บทที่ 11 11
“กลับไปยังไงคะท่านมัจผู้สูงส่ง” ถามแดกดันท่านพญามัจจุราชหรือท่านยมราชของลูกสมุน ด้วยการเรียกชื่อสั้นๆ อย่างโมโหพร้อมกับยื่นกระดาษเนื้อหยาบๆ แปลกๆ แผ่นนั้นไปข้างหน้า “ร่างของฉันถูกเผาไปแล้ว วิธีที่จะกลับไปได้คือเกิดใหม่ หรือไปสิงร่างของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เพิ่งตายไปไม่ถึงสามชั่วโมงในโลกมนุษย์ วิธีลบล้างความผิดของท่านมีแค่นี้เหรอคะ”
“แล้วเจ้าจะให้เราทำอย่างไรล่ะวิญญาณรนิดา”
“ฉันไม่ยอมถ้าฉันไม่ได้ฟื้นในร่างเดิมของฉัน ท่านต้องหาวิธีมา”
“ร่างเดิมของเจ้ากลายเป็นเถ้าถ่านเหมือนพ่อเจ้าไปแล้ว เราส่งเจ้ากลับไปที่ร่างเดิมไม่ได้จริงๆ”
ได้ยินพญามัจจุราชเอ่ยถึงบิดาขึ้นมารนิดาก็นึกบางอย่างขึ้นได้
“ฉันไม่กลับไปร่างเดิมก็ได้ แต่ท่านต้องยอมให้พ่อฉันกลับไปพร้อมกับฉันด้วย ไม่งั้นฉันไม่ยอม”
ท่านพญามัจจุราชยกมือคลึงขมับ สักพักจึงสบสายตากับดวงวิญญาณสาว
“พ่อของเจ้าถึงฆาตแล้ว เขากลับไปกับเจ้าไม่ได้หรอก มันผิดกฎนรกภูมิ”
“ถ้าฉันไม่ได้กลับไปกับพ่อ ฉันก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะยืนประจานความชุ่ยของท่านอยู่แบบนี้แหละ”
“โธ่เอ๋ย..” ตั้งแต่รับตำแหน่งพญามัจจุราช ณ นรกภูมิแห่งนี้ ผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขายังไม่เคยเจอดวงวิญญาณดวงไหนกล้าขู่เขาอย่างไม่เกรงกลัวแบบนี้เลยสักดวง ถึงแม้เขาจะเป็นฝ่ายผิดก็มีแต่ดีใจจนน้ำตาไหลพราก ที่ได้รับโอกาสให้กลับไปเกิดใหม่กันทั้งนั้น
“กระผมมีข้อเสนอครับท่านยมราช” ยมบาลเมฆาใช้กระแสจิตคุยกับนายใหญ่ของตน เพื่อหลีกเลี่ยงให้ดวงวิญญาณรนิดาได้ยิน
“ข้อเสนออะไรรึยมบาลเมฆา” พญามัจจุราชตอบโต้ด้วยกระแสจิตที่มีเพียงพวกตนได้ยิน
“ทำไมเราไม่ส่งวิญญาณรนิดาไปยังภพภูมิอื่น เพื่อให้นางได้อยู่กับบิดาของนางแทนเล่าขอรับ”
“เจ้าหมายถึงย้อนไปยังภพภูมิในอดีตชาติรึ”
“ขอรับ ในเมื่อนางกล้าเรียกร้องเราก็ต้องกำราบซะให้เข็ด ลองยื่นข้อเสนอให้นางดูสิขอรับ กระผมคิดว่าสุดท้ายนางต้องยอมลงชื่อในกระดาษกลับไปในโลกปัจจุบันของนางแน่ขอรับ” ยมบาลเมฆามั่นใจว่าวิญญาณดวงนี้ไม่กล้าย้อนภพไปยังอดีตชาติแน่นอน
“แล้วท่านค้นพบภพใดที่เหมาะจะให้นางไปบ้างล่ะยมบาลเมฆา” พญามัจจุราชเห็นด้วยกับการแก้เผ็ดดวงวิญญาณจอมเรียกร้อง “แต่ก่อนอื่นช่วยตรวจดูกรรมดีกรรมชั่วของนางก่อนนะ แล้วค่อยเลือกภพชาติที่เหมาะสมให้กับนาง อย่าคิดแต่เรื่องกำราบนาง” ท่านเตือน
“ขอรับท่านยมราช” เป็นยมบาลมัจฉาที่ตอบรับคำพูดประโยคสุดท้ายของพญามัจจุราช... “กรรมดีของนางเยอะมากขอรับท่านยมราช นางควรไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี”
ข้อมูลกรรมดีกรรมชั่วของวิญญาณสาว ถูกส่งผ่านทางกระแสจิตไปให้ยมบาลเมฆาอย่างรวดเร็ว ไม่นานสถานที่สามแห่งที่ถูกเลือกขึ้นมาก็ถูกส่งต่อไปยังผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์
“ครอบครัวของเฟิ่งเจิงจง อาจารย์ของฮ่องเต้ฉางลั่วในราชวงศ์หมิงเหมาะสมกับนางมากที่สุดขอรับ เพราะเฟิ่งต้าชวี่ซึ่งเป็นบุตรสาวของเจิงจงดวงกำลังจะมรณะขอรับ ถ้านางกลับไปเกิดในภพนี้ นางได้จะอยู่กับบิดาของนางอีกสิบสองปีก่อนที่บิดาของนางจะถึงฆาต ส่วนนางจะได้ไปอยู่ในร่างของหญิงสาววัยสิบเก้าปี และจะมีอายุยืนยาวถึงเจ็ดสิบสี่ปีตามฆาตของนางแต่เดิมขอรับ”
จากนั้นยมบาลเมฆาก็อ่านรายละเอียดอีกสองภพชาติ ที่เหมาะแก่การกลับภพไปเกิดของหญิงสาวอย่างไม่มีตกหล่นแม้แต่รายละเอียดเดียว
“คนที่ทำกรรมดีไว้มากและกตัญญูรู้คุณอย่างนาง ไม่ควรไปอยู่กลางวงล้อมสงครามกลางเมืองแบบนั้น” ที่สำคัญเวลานางทำบุญนางจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลเผื่อแผ่ถึงพญามัจจุราชอย่างเขาด้วยเสมอ เขาจึงอยากให้นางได้ไปเกิดใหม่ในภพที่ดีที่สุด
“ถ้าอย่างนั้นต้าหมิงคือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดแล้วขอรับท่านยมราช ที่นั่นสงครามชิงดินแดนกำลังจะสงบพอดี”
“เอาอย่างนั้นก็ได้” ในเมื่อตัดสินใจและได้รับความเห็นชอบจากลูกสมุนแล้ว ท่านพญายมราชจึงกระแอมเบาๆ สองครั้ง “เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะวิญญาณรนิดา”
“เอายังไงค่ะท่านมัจ”
“เรียกชื่อเราให้เต็มๆ หน่อยไม่ได้เหรอวิญญาณรนิดา”
“ก็ได้ค่ะท่านพญามัจ มีอะไรก็ว่ามาสิคะ”
ท่านพญามัจของวิญญาณสาวถอนหายใจกลัดกลุ้ม นึกอยากจะส่งนางไปในดงสงครามให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ไม่ใช่วิสัยของตัวเอง
“ถ้าเจ้าไม่ยอมกลับไปเกิดในภพภูมิที่จากมา เรามีอีกหนึ่งข้อเสนอให้เจ้า คือส่งเจ้าไปยังภพภูมิที่บิดาเจ้ายังมีชีวิตอยู่ และเจ้าก็จะได้ไปเป็นลูกของเขาอีกครั้ง แต่เจ้าต้องไปสวมร่างของเด็กสาวอายุสิบเก้านะ ซึ่งเด็กสาวคนนั้นก็คือตัวเจ้าในภพภูมินั้นนั่นเอง”
“ฉันอยากรู้ว่าภพภูมินั้นมันคือที่ไหน”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ เจ้ารู้แต่เพียงว่าจะได้อยู่กับบิดาของเจ้าก็พอ พ่อของเจ้าในภพภูมินั้นเพิ่งจะอายุห้าสิบ เท่ากับว่าเขาจะได้อยู่กับเจ้าอีกสิบสองปีถึงจะสิ้นอายุขัย”
“แล้วฉันจะจำตัวเองได้ไหมคะ ฉันจะคุยกับพวกเขารู้เรื่องหรือเปล่า ถ้าส่งฉันไปแบบครึ่งๆ กลางๆ เหมือนเป็นตัวประหลาดในสายตาของพวกเขาไม่ต้องส่งฉันไปนะคะ”
“วิญญาณรนิดาเอ๋ยทำไมเจ้าถึงเรื่องมากแบบนี้นะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ เราจะมอบความจำในภพนี้และภพนั้นให้เจ้าเป็นการชดเชยอย่างสมน้ำสมเนื้อ ไม่ให้เจ้ากลายเป็นตัวประหลาดหรอก”
แต่หลังจากนั้นเราจะทำให้เจ้าค่อยๆ ลืมภพชาติเดิมของเจ้า ถึงแม้พฤติกรรมจะหลงเหลือ แต่เจ้าจะไม่รู้เลยว่าเจ้าเคยเป็นใครมาก่อน พญามัจจุราชเก็บความลับนี้ไว้กับตัวเองเพราะไม่อยากโดนต่อว่า
