บทที่ 1 ตอนที่ 1
สะใภ้แม่ลูกอ่อน พิศวาสลับกับพ่อสามี พ่อผัวคลั่งสวาท(ลุงใหญ่) ความลับในห้องเล็ก นายฝรั่งฝังใจ พิศวาสใช้หนี้
นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
ผู้เขียน
Alejandro
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
เราเตือนท่านแล้ว
“อีกนิดลุงจ๋า… เอาหนูแรงๆ แทงหนูลึกๆ… หนูอยากจะตายอยู่แล้ว อย่าปรานีหนู”
หลานสะใภ้แม่ลูกอ่อนเรียกร้องออกมาอย่างไม่อาย เมื่อโดนลุงจอมทั้งเบิร์นและดูดนมอย่างหื่นกระหาย ปลุกกระตุ้นความปรารถนามืดดำที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในใจของหล่อนมานาน
และตอนนี้… น้ำผึ้งรู้สึกราวกับว่ามีผู้หญิงร่านราคะอีกคน ซ่อนเร้นอยู่ในตัวตนด้านมืดของหล่อนมานาน รอวันที่จะเผยความปรารถนาอันร้อนแรงออกมาก็ตอนที่โดนผู้ชายบ้ากาม เซ็กส์จัด และมีอวัยวะเพศ ใหญ่ยาวราวกับแขนเด็ก บุกเข้าจู่โจมปลุกปล้ำหล่อนอย่างดิบเถื่อน
สะใภ้
แม่ลูกอ่อน
พุทธศักราช 2562
ที่บ้านไม้สักหลังใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางไร่อ้อยในจังหวัดสุพรรณบุรี
“นี่ไง… บ้านที่พี่เคยอยู่มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ… เห็นแล้วเป็นไง… ผึ้งจะอยู่ได้ไหม”
‘กวินทร์’ เอ่ยถาม ‘น้ำผึ้ง’ เมียสาววัยยี่สิบต้นๆ ที่ตอนนี้เป็นแม่ลูกอ่อน กำลังอุ้มลูกชายในวัยหนึ่งขวบไว้ในอ้อมแขน หลังจากพากันเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เมื่อตอนบ่ายด้วยรถกระบะส่วนตัวที่กวินทร์เป็นคนขับ ใช้เวลาเดินทางร่วมสามชั่วโมงก็มาถึงบ้านเกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี
“อยู่ได้สิจ๊ะ… อันที่จริงก็ไม่ได้ห่างไกลความเจริญเท่าไร… ”
น้ำผึ้งตอบสามี ด้วยหล่อนจินตนาการเอาไว้ว่าบ้านของกวินท์น่าจะมีสภาพภูธรมากกว่านี้ หรือพูดตรงๆ ก็คือน่าจะบ้านนอกกว่านี้ แต่เท่าที่รถแล่นผ่านมาก็เห็นว่ามีห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง เลยมาก็เป็นตลาดเล็กๆ ตลอดสองข้างทางไม่ได้ทุรกันดารอย่างที่นึกกลัว
“โน่นไง… ลุงมาโน่นแล้ว… ลุงจอมครับ”
‘ลุงจอม’ คนที่กวินทร์กำลังทอดสายตามองออกไปพร้อมกับเสียงตะโกนทักทาย ก็คือชายผู้มีพระคุณ
ลุงจอมคือคนที่เลี้ยงดูกวินทร์มาตั้งแต่เล็ก มีศักดิ์เป็นญาติห่างๆ ฝ่ายพ่อ หลังจากพ่อกับแม่ของกวินทร์เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่กวินทร์เพิ่งมีอายุได้เพียงสิบขวบ ลุงจอมก็อาสาเลี้ยงดูกวินทร์แทนพ่อแม่ที่จากไป ด้วยสงสารลูกกำพร้า แกรักและเอ็นดูกวินทร์ไม่ต่างจากลูกในไส้
“ไอ้วินทร์… ”
ลุงจอมตะโกนเรียกหลานชาย ดีใจที่ได้เจอกัน เพราะว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกับก็ปีกว่าล่วงมาแล้ว ตอนนั้นกวินทร์ยังไม่มีเมียด้วยซ้ำ
“ผึ้ง… นี่ลุงจอม”
กวินทร์แนะนำภรรยาให้รู้จักกับลุงจอมซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อบุญธรรม
“สวัสดีค่ะคุณลุง… ”
น้ำผึ้งส่งลูกให้สามีอุ้ม ยกมือไหว้ชายร่างสูงใหญ่ ด้วยเขาเปลือยอก นุ่งเพียงกางเกงขาก๊วย ทำให้เห็นรูปร่างกำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม ลายสักรูปพญาเสือโคร่งที่อกยิ่งทำให้ชายผู้นี้ดูขรึมขลัง ใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามสะดุดตา ไม่ว่าจะมองมุมไหนมีความเป็นชายชาตรีในทุกกระเบียดนิ้ว
“ไหว้พระเถอะหนู”
ลุงจอมยกมือขึ้นรับไหว้ ความสะสวยของหลานสะใภ้ทำให้แกตะลึงมองด้วยความลืมตัว สายตาจับจ้องมองใบหน้าสะสวยสะดุดตา ค่อยๆ กวาดสายตาลงมาหยุดอยู่ที่ทรวงอก สะดุดตากับสองเต้าอวบคัด เบียดอัดกันแน่นอยู่ภายใต้เสื้อผ้าฝ้ายสีครีม มองเห็นจุกหัวนมแทงตุงขึ้นมาจากยอดอกทั้งสองข้าง เห็นคราบน้ำนมเป็นวงชื้นเพราะว่าหล่อนโนบรา
“ลูกชายเอ็งน่ารักจัง… กี่ขวบแล้วนี่”
เมื่อฉุกคิดขึ้นได้ว่าออกจะเป็นการเสียมารยาทที่เผลอจ้องนมของหลานสะใภ้ด้วยความลืมตัว ลุงจอมรีบดึงสายตาออกมาจากสิ่งที่ทำเอาใจเต้น ท่อนเอ็นคัดแข็งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ รีบเปลี่ยนเรื่องมาที่หลาน
“เจ้าทาโร่อายุได้ขวบนิดๆ ครับ”
กวินทร์ตอบ ลุงจอมเอื้อมมือรับเด็กน้อยมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน
“โอ้ว… น่ารักน่าชังเหลือเกินหลานปู่ ดูสิพ่อคุณเอ๊ย ผิวพรรณขาวดีจัง ขาวได้แม่นะเนี่ย”
กล่าวพลางเหลือบมองมาทางแม่ของเด็กแวบหนึ่ง รู้สึกสะดุดตากับผิวพรรณของน้ำผึ้งที่ขาวผ่องนวลเนียน อีกทั้งทรวดทรงองค์เอวก็อะร้าอร่าม นึกชมกวินทร์ว่าช่างตาถึงเสียนี่กระไร ไอ้หลานชายคนนี้หาเมียได้สวยเหลือเกิน
“มาถึงเหนื่อยๆ เข้าบ้านกันเถอะ”
