บทที่ 7 7

ชายหนุ่มมองตามคนรักที่ห่างออกไปเรื่อยๆ แล้วตัดสินใจหันหลังเดินกลับเข้าที่พักเพื่อตั้งหลัก

เอี๊ยดดด..ดด..ดด....  โครมมมม...มม..!!!

เสียงรถเบรกที่ดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ธนายุทธรีบหันไปมอง.. หัวใจแทบจะหลุดลอยไปจากหัวอก เมื่อเห็นรถสิบล้อบรรทุกดินคันหนึ่ง ชนรถมอเตอร์ไซค์คันที่คนรักของตนนั่งซ้อนไปกับตา ทั้งรถและคนกระเด็นลอยไปคนละทิศละทาง ก่อนจะกระแทกตกลงบนพื้นแล้วกลิ้งตกไปที่ข้างทาง

“หงส์!!!” สองขายาวแกร่งแบบนักกีฬาออกวิ่ง พร้อมกับเสียงเรียกอันตื่นตระหนกสุดเสียง

โรงพยาบาล

“ลูกสาวผมปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับคุณหมอ” ไช่ถินถามหมอที่เดินออกมาจากห้องไอซียูด้วยความร้อนใจ

“คนเจ็บอาการโคม่านะครับคุณพ่อ ทางที่ดีญาติๆ ควรทำใจไว้ด้วยนะครับ” นายแพทย์สูงวัยบอกกับครอบครัวของลูกศิษย์อย่างตรงไปตรงมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าใจ

“อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอคะอาจารย์” อารียาถามเสียงสั่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หลั่งน้ำตาออกมา

“อาการของพี่สาวเธอคงต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้นถึงจะฟื้นขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าหมอจะช่วยสุดความสามารถแล้วก็ตาม”

บิดาผู้รักลูกสาวสุดหัวใจร่างสั่นเทา หัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ถ้าไม่มีธนายุทธกับลูกชายคนโตประคองไว้ ร่างสูงใหญ่ของเขาคงลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นแล้ว

“ลูกสาวของผมต้องปลอดภัย เธอกำลังจะแต่งงาน เธอกำลังมีความสุขมากๆ เธอจะยอมทิ้งความสุขไปแบบนี้ได้อย่างไร”

“หมอไม่อยากให้ความหวังแบบลมๆ แล้งๆ นะครับคุณพ่อ” หมอใหญ่มองดูบิดาของลูกศิษย์ด้วยความเห็นใจอย่างที่สุด แต่เขาก็ช่วยสุดความสามารถแล้วจริงๆ “คนเจ็บโดนชนอย่างแรงจนภายในบอบช้ำเกือบทั้งหมด แล้วยังตกลงไปในร่องน้ำข้างทางอีก ตอนนี้ระบบหายใจของเธอทำงานได้แค่ห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะครับ ถ้าเราถอดเครื่องช่วยหายใจออก”

“อย่าถอดนะครับคุณหมอ ได้โปรดช่วยให้ลูกของผมได้หายใจต่อไปนะครับ ผมเชื่อว่าเธอต้องฟื้น เธอจะไม่ทิ้งผมไปแบบนี้เด็ดขาด เธอต้องกลับมาหาพ่อที่รักเธอมากที่สุดคนนี้ ได้โปรดนะครับคุณหมอ ผมขอร้อง” บิดาในวัยหกสิบสองปีคุกเข่ากับพื้น “ผมขอร้อง”

อาจารย์หมอรีบย่อตัวดึงอีกฝ่ายขึ้นมา “ลุกขึ้นก่อนนะครับคุณพ่อ”

“เราจะย้ายคนเจ็บได้ไหมคะอาจารย์” อารียาถามอาจารย์ของตน เพราะอยากให้พี่สาวไปอยู่โรงพยาบาลที่ตัวเองทำงาน จะได้มีเวลาดูแลได้เต็มที่กว่านี้

“เธอไม่เชื่อใจอาจารย์ของเธอเหรออารียา”

“ไม่ใช่ค่ะอาจารย์ หนูแค่อยากดูแลพี่สาวอย่างใกล้ชิดเท่านั้น”

“ถ้าอยู่ที่นี่พี่เธออาจจะอยู่ได้อีกสามวัน แต่ถ้าย้ายไปอาจจะอยู่ได้แค่วันเดียว เธอเลือกเอาก็แล้วกันว่าต้องการแบบไหน” อาจารย์หมอผู้ผ่านชีวิตมามาก เห็นการสูญเสียมาเกือบทุกรูปแบบบอกกับลูกศิษย์คนโปรด จากนั้นจึงเอื้อมมือไปตบบ่าบอบบางคล้ายปลอบใจ “อาจารย์จะดูแลพี่สาวของเธออย่างดี ถ้าเธอเชื่อใจอาจารย์ก็ไม่ต้องย้ายพี่เธอไปหรอก”

“ขอบคุณค่ะอาจารย์” อารียายกมือไหว้อย่างนอบน้อม

ในฐานะหมอเธอเข้าใจความหมายของคำพูดท่านดีว่าไม่ได้หมายถึงพี่สาวจะปลอดภัย แต่ท่านจะช่วยดูแลจนสุดความสามารถต่างหาก

“วันนี้เธอพาครอบครัวกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ปล่อยเรื่องทางนี้ให้เป็นหน้าที่ของหมอดีกว่า เชื่อใจหมอนะครับคุณพ่อ คุณพ่อกลับไปพักผ่อนก่อนนะครับ”

“พ่อไม่กลับ พ่อจะอยู่เฝ้าหงส์จนกว่าเขาจะฟื้น”

“กลับบ้านกันเถอะเฮีย พรุ่งนี้เราค่อยมาเยี่ยมลูกกันใหม่นะ” เมตตาบอกกับสามีด้วยเสียงสั่นเครือ เจ็บปวดใจที่ลูกสาวอยู่ในอาการโคม่าไม่พอ ยังต้องมาเจ็บปวดใจกับอาการหัวใจสลายของสามีอีกคน

“แล้วถ้าลูกฟื้นขึ้นมาคืนนี้ล่ะ ลูกอาจจะกลัวที่ไม่เห็นใครอยู่เป็นเพื่อนนะตา”

“ผมจะอยู่เป็นเพื่อนหงส์เองครับเตี่ย” ธนายุทธรับอาสาเพื่อให้บิดาของคนรักกลับบ้านไปพักผ่อน

“เตี่ยกลับไปพักผ่อนเถอะจ้ะ คืนนี้นกจะอยู่กับติ๊กเอง ถ้าพี่หงส์ฟื้นนกจะรีบโทรไปบอกเตี่ยทันทีเลยดีไหมจ๊ะ” อารียาถือโอกาสอยู่เฝ้าพี่สาวด้วยอีกคน เพราะมีเรื่องข้องใจที่ต้องการคุยกับธนายุทธให้ได้

“กลับเถอะเตี่ย ถ้าเตี่ยไม่กลับแม่ก็คงไม่กลับเหมือนกัน” ลูกชายคนโตที่เป็นห่วงน้องสาวไม่ต่างจากบุพการีทั้งสองเอ่ยขึ้น “เราอยู่ก็ช่วยอะไรคุณหมอเขาไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะเตี่ยนะ”

ลูกๆ ทุกคนต่างช่วยกันเกลี้ยกล่อมบิดาคนละประโยคสองประโยคจนเป็นผลสำเร็จ และเดินทางกลับไปพร้อมกันยกเว้นอารียา

เมื่อทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว อารียาจึงชวนคนรักของพี่สาวออกไปที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล เธอมองเขาด้วยสายตาคลางแคลงใจอย่างเปิดเผย

“ตอนนี้ทุกคนไม่อยู่แล้ว บอกฉันมาตรงๆ ดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับพี่หงส์ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น”

“ฉันไม่เข้าใจคำถามของเธอ”

“อย่ามาไขสือนะติ๊ก ฉันเคยเห็นกับตาว่านายนอกใจพี่สาวฉัน”

“เธอเป็นคนบอกหงส์เหรอ”

“ใช่ฉันบอกพี่หงส์เอง ทำไม ฉันบอกพี่หงส์ไม่ได้เหรอ”

“เธอบอกเขาทำไม แล้วมันมีอะไรดีขึ้นมาไหม หรือว่าเธอพอใจที่เห็นพี่สาวเธอเป็นแบบนี้” เขาระเบิดอารมณ์ใส่เพื่อนเรียนร่วมรุ่นอย่างเดือดดาล “ถ้าเธอไม่บอกหงส์เขาก็คงไม่สะกดรอยตามฉัน และมันคงไม่กลายเป็นแบบนี้”

ฉาด!

“นายยังมีหน้ามาโทษฉันอีกเหรอติ๊ก ถ้านายไม่นอกใจพี่หงส์ เรื่องพวกนี้มันจะเกิดขึ้นไหม” เธอตบเขาสุดแรงแล้วต่อว่าด้วยความโมโห “ที่ฉันถามนายก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะโทษนายที่พี่หงส์ต้องกลายเป็นแบบนี้ ฉันแค่อยากรู้ว่านายทะเลาะกับพี่สาวฉันหรือเปล่าเท่านั้น ทะเลาะอะไรกันทำไมพี่หงส์ถึงได้นั่งมอเตอร์ไซค์วินแทนที่จะขับรถของตัวเอง ฉันถามนายไม่ได้เหรอติ๊ก”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป