บทที่ 2 สถานะเมียขัดดอก บทที่ 1 ข้อเสนอล้างหนี้ / 2

แถมยังเป็นคนฉลาดบริการจัดการไร่จิตรลดาแห่งนี้จนมีชื่อเสียงมากกว่าเดิม ทั้งทำรีสอร์ต ทั้งทำฟาร์มโคนม ทั้งทำคาเฟ่ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมที่ไร่มากขึ้น แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าผู้ชายที่มีดีขนาดนี้ถึงยังขาดผู้หญิงอยู่

บัวบูชาเคยได้ยินคนในตลาดพูดถึงเจตนิพัทธ์คนนี้ว่าเข้าถึงยากมาก มีผู้หญิงมากมายพยายามจะให้ท่าเพื่อที่จะได้ขึ้นเตียงกับชายหนุ่ม แต่เขากลับไม่สนใจใครเลย จนมีข่าวลือว่านายคนใหม่ของไร่จิตรลดาคนนี้เป็นพวกรักชอบเพศเดียวกัน

เสียงถอนหายใจของบัวบูชาดังออกมาครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบ เธอไม่รู้ว่าการที่ตัวเองตัดสินใจเดินทางมาที่นี่เป็นสิ่งที่ผิดหรือถูกกันแน่ ก่อนจะต้องปลอบใจตัวเองอีกคราว่าเธอตัดสินใจไปแล้ว อย่าได้ลังเลอีก

เจ้าของใบหน้าหวานยกมือถือขึ้นมาดูเวลาก่อนจะได้ยินเสียงรถกระบะคันหนึ่งขับมาทางที่เธอยืนอยู่ นั่นจึงทำให้บัวบูชาเผลอกำสายกระเป๋าเสื้อผ้าแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

“คุณบัวบูชาใช่ไหมครับ” เป็นเสียงชายวัยเลยเลขห้าสิบเอ่ยถาม นั่นจึงทำให้เจ้าของชื่อพยักหน้า ก่อนจะยกมือไหว้สวัสดีอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม

“เรียกหนูว่าบัวเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” เธอไม่คุ้นชินเลยที่มีใครมาเรียกคุณและชื่อเต็มแบบนี้ อีกอย่างบัวบูชาไม่ได้สูงส่งอะไร เธอเป็นเด็กฐานะยากจน ได้ทุนเรียนมาตลอดจนจบมัธยมปลาย ระหว่างนั้นก็ช่วยตากับยายทำงานหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ตลอด

แต่เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตาก็ล้มป่วยและจากไปก่อน ไม่นานนักยายก็ตรอมใจและจากไปด้วยอีกคน บัวบูชาจึงต้องหาเงินส่งเสียตัวเองเพียงลำพังจนกระทั่งเรียนจบ โดยที่คนเป็นพ่อไม่เคยหยิบยื่นให้แม้แต่บาทเดียวด้วยซ้ำ

ดวงตาคู่สวยพลันหม่นแสงเธอไม่ได้เศร้าเรื่องที่พ่อไม่เคยส่งเสีย แต่เสียใจที่อุตส่าห์เรียนจบและยังไม่มีโอกาสได้หางานทำด้วยซ้ำ ก็ต้องมาชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อแทนพ่ออยู่แบบนี้

“ครับ หนูบัว ลุงชื่อกรนะ เชิญครับคุณนายรออยู่” ลุงกรบอกก่อนจะขึ้นรถไปนั่งตำแหน่งคนขับหลังจากที่ช่วยยกกระเป๋าเสื้อผ้าของบัวบูชาไปเก็บไว้ตรงเบาะด้านหลังให้

บัวบูชาก้าวตามขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งข้างคนขับ รถกระบะสีดำขับเคลื่อนเข้าไปตามท้องถนน ซึ่งปากทางเข้าไร่และตัวบ้านของคุณนายจิตรลดานั้นห่างไกลกันอยู่หลายกิโลเมตรทีเดียว

ตลอดทางบัวบูชาทอดมองและสำรวจสถานที่ที่เธอต้องเข้ามาอยู่ต่อจากนี้อีกหกเดือน เธอไม่เคยเข้ามาในไร่แห่งนี้เลยสักครั้ง รู้แต่ว่าไร่จิตรลดามีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล พอเธอได้มาเห็นกับตาก็อดยอมรับไม่ได้ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ไม่นานนักรถกระบะคันสีดำที่เธอนั่งอยู่ก็มาจอดสนิทยังหน้าบ้านไม้สักทองสองชั้นหลังหนึ่ง

บัวบูชาลงจากรถก่อนจะเดินตามลุงกรเข้าไปด้านในตัวบ้าน เมื่อเห็นคุณนายจิตรลดานั่งอยู่เจ้าของใบหน้าหวานก็รีบวางกระเป๋าพร้อมกับยกมือพนมไหว้อีกฝ่ายทันที

“มาแล้วเหรอหนูบัว” น้ำเสียงที่ใช้กับเด็กสาวก็ยังคงความใจดีเช่นเคย แตกต่างจากตอนที่ขู่ให้ลูกหนี้คืนเงินลิบลับ

“ค่ะคุณนาย”

คุณนายจิตรลดาหันไปหาแม่บ้านคนสนิทที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ อย่าง ป้าชื่น ก่อนจะบอกให้อีกฝ่ายพาบัวบูชาไปยังห้องพักคนงาน ให้บัวบูชาเก็บของให้เรียบร้อยค่อยตามไปหาตนที่ห้องหนังสือ เพราะเจ้าของบ้านยังไม่อยากพูดคุยรายละเอียดข้อเสนออีกข้อเสนอหนึ่งในตอนนี้ ซึ่งป้าชื่นก็ทำตามที่ผู้เป็นนายสั่ง นำทางบัวบูชาไปยังห้องพักของเด็กสาวซึ่งอยู่ด้านหลังของบ้าน

คุณนายจิตรลดายังมองตามแผ่นหลังบอบบางของเด็กสาวที่ชื่อบัวบูชา ก่อนนายหญิงของไร่จิตรลดาจะถอนหายใจออกมา เธอบอกตัวเองว่าคิดถูกแล้วที่ทำแบบนี้ เพราะลูกชายคนเดียวเล่นไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย จนมีข่าวลือเสียหายเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันว่าเจตนิพัทธ์ชอบไม้ป่าเดียวกัน

ลูกชายเป็นแบบไหน ชอบเพศอะไรทำไมคนเป็นแม่จะไม่รู้ แต่คุณนายจิตรลดาก็รู้ดีอยู่แก่ใจเช่นกันว่าเป็นเพราะอะไร ลูกชายเพียงคนเดียวถึงได้ไม่สนใจผู้หญิงหน้าไหนเลยตลอดหลายปีมานี้

“เฮ้อ คิดถูกแล้วแหละที่ทำแบบนี้ เผื่อความคิดพ่อตัวดีจะเปลี่ยนไปได้บ้าง” คุณนายจิตรลดาพูดขึ้นกับตัวเอง แต่ก็ยังเผยสีหน้าวิตกกังวลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ก่อนหน้านี้เธอเปรย ๆ เรื่องนี้เอาไว้บ้างแล้ว แต่ลูกชายอย่างเจตนิพัทธ์ก็ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ นอกเสียจากทำใบหน้าบึ้งตึงเหมือนหงุดหงิดใส่กัน

ช่วงบ่ายของวันป้าชื่นเดินมาตามบัวบูชาที่ห้อง เพื่อให้ไปพบผู้เป็นนายยังห้องหนังสือ เพราะคุณนายจิตรลดามีเรื่องจะพูดคุยกับเด็กสาวเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องที่จะพูดนี้แม่บ้านคนสนิทอย่างป้าชื่นก็รู้เรื่องด้วย

อันที่จริงเรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นเพราะป้าชื่นเองก็ได้ ที่ดันเสนอแนะผู้เป็นนายไป เพราะเห็นว่าคุณนายจิตรลดาเครียดเรื่องลูกชายมานาน อีกอย่างก็พอรู้มาว่าลูกสาวของนายอรรถพลหน้าตาน่ารัก ชาวบ้านก็พูดกันว่านิสัยค่อนข้างดี อ่อนหวาน แถมยังขยันขันแข็งช่วยตายายทำงานมาตั้งแต่เด็ก บางทีอาจจะพอทำให้คุณชายของป้าชื่นถูกใจบ้างก็เป็นได้

และคุณนายจิตรลดาก็ดูจะสนใจคำแนะนำของคนสนิทไม่น้อย จึงได้ยื่นข้อเสนอให้กับลูกหนี้อย่างอรรถพล หนี้ทั้งหมดแลกกับตัวลูกสาวของอีกฝ่าย

“นั่งก่อนสิหนูบัว” คุณนายจิตรลดาบอกคนที่เข้ามาใหม่ เมื่ออีกฝ่ายนั่งลงยังฝั่งตรงข้าม เจ้าของบ้านก็ยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้ “นี่คือรายละเอียดต่าง ๆ และข้อเสนอเพิ่มเติมที่ฉันอยากให้หนูอ่าน”

บัวบูชารับเอกสารมาอ่านเงียบ ๆ ก่อนจะเผยสีหน้าตกใจขึ้นมาเมื่ออ่านจบ โดยไม่รู้เลยว่าท่าทีทั้งหมดของตนนั้นอยู่ในสายตาของคุณนายจิตรลดาทั้งหมด คุณนายของบ้านเองก็กังวลไม่น้อยอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าเด็กสาวคนนี้จะว่ายังไงกับข้อเสนอของเธอบ้าง

“มะ หมายว่ายังไงคะเรื่องท้อง” บัวบูชาเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างไม่เข้าใจ นี่มันนอกเนื้อจากที่คุณนายเคยพูดกับเธอที่บ้านของพ่อนี่นา

“เอาตรง ๆ เลยนะหนูบัว ยังไงหนูก็มาเป็นนางบำเรอให้กับลูกชายฉันแล้ว ถ้าหนูตั้งท้องกับลูกชายฉันได้ก่อนกำหนดครึ่งปี นอกจากหนี้สินจะหมดลงแล้ว ฉันยังจะให้เงินหนูอีกก้อนใหญ่แลกกับทายาทของตาเจต”

“ไม่ค่ะ หนูยอมเป็นนางบำเรอให้กับลูกชายคุณนายก็จริง แต่หนูไม่อยากมีลูกกับเขา”

บัวบูชาไม่อยากมีพันธะหรือความเกี่ยวข้องใด ๆ กับคนบ้านนี้ แค่เรื่องที่เธอต้องมาเป็นนางบำเรอให้ลูกชายคุณนายมันก็ฝืนใจเธอเต็มทนอยู่แล้ว บัวบูชาคิดว่าครึ่งปีมันก็ยาวนานพอแล้วกับฝันร้ายที่จะเกิดขึ้นกับเธอ หลังจากนั้นเธออยากจะหนีไปให้ไกลจากที่นี่ ไปให้ไกลจากคนเป็นพ่อด้วย

สิ่งเดียวที่ยังปลอบใจบัวบูชาให้หายใจต่อไปได้ในทุกวันนี้ ก็คือคำว่า 'อิสระ' อิสระที่เธอจะได้รับหลังจากผ่านหกเดือนนี้ไปได้ ต่อให้คุณนายจะเสนอเงินมากมายแค่ไหนเธอก็ไม่มีวันรับไว้อย่างแน่นอน

“คิดให้ดีก่อนหนูบัว ถ้าหนูตั้งท้องหลานให้ฉันได้ ฉันจะให้เงินหนูบัวอีกห้าล้าน มันไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลยนะ”

“เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ๆ นี่คะ อีกอย่างหนูยังยืนยันคำเดิมค่ะ ว่าหนูมาที่นี่แค่ทำหน้าที่นางบำเรอให้ลูกชายคุณนายแค่หกเดือนเท่านั้นค่ะ เรื่องอื่นหนูคงทำให้ไม่ได้จริง ๆ หากคุณนายยังอยากบังคับให้ทำก็เอาชีวิตบัวไปเถอะค่ะ”

คุณนายจิตรลดาผ่อนลมหายใจออกมายืดยาว ก่อนที่เธอจะพยักหน้าคล้ายยอมรับการตัดสินใจของเด็กสาวตรงหน้า

“เอาเถอะ เรื่องท้องฉันไม่อยากบังคับจิตใจหนูบัวมากไปกว่านี้ ไม่ก็ไม่ แต่ว่าเย็นนี้ก็เตรียมตัวรอแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้ป้าชื่นไปบอก”

“คะ คืนนี้เลยเหรอคะ”

“ใช่ ฉันอยากให้หนูบัวทำความรู้จักกับลูกชายฉันด้วย ไม่ว่ายังไงหนูบัวก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้สำเร็จ ลูกชายของฉันไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่ฉันทำหรอกนะ เพราะงั้นทำยังไงก็ได้ให้เขานอนกับหนูบัวให้ได้ ไม่งั้นจะถือว่าหนูบัวไม่ได้ทำตามข้อตกลงของเรา และหนี้สินของพ่อหนูบัวฉันคงจะต้องคิดดอกเบี้ยเพิ่ม”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป