บทที่ 2 2
“แม่เขาทำเหมือนเตี่ยแก่แล้วอย่างนั้นแหละ”
“ฉันเป็นห่วงสุขภาพเตี่ยนี่นา บอกตามตรงว่าไม่อยากให้เตี่ยไปเลย ไว้รอไปพร้อมกันหน่อยก็ไม่ได้”
“ทำไงได้ล่ะ เพื่อนๆ ฉันมันว่างช่วงนั้นกันพอดี ฉันก็อยากให้แม่ไปด้วยกันนะ” ถ้าไม่ติดว่ามันฉุกละหุกเพราะงานแต่งงานของลูกสาว เขาก็อยากให้ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากเดินทางไปพักผ่อนด้วยกัน
“ฉันแค่ล้อเล่นน่าเตี่ย เอาไว้เสร็จงานแต่งงานของลูกแล้วเราไปกันอีกรอบก็แล้วกันนะ” ภรรยารีบบอกกับสามีพร้อมรอยยิ้มเอาใจ
“จะมีโอกาสอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“มีสิ ทำไมจะไม่มีล่ะ”
“พาแม่เขาไปเที่ยวที่อื่นดีกว่าเตี่ย อียิปต์ บรูไนก็ได้ น่าเที่ยวกว่าเมืองจีนอีก” รนิดาแนะนำสถานที่ที่ตนเองใฝ่ฝันอยากจะไปสักครั้งในชีวิต
“ร้อนตับแตกไปทำไม อากาศไม่ต่างกับบ้านเราเลย ถ้าจะไปก็ต้องไปที่ที่ต่างจากบ้านเราสิพี่หงส์ อย่างเช่นเกาหลี ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมันเป็นต้น” อารียาแย้งอย่างไม่เห็นด้วย
“อากาศไม่คุ้นเคยแบบนั้นไปแล้วต้องเตรียมตัวเยอะ อย่าไปเลยเชื่อเจ๊”
“เตี่ยกับแม่เขาเดินทางบ่อย เขามีพร้อมแล้วจ้ะ”
“เรื่องนี้เดี๋ยวแม่ตัดสินใจเองดีกว่า พวกเราควรแยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว เที่ยงคืนกว่าแล้วเตี่ยไม่ไหวแล้ว” มารดายุติการสนทนาด้วยการลุกขึ้นแล้วชวนสามีกลับห้องนอนเป็นคู่แรก ตามด้วยคู่ของพี่ชายกับพี่สะใภ้ จากนั้นลูกสาวที่ยังโสดอีกห้าคนก็อยู่คุยกันต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนจะแยกย้ายกันไปพักที่ห้องของตัวเอง
…………………
สาย ๆ ของวันใหม่ ครอบครัวของรนิดาก็ได้ต้อนรับว่าที่ลูกเขยที่เพิ่งเดินทางมาถึง ธนายุทธมาพร้อมกับตะกร้าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กล่าวขอโทษขอโพยกับบุพการีของหญิงคนรักที่ไม่สามารถเดินทางมาเมื่อคืนนี้ได้ เพราะติดสอนแทนอาจารย์ท่านอื่นเป็นการด่วนนั่นเอง
“ติ๊กเก็บโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะก็เลยไม่ได้รับสายของตัวเอง พอสอนเสร็จก็ขับรถกลับบ้านเลย มานึกได้ว่าลืมโทรศัพท์ก็ตอนที่กลับถึงห้องแล้ว จะโทรหาตัวเองก็คิดว่าตัวเองคงกำลังสนุกอยู่กับครอบครัวจึงไม่อยากขัดความสุข ติ๊กขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ค่าโทรศัพท์ที่อพาร์ตเม้นต์ติ๊กแพงจะตาย ดีแล้วที่ไม่โทร” เธอคลี่ยิ้มกว้างจนตาหยีให้คนรัก แค่เขามาเธอก็ดีใจมากแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญเลยสักนิด
“ติ๊กรักหงส์ที่สุดเลย” ธนายุทธบีบมือนุ่มนิ่มของคนรัก ส่งยิ้มอ่อนโยนให้เธอ “เย็นนี้ไปกินข้าวที่ห้องติ๊กนะ” กระซิบเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน ถึงแม้จะไม่มีใครคนอื่นอยู่ด้วยก็ตาม
“รู้ทันหรอกนะว่าอยากได้อะไร” หญิงสาวในวัยสามสิบเอ็ดปี ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตรองมิสไทยแลนด์เวิลด์ และนักกีฬาทีมชาติไทย ตอบกลับพร้อมกับสายตารู้ทันความคิดของคนรัก และเธอก็เต็มใจอย่างยิ่ง เพราะต้องการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปเหมือนกัน เกือบเดือนแล้วสินะที่เธอกับเขามัวแต่ยุ่งจนลืมเรื่องบนเตียง
…………………..
เหลืออีกเพียงห้าอาทิตย์งานแต่งงานของเธอก็จะมีขึ้น แต่วันนี้กลับต้องกระวีกระวาดจากสามพรานไปสู่บ้านแพ้ว เพื่อไปรับบิดาและพาท่านไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ
“แฟนของลูกล่ะ” บิดาถามลูกสาวเป็นประโยคแรกที่เจอหน้า เพราะเมื่อคืนตอนที่เธอโทรมาหา เธอบอกเองว่าพวกเขาจะมาส่งตนด้วยกัน
“ติ๊กเขาติดสอนพิเศษแทนเพื่อนจ้ะพ่อ” ลูกสาวจำใจต้องโกหกบิดาเพื่อความสบายใจของท่าน แต่ความจริงแล้วเธอก็ติดต่อเขาไม่ได้เหมือนกัน
“ขยันจริงๆ นะลูกเขยเตี่ย แบบนี้เตี่ยควรจะสบายใจใช่ไหมว่าลูกสาวของเตี่ยจะไม่ลำบาก”
“แน่นอนจ้ะเตี่ย รีบไปกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวสี่ใบเถามันจะรอนาน” เธอหมายถึงน้องสาวทั้งสี่คนที่ต่างก็ทำงานและเรียนอยู่ในกรุงเทพ ที่นัดกันไว้แล้วว่าจะไปเจอกันที่สนามบิน
“ไปสิ”
รนิดาหิ้วกระเป๋าเดินทางของบิดาใส่หลังรถกระบะ โดยไม่ยอมเรียกใช้คนงานชายที่กำลังทำงานอยู่ใกล้ๆ
“เรียกให้คนงานมันทำก็ได้ลูก” ถึงแม้จะรู้ว่าลูกสาวคนโตของตนแข็งแรงผิดกับรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอต้องแบกหามของหนักๆ ด้วยตัวเองอยู่ดี
“เสร็จแล้วจ้ะเตี่ย ขึ้นรถเถอะ” เธอส่งยิ้มให้บิดาและเปิดประตูเรียกท่านขึ้นรถ เสียดายอยู่บ้างที่มารดาและพี่ชายไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน เพราะมารดาติดไปงานบวชของลูกเพื่อนสนิท ส่วนพี่ชายก็ต้องพาพี่สะใภ้ไปตรวจครรภ์ตามที่หมอนัด
“ลูกอยากได้ของฝากอะไรเป็นพิเศษไหม” บิดาเอ่ยถามระหว่างการเดินทางกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน
“ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากหงส์หรอกจ้ะเตี่ย แค่เตี่ยเที่ยวให้สนุกหงส์ก็พอใจแล้วจ้ะ”
“แต่เตี่ยอยากซื้อให้ลูกนี่ เลือกมาสักอย่างสิ”
“ถ้าอย่างนั้นหงส์ขอกำไลหยกก็แล้วกันจ้ะเตี่ย”
“แน่ใจนะว่าลูกจะไม่ทำมันแตกตอนทำงาน”
“เวลาทำงานหงส์ก็ต้องถอดออกสิจ๊ะเตี่ย หงส์ไม่กล้าทำของฝากของเตี่ยเสียหายหรอกจ้ะ” ลูกสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คุยหยอกกับบิดาไปตลอดเส้นทางจนถึงสนามบิน
หลังจากส่งบิดาขึ้นเครื่องเรียบร้อยแล้วเธอและน้องๆ ทั้งสี่ก็ไปรวมตัวกันที่ร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์แห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
“วันนี้พี่หงส์น่าจะนอนกับนกก่อนนะ พรุ่งนี้สายๆ ค่อยกลับ”
“ไม่ดีกว่านก เพราะพี่จะกลับไปนอนกับแม่”
“แล้วเฮียล่ะ” น้องสาวถามถึงพี่ชายที่ปลูกบ้านห่างจากมารดาไม่ถึงยี่สิบเมตร
“เฮียเขาต้องดูแลอาซ้อพี่ก็เลยไม่อยากรบกวนเขา พี่ไปนอนกับแม่สะดวกกว่าเพราะพรุ่งนี้พี่หยุดพอดี” เธอไม่อยากรบกวนพี่ชายที่ต้องดูแลเมียที่กำลังท้อง แล้วยังต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาช่วยงานที่โรงงานทำเต้าหู้ของครอบครัวอีก




























