช้ในกองถ่ายที่เตชินท์ทำงานอยู่

หลังจากนั้นหลายเดือนก็ไม่ได้พบอีกแต่แล้วอยู่ ๆ กำลังจะมาเป็นเจ้าสาวทั้งที่เขาไม่รู้สึกอะไรเลยย่างนั้นเหรอ ทำไม่ได้ ! เขาจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเด็ดขาด แทนไทลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดและสับสนกระวนกระวายใจ...ให้ตายเถอะ !

บทก่อนหน้า
บทถัดไป