บทที่ 4 บทที่ 4.
“อลิน อย่า...” มุกรวีหน้าตื่นหันมามองเพื่อนรักที่วิ่งเข้ามาหาอย่างหมายมาดศีรษะของไอศูรย์ด้วยความตกใจและเป็นห่วงเพื่อนรัก ในขณะที่อรอลินเงื้อมือขึ้นสูงเพื่อจะฟาดร่มลงบนศีรษะของไอศูรย์ ร่างสูงใหญ่ของมาร์โคก็เข้ามาขวางอย่างทันท่วงทีพร้อมกับมือหนาคว้าร่มในมือของอรอลินไว้แล้วกระชากอย่างแรงจนร่มหลุดมือและทำให้อร อลินเสียหลักล้มก้นกระแทกพื้นอย่างจัง
“โอ้ยย ไอ้หมาฝรั่งบ้า แกทำร้ายฉันทำร้ายเพื่อนฉัน ฉันจะแจ้งความจับแกแน่ๆ” อรอลินลุกขึ้นด้วยความฉุนเฉียวมือหนึ่งลูบก้นงอนของตนเองป้อยๆ อีกมือก็ชี้หน้ามาร์โคอย่างเจ็บใจ แม้ว่าตัวเองจะตัวเล็กกว่าอีกฝ่ายมากมายนักก็ตาม
“อลิน เดี๋ยวก่อนๆ เอ่อ คุณมาร์โคคะ อลิน หยุดก่อนๆ” มุกรวีสะบัดมือหลุดจากมือหนาของไอศูรย์ก็รีบวิ่งมาขวางระหว่างหญิงชายทั้งสอง
“อะไรเล่าไข่มุก อย่ามาขวางน่าอลินจะจัดการมัน ไอ้พวกมาเฟียข้ามชาติพวกนี้มันคิดว่าบ้านนี้เมืองนี้เป็นของมันรึไงวะ เข้ามาสิโว้ยแม่จะชกให้หน้าหงาย”
“โธ่ อลินฟังก่อน นะๆ” มุกรวีพยายามขวางร่างเล็กๆ ของเพื่อนรักซึ่งทำท่าจะโผนเข้าหามาร์โคบอดีการ์ดหน้าเข้มของไอศูรย์ซึ่งกอดอกยืนมองคนตัวเล็กที่เต้นเหยงๆ ทำท่าจะเข้ามาทำร้ายเขาด้วยความขบขันแต่ใบหน้าของมาร์โคแสดงออกมาเพียงความเรียบเฉย
ยายเปี๊ยกเอ๊ย ตัวเท่าลูกแมวแต่ทำท่าราวกับแม่เสือหวงลูกตัวแค่นี้จะทำอะไรเขาได้ มาร์โคคิดในใจ...
“นี่คุณมาร์โคเป็นบอดีการ์ดของเจ้านายไข่มุกเองนั่นไงยืนอยู่ตรงโน้น...นั่นคือคุณไอศูรย์เป็นเจ้านายของไข่มุกเป็นท่านประธานใหญ่ด้วย แล้วนี่คืออรอลินเพื่อนของฉันค่ะคุณไอศูรย์ คุณมาร์โค”
“อ้าว ก็ๆ...”
“คือว่าไข่มุกกำลังจะไปทำงานแล้วจะต้องไปประจำอยู่ที่สาขาของโรงแรมในเครือบริษัทซึ่งจะเปิดใหม่ที่เชียงรายไข่มุกเห็นอลินยุ่งๆ แล้วไข่มุกเองก็มัวแต่เก็บของเลยลืมบอก ขอโทษด้วยนะจ๊ะ” มุกรวีบอกเพื่อนรักเบาๆ พลางหันมายิ้มให้ชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนมองพวกเธอเงียบๆ ด้วยสายตาอ่านไม่ออก
“แหะๆ ก็ไม่บอกกันก่อนนี่นะ เอาเป็นว่าฉันขอโทษก็แล้วกัน ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่สุภาพ คือไม่รู้จริงๆ” อรอลินกล่าวขอโทษแล้วยิ้มบางๆ ให้ชายหนุ่มทั้งสอง
ก็แหม ใครจะไปรู้ล่ะ ก็เธอออกมาจากห้องก็พบว่าเพื่อนรักกำลังถูกจูงหรือลากก็ไม่แน่ใจจากผู้ชายแปลกหน้า ซ้ำยังมีชายฉกรรจ์แต่งกายทะมัดทะแมงใส่แว่นตาดำ เหมือนพวกมาเฟียในหนังฝรั่งยืนคุมเชิงอยู่รอบๆ อีกสามสี่คน ก็นึกว่ามุกรวีกำลังจะถูกฉุดไปทำมิดีมิร้ายน่ะสิ
“อืม ไปกันรึยังมุกรวี สายแล้ว” ไอศูรย์พยักหน้าช้าๆ แล้วเรียกหญิงสาวเสียงเรียบก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งในรถยนต์รอเธอด้วยท่าทีหยิ่งผยอง อรอลินได้แต่มองเขาอย่างไม่พอใจพลางหันมาตวัดสายตาชายหนุ่มอีกคนที่ทำให้เธอก้นจ้ำเบ้าโดยที่เขายืนสงบนิ่ง และไม่ขอโทษเธอสักคำด้วย .
ฉันล่ะเกลียดผู้ชายขี้เก๊กพวกนี้นัก อรอลินคิดในใจอย่างเข่นเขี้ยว
“ไข่มุกไปก่อนนะอลิน”
“อืม เดินทางดีๆ ล่ะ แล้วไว้ใจได้ใช่ไหมเจ้านายไข่มุกน่ะ ไปถึงแล้วก็อย่าลืมโทร. มาบอกด้วยนะจะได้ไม่ต้องห่วงอ้อ แล้วโทร. บอกพี่ภูกับแม่แก้วรึยัง แล้ว...”
“พอแล้วจ้ะแม่แก่ แหม.. สั่งเสียยืดยาวใครจะไปจำไหว” มุกรวีรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นอรอลินกำลังจะอ้าปากพูด
“จ้า อลินน่ะมันแม่แก่ เอาล่ะรีบๆ ไปเถอะ ดูสิ เจ้านายเทวดาของไข่มุกหน้าเป็นม้าหมากรุกตอนโดนโขลกแล้ว” อรอลินเหน็บแนมชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ในรถแล้วเลื่อนกระจกลงให้สัญญาณว่า พวกเธอใช้เวลาล่ำลากันนานเกินไป
“จ้ะ ไข่มุกไปนะ ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ อย่าไปรังแกใคร” มุกรวีล้อเพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรู ก่อนที่มาร์โคจะเดินไปด้านคนขับด้วยท่วงท่าราวเจ้าชายโดยที่ไม่หันมากล่าวอะไรกับหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนกัดฟันกรอดๆ กับท่าทางที่น่าหมั่นไส้ของชายหนุ่มตัวโตในความคิดของตน...
“หึ อย่าให้เจออีกนะ ไอ้ยักษ์ฝรั่งไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิด ไม่ขอโทษฉันสักคำ นี่ขนาดว่าเหวี่ยงฉันกระเด็นนะ นายโคถึกเอ้ย..” อร อลินตั้งใจพูดเสียงดังเพื่อให้คนตัวโตได้ยินไม่รู้ว่าเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ แต่ถ้าฟังรู้เรื่องก็ดี อีตาโคถึก จะได้รู้ว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายหญิงสาวก็เพียงแต่ยืนมองดูท้ายรถที่ค่อยๆ วิ่งลับตาไป ก่อนจะเดินเข้าบ้านด้วยความฉุนเฉียวไม่หาย…
“
คุณไอศูรย์คะ คุณทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไรคะ นี่คุณตั้งใจหลอกฉันมาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม แล้วตอนนี้คุณก็เป็นคนหน้าด้านหน้าทนที่สุด
..”
หญิงสาวถามเขาเสียงดังอย่างไม่อาจจะทนเก็บความอัดอั้นตันใจได้อีกต่อไป ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งและไม่เคยมีสักครั้งที่มุกรวีจะพูดเสียงจนแทบจะเป็นตวาดใส่คนอื่นอย่างที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้
