บทที่ 14 14
สาวใช้วัยสิบเจ็ดปีนามว่าหลี่เพ่งมองคุณหนูของตนอย่างแคลงใจ ไม่ใช่เพราะคำถามที่นางถามมา แต่เป็นเพราะแรงดึงของนางต่างหาก
“คุณหนูทำไมถึงมีเรี่ยวแรงเยอะอย่างนี้เจ้าคะ”
“ทำไมหรือ.. ก็แค่ดึงมือเอาไว้แค่นี้ไม่เห็นต้องใช้แรงมากมายจนน่าตกใจนี่”
“แต่คุณหนูนอนป่วยมานานหลายเดือน แม้แต่แรงยกมือก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ แต่นี่คุณหนูดึงข้าได้ว่องไวมาก ดึงจนร่างของข้าถลากลับมา”
“จริงเหรอ ข้าไม่เห็นรู้สึกเหมือนคนป่วยตรงไหนเลย”
“คุณหนูนอนป่วยมาเกือบครึ่งปีแล้วนะเจ้าคะ แล้วคุณหนูก็หยุดหายใจไปถึงสามวัน ถ้าวันนี้คุณหนูไม่ฟื้นขึ้นมา พรุ่งนี้เราคงได้นำร่างคุณหนูไปฝังที่สุสาน”
“แล้วข้าเป็นอะไรถึงได้นอนป่วยนานขนาดนั้น.. ข้าขอโทษที่ต้องถามโง่ๆ แบบนี้ แต่ข้าจำไม่ได้จริงๆ แค่จำได้รางๆ ว่าข้าเสียใจเรื่องอ๋องใหญ่มากเท่านั้น”
“เจ้าค่ะ คุณหนูตรอมใจที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในสายตาของอ๋องใหญ่ แต่คุณหนูป่วยจนล้มหมอนนอนเสื่อ ก็เพราะนางอนุพวกนั้นเป็นต้นเหตุเจ้าค่ะ คุณหนูจำได้ไหม ที่พวกนางสามคนได้เดินทางไปชายแดนตามคำสั่งของอ๋องใหญ่”
“จำได้สิ แล้วไงต่อ” เธอโกหกเพราะอยากรู้เรื่องต่อ
“พอพวกนางกลับมาก็มาเล่าให้คุณหนูฟังกันสนุกปาก ว่าอ๋องใหญ่เรียกพวกนางสลับกันไปอุ่นเตียงให้จนรุ่งสางทุกค่ำคืน พวกนางได้ความรักจากอ๋องใหญ่กลับมาปริ่มเปรม พวกนางมีความสุขมากๆ” หลี่หยุดเล่ากลางคันเมื่อเริ่มสังเกตเห็นบางอย่างจากคุณหนูของตน
“เล่าต่อสิข้ากำลังตั้งใจฟัง” สิ่งหนึ่งที่เธอต้องชมเชยท่านมัจจุราชก็คือการให้ความกลมกลืนทางการสื่อสาร เพราะเธอเข้าใจทุกคำพูดและตอบโต้ได้เหมือนเป็นคนภพนี้จริงๆ
“คุณหนูแปลกไปนะเจ้าคะ”
“แปลกตรงไหน ข้าก็ปกติดีทุกอย่างนะหลี่”
“แค่คุณหนูมีแรงดึงข้าไว้ก็แปลกแล้วเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้สายตาของคุณหนูไม่มีแววเจ็บปวดต่อเรื่องของอ๋องใหญ่สักนิด คุณหนูทำเหมือนไม่รู้จักอ๋องใหญ่ด้วยซ้ำ”
“เจ็บสิ ข้าเจ็บมากๆ แต่ข้าไม่อยากแสดงออกเท่านั้นเอง” สาวใช้คนนี้เป็นคนช่างสังเกตจริงๆ คุยกันแค่ไม่กี่ประโยคก็มองออกแล้วเธอจึงแกล้งตีหน้าเศร้าให้สมจริง “เล่าต่อสิหลี่ข้าอยากรู้”
“เจ้าค่ะ” มองหน้าคุณหนูด้วยแววตาลังเลก่อนจะเปิดปากเล่าต่อ “แล้วพวกนางก็บอกว่าชาตินี้คุณหนูคงเป็นได้แค่พระชายาตราตั้งของอ๋องใหญ่ ส่วนพวกนางถึงจะเป็นแค่อนุ แต่ก็ได้ครอบครองเรือนกายอันสง่างามของท่านอ๋อง ทั้งหมดนี้จะกล่าวโทษพวกนางไม่ได้ ให้กล่าวโทษเรือนร่างอันน่ารังเกียจของพระชายาเอง หลังจากนั้นคุณหนูก็เอาแต่ร้องไห้อยู่บนเตียง และไม่” หลี่สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังลั่นของคุณหนูดังขัดจังหวะ
หลังจากได้ยินประโยคที่ว่าเรือนร่างอันน่ารังเกียจของพระชายา.. รนิดาจึงก้มลงมองร่างของเด็กสาวที่ตัวเองได้ครอบครองอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่าเธออาจจะพิกลพิการส่วนไหน แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับทำให้เธอตกใจจนร้องกรี๊ดออกมา
“ทำไมตัวข้าถึงได้อ้วนอย่างนี้ล่ะ ทำไมคุณหนูของเจ้าถึงได้ปล่อยให้ตัวเองน่าเกลียดอย่างนี้ เอากระจกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ ขอข้าดูหน้าตาของคุณหนูเจ้าหน่อย มัจจุราชนะมัจจุราช ไหนบอกว่าส่งข้ากลับมาเกิดในร่างของข้าไง แล้วทำไมร่างของข้าในชาตินี้ถึงเป็นแบบนี้ ข้าจะไม่ทำบุญเผื่อแผ่ถึงท่านอีกต่อไป ไม่เชื่อก็คอยดู”
“คุๆๆๆ คุณหนู..” หลี่ได้แต่ยืนปากสั่นตาค้างด้วยความกลัวเมื่อได้ยินคำพูดแปลกประหลาดจากปากคุณหนูของตน
“ไปเอากระจกมาให้ข้าสิ!” ตวาดใส่สาวใช้ที่เสียงสั่นอยู่ข้างๆ ด้วยความโมโห
“เจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะคุณหนู” กระจกทองเหลือบานใหญ่ที่วางไว้ในลิ้นชักข้างเตียงถูกส่งให้เกือบทันที
แม้จะกลัวคุณหนูของตนจนอยากจะวิ่งหนีออกไปจากห้อง แต่หลี่ก็เลือกที่จะยืนนิ่งอยู่กับที่เพราะถูกความสงสัยใคร่รู้ครอบงำความคิดอื่น
นางมองคุณหนูที่กำลังส่องกระจกมองใบหน้าของตัวเอง ลูบคลำอย่างถี่ถ้วนด้วยสายตาเคร่งเครียด จากนั้นก็ลุกขึ้นมองสำรวจตัวเองอีกครั้งด้วยสายตาแบบเดิม
“ตัวข้าตอนนี้คงหนักเท่ากับข้าวสารหนึ่งกระสอบเลยกระมัง” หลังจากพิจารณาใบหน้าอ้วนกลม แต่ส่วนประกอบทั้งห้าหมดจดงดงาม ความรู้สึกเคร่งเครียดก็ลดน้อยถอยลงไปบ้าง
“ข้าวสารหนึ่งกระสอบหนักสองร้อยจิน แต่คุณหนูหนักแค่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าจินเท่านั้น”
ข้าวสารหนึ่งกระสอบหนักหนึ่งร้อยกิโลกรัม แสดงว่าเด็กสาวคนนี้ก็หนักประมาณแปดสิบกิโล แม่เจ้า!!! เธอยังเด็กและก็สวยมากๆ แต่ทำไมถึงได้ปล่อยให้อ้วนได้ขนาดนี้กัน เพราะแบบนี้สินะถึงไม่ได้เป็นเมียฮ่องเต้ ส่วนไอ้อ๋องใหญ่เฒ่าลามกนั่น ก็รับไม่ได้กับสภาพของชายาที่ถูกยัดเยียดมาให้
“ข้าสงสารเจ้าจริงๆ ข้าจะช่วยเจ้าเอง ไม่ต้องห่วงนะสาวน้อย”
“คุณหนูเจ้าคะ”
“หือ” รนิดาเลิกคิ้วขึ้นอย่างเคยชินขณะที่ขานรับในลำคอ
นางไม่ใช่คุณหนูของข้า! นางไม่ใช่คุณหนูของข้า! คุณหนูของข้าไม่เคยทำนิสัยเช่นนี้ หลี่กำมือเข้าหากันแน่นเพื่อข่มความกลัวที่กำลังสั่นเทา
“คุณหนูจำเฟิ่งต้าชวี่ได้หรือไม่เจ้าคะ”
เฟิ่งต้าชวี่คือใคร ทำไมไม่เห็นมีในความทรงจำ รนิดาพยายามนึกทบทวนก่อนตอบ
“ตั้งแต่ข้าฟื้นขึ้นมาข้าก็จำอะไรไม่ค่อยได้หรอกหลี่ เฟิ่งต้าชวี่คือใครหรือ”
สาวใช้ตัวน้อยถอยหลังหนีไปหลายก้าว มองไปที่หญิงสาวด้วยสายตาหวาดกลัวอย่างไม่ปิดบังก่อนจะถามด้วยเสียงที่สันเทา
“เจ้าไม่ใช่คุณหนูของข้า เจ้าเป็นผีร้ายที่มาสิงร่างคุณหนูของข้าใช่ไหม ออกไปจากร่างคุณหนูของข้านะ ปล่อยให้นางได้จากไปอย่างสงบเถอะ อย่ามารบกวนนางเลย”
