บทที่ 13 ซื้อที่ดินเพิ่ม

ทั้งสองกลับถึงบ้านก็เกือบได้เวลาอาหารเย็นแล้ว คอกวัวสร้างเสร็จแล้ว หลังคาซ่อมเสร็จแล้วเช่นกัน คงเหลือแต่ผนังบ้านที่ชำรุดเป็นบางจุด ช่างจะมาซ่อมแซมให้ในวันพรุ่งนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100 เหรียญทอง ทั้งสองเอาของทั้งหมดที่ได้มาวันนี้ไปกองไว้ในห้องครัวก่อน พรุ่งนี้เนี่ยหลิงจะเข้าเมืองเพื่อไปขายของป่าที่ได้มาวันนี้ และจะไปสำรวจตลาดด้วยเผื่อจะมีแนวทางในการหาเงินเพิ่มขึ้น

ได้เวลาอาหารเย็น ทุกคนมารวมกันที่ห้องโถงที่ใช้เป็นห้องกินข้าวด้วย เนี่ยหลิงได้กล่าวกับพ่อสามีว่าอีกสองวันจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิม ซึ่งหนิงเหวินเทียนเองไม่ได้คัดค้านลูกสะใภ้พร้อมสนับสนุนอีกด้วย

“สองปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับไปเยี่ยมบิดามารดา เจ้าไปคราวนี้ก็เอาของไปมากหน่อย พ่อแม่ของเจ้าอายุมากขึ้นคงทำงานหนักไม่ได้เช่นเก่าก่อน ดูว่าขาดเหลือสิ่งใด เจ้าจัดหาไปให้ด้วยก็แล้วกัน นี่ก็ใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว”

“เจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านพ่อเจ้าคะ วันนี้ข้ากับท่านพี่ได้สิ่งนี้มาเจ้าค่ะ” นางเอาหญ้าวานรเวหาขึ้นมาวาง พอทุกคนเห็นสิ่งที่นางเอามาถึงกับนั่งนิ่งอ้าปากค้างตาโตเท่าไข่ห่าน

“นี่ นี่มัน หญ้าวานรเวหาสมุนไพรวิญญาณระดับกลาง

ทั้งยังมีตั้งห้าต้น พวกเจ้าได้มันมาจากไหน พวกเจ้าเข้าป่าชั้นกลางมาใช่หรือไม่”

“ข้ากับน้องหญิงพบมันที่ป่าชั้นนอกติดกับป่าชั้นกลางขอรับท่านพ่อ” หยางหลงเอ่ยโกหกออกไปเพราะกลัวบิดาจะกังวล นี่ถ้าท่านพ่อรู้ว่าเขาเกือบโดนหมีขนเหล็กตบ อาการป่วยของท่านพ่อคงได้กำเริบอีกแน่

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากับน้องหญิงจะไม่นำไปขาย น้องหญิงบอกว่าให้ท่านต้มบำรุงร่างกายและรักษาโรคเก่าของท่านทั้งสองให้หายดี พอถึงหน้าหนาวจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีก”

“พ่อและแม่ขอบใจเจ้าทั้งสองมาก” ท่านพ่อกล่าวออกมาด้วยดวงตาแดงกล่ำ ท่านแม่เองถึงกับร้องไห้ออกมา ทุกคนพลอยยินดีไปด้วย ต่อไปนี้ความเป็นอยู่คงจะค่อย ๆ ดีขึ้น ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ เงินที่หามาได้ก็ไม่ต้องหมดไปกับค่ายาของสองผู้เฒ่าอีก

“เอาล่ะ กินข้าวกันเถอะ ประเดี๋ยวอาหารจะเย็นแล้วไม่อร่อย”

หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ท่านแม่กับน้องเล็กเก็บถ้วยชามไปล้าง เนี่ยหลิงและทุกคนนั่งหารือเรื่องซื้อที่ดินและสร้างบ้าน ส่วนลูก ๆ ทั้งสามนั้นออกไปวิ่งเล่นเพื่อย่อยอาหารที่ลานบ้าน

“ท่านพ่อเจ้าคะ พรุ่งนี้รบกวนท่านพ่อไปติดต่อซื้อที่ดินเพิ่มจากหัวหน้าหมู่บ้านนะเจ้าคะ”

“เจ้าต้องการมากน้อยแค่ไหนอาหลิง”

“ข้าต้องการที่ดินรอบ ๆ บ้านของเราทั้งหมด ด้านหลังยาวไปถึงลำธารเล็ก จนถึงตีนเขาเจ้าค่ะท่านพ่อ”

“มากมายเพียงนั้น เงินที่มีจะพอสร้างบ้านหรือไม่ หากซื้อที่ดินมากมายเพียงนั้น”

“ท่านพ่อไม่ต้องกังวลนะขอรับ วันนี้ข้าและน้องหญิงได้กระต่ายแสงจันทร์มาสองตัว เห็ดหลินจือ และยังมีโสมอีกด้วย”

“ใช่เจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ข้ากับท่านพี่จะเข้าเมืองไปขายของพรุ่งนี้เจ้าค่ะ”

“น้องรอง น้องสาม พวกเจ้าหาฟืนให้ได้มากที่สุด อีกสองวันข้าจะไปบ้านพ่อตาแม่ยาย หลังจากกลับมาแล้วพวกเราจะขึ้นเขา

อีกครั้ง”

“ขอรับพี่ใหญ่”

หลังจากจบการพูดคุยปรึกษาหารือกันแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน เนี่ยหลิงเดินไปตามลูก ๆ ให้ไปอาบน้ำเพื่อเข้านอน เมื่อเข้ามาข้างในแล้ว ห้าคนพ่อแม่ลูกนอนเบียดกันบนเตียงเตา

ไม่นานก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

เช้าวันใหม่หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เนี่ยหลิงกับหยางหลงเข้าเมืองไปขายสัตว์ป่าและสมุนไพร ส่วนน้องชายทั้งสองไปหาฟืน ท่านแม่กับน้องเล็กยังคงทำปลาตากแห้งเหมือนเดิมนอกเหนือจากตัดชุดสำหรับทุกคน ส่วนท่านพ่อไปติดต่อซื้อที่ดินเพิ่มที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านโดยมีหลานทั้งสามตามไปด้วย

เดินเข้ามาในหมู่บ้านสักพักก็มาถึงบ้านหัวหน้าหมู่บ้าน

บ้านอิฐหลังใหญ่ หัวหน้าหมู่บ้านถือว่าร่ำรวยคนหนึ่ง ลูกชายคนโตทำอาชีพนายพรานเช่นเดียวกับคนในหมู่บ้าน ส่วนลูกชายคนที่สอง เปิดร้านขายของชำในเมืองสายรุ้ง ลูกชายคนที่สามทำงานเป็น

นายบัญชีในเมืองสายรุ้งเช่นกัน ส่วนลูกสาวแต่งงานกับชายหนุ่มฐานะร่ำรวยจากหมู่บ้านข้าง ๆ

“มีคนอยู่หรือไม่ขอรับ ท่านหัวหน้าหมู่บ้านอยู่หรือไม่” สักพักก็มีคนออกมาเปิดประตู

“สามีข้าอยู่ในบ้าน เชิญท่านหนิงเข้ามาก่อนเจ้าค่ะ” ฮูหยินเหลียนเชิญท่านพ่อเข้าไปในบ้าน

“นั่งรอสักครู่เจ้าค่ะ ข้าจะไปเรียกท่านพี่มาให้” นางเหลียนหันหลังเดินออกไป สักพักหัวหน้าหมู่บ้านก็เดินเข้ามา

“มีอะไรให้ข้าช่วยเหลือหรือ” เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านนั่งลงก็

เอ่ยปากถามทันที

“ข้าต้องการซื้อที่ดินเพิ่มขอรับ”

“ซื้อที่ดินอย่างนั้นรึ เจ้าต้องการตรงไหนล่ะ”

“ข้าต้องการที่ว่างรอบ ๆ บ้านข้า ยาวไปถึงลำธารตีนเขาขอรับ ไม่ทราบว่ามีเจ้าของหรือไม่”

“มากมายเพียงนั้น เจ้าต้องการที่ดินไปทำอะไรหรือ ที่ติดเขาไม่มีเจ้าของดอก เพราะคนกลัวสัตว์ป่าลงมาทำร้าย”

“ไม่เป็นไรขอรับ ลูกชายคนโตของข้ากับภรรยา ต้องการที่จะเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ไม่ทราบว่าราคาที่ดินหมู่ละเท่าไหร่ขอรับ”

“ที่ดินราคาหมู่ละ 10 ตำลึงทอง ตามที่ทางการกำหนด ที่ดินที่เจ้าต้องการรวมทั้งสิ้น 200 หมู่ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,000 ตำลึงทอง”

“นี่ขอรับเงิน” ท่านพ่อนำตั๋วเงินมาจ่ายค่าที่ดิน และเหลือเงินสำรองที่บ้านเพียง 200 ตำลึงทองเท่านั้น

หัวหน้าหมู่บ้านเขียนหนังสือสัญญาซื้อขายให้ท่านพ่อลงชื่อ ท่านพ่อใส่ชื่อในโฉนดที่ดินเป็นชื่อหยางหลง หนังสือสัญญาทำขึ้นสามฉบับเก็บไว้ที่ท่านพ่อหนึ่งฉบับ หัวหน้าหมู่บ้านหนึ่งฉบับ และส่งให้ทางการหนึ่งฉบับ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยท่านพ่อให้ค่าน้ำชาหัวหน้าหมู่บ้าน 10 ตำลึงเงิน จากนั้นท่านพ่อและหลาน ๆ ก็กลับบ้านทันที

หลังจากท่านพ่อออกมาแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยกับนางเหลียนผู้เป็นภรรยาทันที เรื่องบ้านหนิงมาซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก ข่าวที่ว่า

หยางหลงและภรรยาได้พบเจอวาสนาในป่าคงเป็นเรื่องจริง คงได้

สิ่งล้ำค่าจากป่าไปขาย ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเงินมากมายขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ สองปีมานี้บ้านหนิงมีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นมาก

“ท่านพี่ บ้านหนิงซื้อที่เยอะหรือเจ้าคะ”

“200 หมู่เลยล่ะ สงสัยข่าวที่ว่าลูกชายคนโตพบเจอสมุนไพรล้ำค่าคงเป็นเรื่องจริง ทั้งยังซื้อเกวียนวัวอีกด้วย”

“คงเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ”

ณ บ้านสกุลหนิง

“ท่านพี่ สำเร็จหรือไม่เจ้าคะ เงินพอหรือไม่” ท่านแม่ถามสามีทันทีที่สามีกลับมาถึงบ้าน

“ที่ทั้งหมด 200 หมู่ เป็นเงิน 2,000 ตำลึงทอง เงินมีเพียงพอจ่าย เจ้าไม่ต้องกังวล”

“เจ้าค่ะท่านพี่ ท่านดื่มน้ำก่อนเจ้าค่ะ แล้วนี่หลาน ๆ ทั้งสาม ไปไหน ไม่ใช่แอบตามท่านอาทั้งสองขึ้นไปหาฟืนบนเขานะ”

“ปล่อยหลานไปเถอะ หาฟืนแค่ป่ารอบนอกไม่มีอันตรายอะไรหรอก ลูกรอง ลูกสามดูแลหลานได้”

ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้น เหม่ยหลันก็อุ้มชิงหลงที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเข้ามา

“หลงเอ๋อร์ เจ้าร้องไห้ทำไม เจ็บที่ใดรึ มาให้ย่าดูหน่อย”

“หลานไม่ได้เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะท่านแม่ แค่เสียใจที่พี่ ๆ ไม่ให้ขึ้นเขาไปหาฟืนกับพี่ รองและพี่สาม”

“หลงเอ๋อร์ยังเด็ก บนเขาอันตราย อยู่กับย่ากับปู่ดีหรือไม่

ย่าจะให้อาเล็กทำขนมอร่อย ๆ ให้กิน ไม่ร้องแล้วนะ เป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้งอแง”

“ก็ได้ขอยับ หลานจะเชื่อฟังท่านปู่ ท่านย่า”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป