บทที่ 6 บทที่ 6
บทที่ 6
ความต้องการสองอย่างเกิดขัดแย้งกันอย่างรุนแรง คนแบบเอเดนไม่มีทางยอมให้ใครหรืออะไรมาบีบบังคับได้แน่ๆ เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายเลือก ดังนั้นชายหนุ่มจึงหักพวงมาลัยจอดข้างทางแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดหาเลขาฯ ส่วนตัว
“แฟรงค์หาเบอร์โทรศัพท์ที่จดทะเบียนในชื่อของมาดามแซนด์เบิร์กมาให้ผมทุกเบอร์” เอเดนบอกความประสงค์ของตัวเองทันทีที่ปลายสายกดรับ
“เอ่อ...ได้ครับเจ้านาย” แฟรงค์รับคำงงๆ เพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว ทำไมจู่ๆ เจ้านายของเขาถึงเกิดอยากได้เบอร์ของมาดามแซนด์เบิร์ก ถึงจะสงสัยแต่ก็ไม่ใช่วิสัยที่จะถามเพราะหน้าที่ของเขาคือทำตามคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น
“ใช้เวลานานเท่าไหร่”
“ไม่เกินห้านาทีครับ”
เมื่อได้คำตอบที่พอใจเอเดนก็กดวางสาย แล้วนั่งรอในรถ เคาะนิ้วบนพวงมาลัยเป็นจังหวะเดียวกับเสียงเพลงที่ดังอยู่
ร่างอ้อนแอ้นในชุดนอนเนื้อดียังคงนอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียง ท่ามกลางความมืดทั้งๆ ที่เข้านอนตั้งนานแล้ว เพราะคิดถึงคำถามของอาสาวตอนที่กลับจากคฤหาสน์โกลเดนกรีนเมื่อตอนเย็น
“คุณเอเดนเป็นยังไงบ้างน้องนิ่ม”
“ก็ดีค่ะอาชม” เธอตอบแบบกลางๆ ที่สุด จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าบอกถึงความกักขฬะของเขาให้ผู้เป็นอารับรู้
“อาคิดแล้วว่าน้องนิ่มต้องชอบคุณเอเดน ผู้ชายแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เลยนะน้องนิ่ม”
“อาชมคะ คุณเอเดนเขาเหมาะกับนิ่มจริงๆ หรือคะ”
“จริงสิ ไม่อย่างนั้นอาจะให้น้องนิ่มบินจากเมืองไทยมาที่นี่ทำไม อาอยากให้น้องนิ่มได้คู่ครองดีๆ แบบคุณเอเดน อีกอย่างคุณจูเลียก็ดูเอ็นดูน้องนิ่มมาก น้องนิ่มตัดปัญหาเรื่องแม่ผัวกับลูกสะใภ้ไปได้เลย น้องนิ่มโชคดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งอีกนะ แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะหลานของอาน่ารักขนาดนี้ ใครๆ เห็นก็ต้องชอบ” ชมพูนุชบอกอย่างมั่นใจ เพราะดูเหมือนอะไรๆ ก็เป็นใจไปเสียหมด
“แล้วถ้าคุณเอเดนปฏิเสธที่จะแต่งงานกับนิ่มล่ะคะอาชม” คนถูกจับคู่อยากให้ผู้เป็นอาเตรียมใจไว้บ้างจึงถามประโยคนั้น
“อามั่นใจว่าคุณเอเดนไม่มีทางปฏิเสธหลานสาวของอาแน่นอน” ชมพูนุชบอกอย่างมั่นใจอีกครั้ง
รดาดาวได้แต่ถอนหายใจด้วยความหนักอึ้ง ท่าทางที่เอเดนแสดงออกกับเธอไม่ได้มีทีท่าว่าความมั่นใจของชมพูนุชจะใกล้เคียงเลยสักนิด ตรงกันข้ามสายตาของเขายังเต็มไปด้วยการจาบจ้วง และแสดงกิริยาคุกคามใส่เธอออกมาอย่างเปิดเผย ขนาดเจอกันแค่ไม่กี่นาที เธอก็ยังถูกเขา ‘ปล้นจูบ’ ไปแล้ว ถ้าอยู่กันสองต่อสองนานกว่านั้นเขาต้องทำอะไรมากกว่าจูบเป็นแน่…
แก้มนวลและริมฝีปากสีระเรื่อร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อตระหนักถึงความรู้สึกแสนวาบหวามยามที่โดนริมฝีปากร้อนๆ ประกบจูบอย่างดูดดื่ม
กริ๊ง!
ความคิดฟุ้งซ่านของสาวน้อยหยุดชะงักลงชั่วคราวเมื่อโทรศัพท์เครื่องที่ชมพูนุชให้เธอไว้แผดเสียงดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟหน้าจอกะพริบวูบวาบ มือเรียวเล็กคว้าเครื่องมือสื่อสารซึ่งวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงมาดู เบอร์ที่แสดงบนหน้าจอไม่ใช่เบอร์ที่บันทึกไว้ในเครื่อง ทำให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ต่อมาก็เข้าใจว่าอาจจะเป็นใครสักคนที่โทร.ผิดเข้ามาเพราะปกติเบอร์นี้เธอใช้เฉพาะโทร.หาอาสาวและโทร.กลับบ้านเท่านั้น สาวน้อยตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดรับสาย
“สวัสดีค่ะ ดิฉันคิดว่าคุณน่าจะโทร.ผิดนะคะ” เสียงหวานกรอกลงไปในโทรศัพท์อย่างสุภาพ
“ยังไม่หลับใช่ไหมสาวน้อย”
“คุณเอเดน!”
รดาดาวอุทานชื่อนั้นออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงที่ตอบกลับมาตามสาย แม้เพียงระยะสั้นๆ ที่ได้คุยกัน เธอก็จำเสียงห้าวทุ้มซึ่งเต็มไปด้วยการวางอำนาจของเขาได้อย่างแม่นยำ
“อุทานซะเสียงดังเชียว ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอที่ผมโทร.มาหา”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ นิ่มแค่แปลกใจ ว่าแต่คุณมีธุระอะไรกับนิ่มหรือว่าอยากคุยกับอาชมคะ”
“แล้วผมโทร.หาใครล่ะ” ปลายสายย้อนถามแบบยียวนทำเอารดาดาวอึ้งอยู่พักหนึ่ง
“คุณได้เบอร์นี้มาจากไหนคะ” เธอถามกลับไปอย่างอ้อมแอ้ม
“ได้มาจากไหนไม่สำคัญ แต่ผมรู้ว่าคุณดีใจที่ผมโทร.มา และที่สำคัญตอนนี้คุณกำลังคิดถึงรสจูบของผมอยู่...”
“ปะ...เปล่านะคะ” รดาดาวปฏิเสธอย่างละล่ำละลัก มันน่าอายจะตายไปที่เอเดนล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิดของเธอในเรื่องน่าบัดสีแบบนั้น
“อย่าปฏิเสธซะให้ยากเลย คุณรู้อะไรไหมรดาดาวว่าคุณเป็นผู้หญิงที่โกหกไม่เก่งหรอก ผมรู้ว่าคุณชอบที่จูบกับผมเมื่อตอนเย็น และตอนนี้คุณก็กำลังคิดถึงผมด้วย ผมบอกอะไรให้อย่างเอาไหม เผื่อคุณได้ฟังแล้วอาจจะสบายใจขึ้นก็ได้”
“คะ คุณจะบอกอะไร?”
“ผมเองก็คิดถึงตอนที่เราจูบกันเมื่อตอนเย็นเหมือนกัน แต่ผมคิดไปไกลกว่านั้นนะ ผมคิดถึงตอนที่เรากำลังเมกเลิฟกันอย่างเร่าร้อน คุณครางเสียงดังน่าฟังมาก แล้วก็บอกผมว่า เอเดนขา...เร็วๆ ค่ะได้โปรด... ต้องให้บอกด้วยไหมว่าผมเมกเลิฟกับคุณด้วยท่วงท่าไหนบ้าง คุณถึงได้ร้องครวญครางขนาดนั้น” น้ำเสียงของเอเดนเหมือนกำลังยั่วเย้าด้วยความสนิทสนม หากก็มีอาการกระเส่าคล้ายดั่งว่าเขากำลังรู้สึกอยู่จริงๆ
“คุณเอเดน!”
รดาดาวอุทานอย่างตกใจ มือไม้สั่น พานจะทำโทรศัพท์ร่วง แต่กระนั้นคำพูดของเขาก็ทำให้เลือดของสาวสะพรั่งฉีดพล่านไปทั่วร่างด้วยความซ่านสยิว มโนภาพร่างเปลือยเปล่าของตัวเองกำลังถูกร่างใหญ่ทรงพลังซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันแข็งแรงทำรักอย่างเร่าร้อนก็ผุดพรายขึ้นในสมองอย่างแจ่มชัด ทั้งๆ ที่เกิดมาเธอไม่เคยมีความคิดสัปดนเช่นนี้มาก่อน
รดาดาวรู้สึกอับอายจนหน้าหวานใสแดงระเรื่อ เมื่อสำเหนียกได้ว่ามีปฏิกิริยาบางอย่างเกิดขึ้นกับจุดที่อ่อนไหวและไวต่อการสัมผัสบนร่างกายของตนเอง
