บทที่ 5 ตอนที่ 5
บนเนินทรายใกล้ชายฝั่ง ร่างสูงใหญ่กว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรของรอนน์กำลังยืนเหวี่ยงเบ็ดอยู่ท่ามกลางประกายแสงแดดยามเย็น
ด้วยตอนนั้นรอนน์เปลือยกายช่วงบน ปกติเขาถอดเสื้อจนเคยชิน ทำให้มองเห็นลำแสงแดดประกายสุดท้ายของตอนใกล้ค่ำสาดมาอาบกระทบร่างของพ่อสามีชัดเจนเต็มตา
‘อู้ว... ’
ดาหลาอุทานในใจ ภาพของพ่อสามีสะดุดตาสะใภ้เข้าอย่างจัง เห็นชัดเลยว่ารอนน์ช่างดูบึกบึนและแข็งแกร่ง
ทั้งเนื้อทั้งตัวตึงเต็มไปด้วยริ้วลายกลามเนื้อและมัดกล้าม ความเป็นชายชาตรีในทุกกระเบียดนิ้วของเขาทำเอาดาหลาใจเต้นแรง หล่อนแทบไม่ละสายตาจากภาพของรอนน์
“เดี๋ยวปู่จะทำให้ดูนะ”
รอนน์บอกกับหลานชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็สอนริวเหวี่ยงเบ็ดตกปลา
“ลองดูไอ้เสือ... ”
รอนน์สั่ง ดาหลายืนมองทุกอากัปกิริยาของรอนน์ไม่วางตา ขณะเขากำลังเอี้ยวกายเหวี่ยงเบ็ดอยู่นั้นเมื่อมองมาจากทางด้านหลังก็เห็นแผ่นหลังรูปวีเชฟสวยงาม บั้นท้ายของพ่อผัวช่างหนั่นแน่น เอวหนาช่วยยืนยันถึงความแข็งแกร่งและพละกำลังของช่วงล่างได้เป็นอย่างดี
ก้นของรอนน์ที่แน่นนูนจนงอนออกมาน้อยๆ ทำให้เขาดูเซ็กซี่สะดุดตา ช่างรับกับต้นขาแข็งแกร่ง ในยามที่เขาเอี้ยวกายกลับมาแลเห็นเป้ากางเกงคับติ้วจนตุงแน่น ยิ่งทำให้หัวใจของดาหลาเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“พอได้ไหมครับปู่”
คนไม่มั่นใจว่าตัวเองทำได้ดีหรือยัง รีบหันมาถามคนสอน
“เยี่ยมไปเลย... แต่ลองอีกที... สะบัดข้อมืออีกนิด”
ริวลองทำตามที่ปู่รอนน์บอก ท่าทางของเด็กชายดูเก้ๆ กังๆ ในตอนแรกก็จริง แต่หลังจากได้ใช้ความพยายามหลายต่อหลายครั้งโดยมีปู่รอนน์คอยยืนให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ก็ทำให้ริวสามารถตกปลาได้ในที่สุด
“ว้าว... ปลาติดเบ็ดผมแล้วครับคุณปู่... เย้ๆ ๆ ๆ ได้แล้วครับแม่ดา”
ริวตะโกนเสียงดังลั่นอวดผลงาน รีบหมุนรอกตามที่ปู่รอนน์สอนเอาไว้ ตวัดสายเบ็ดดึงจนปลาโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวน้ำ ตอนนั้นจึงเห็นว่าเป็นชะโดตัวใหญ่
“ว้าว... ปลาอะไรครับปู่... ”
ริวถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยเห็นปลาชนิดนี้ใกล้ๆ เพราะเด็กที่เกิดและเติบโตมาในเมืองหลวงนั้นแทบไม่รู้จักการยิงนกตกปลา ต่างจากเด็กที่เติบโตมากับชนบทบ้านนอก
“เจ้านี่เค้าเรียกชะโด เก่งนี่หว่าไอ้เสือ... เจ๋งโคตรๆ”
รอนน์ตะโกนชมหลาน ดาหลานึกแปลกใจที่เห็นพ่อสามีใช้ศัพท์แสงวัยรุ่น แบบนี้มั่นใจได้เลยว่าเขากับลูกชายของหล่อนจะเข้ากันได้ดีแน่ๆ
ไม่นานรอนน์ก็ตวัดเบ็ดขึ้นมาอีก ได้ปลาตัวใหญ่มาอีกหลายตัว ดาหลาพับขากางเกงแล้วเดินลุยน้ำข้ามเนินทรายเอาถังพลาสติกมาให้รอนน์ใส่ปลา
“ดูท่าทางคุณมีความสุขกับชีวิตที่นี่นะคะ”
ดาหลาชวนคุย
“ครับ... ผมชอบที่นี่มาก มันเป็นส่วนตัว เงียบสงบไปกับธรรมชาติรอบตัว บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายกับชีวิต... ชีวิตทุกวันนี้แค่ไม่ทุกข์ก็สุขแล้ว”
รอนน์กล่าวได้น่าคิด ภายหลังเสร็จจากตกปลาเขาก็พาดาหลากับลูกชายของหล่อนกลับมาถึงบ้านในตอนใกล้ค่ำ
รอนน์นำปลาที่ตกได้มาทำอาหารมื้อค่ำตามที่เขาเป็นคนบอกเองว่าอยากให้เป็นมื้อพิเศษ สำหรับโอกาสพิเศษในการกลับมารวมตัวกันของคนในครอบครัวอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้เจอหน้ากัน
เมื่อก่อนรอนน์รู้เพียงแค่ว่าตะวันมีครอบครัวอยู่ที่กรุงเทพฯ เช่นเดียวกับดาหลาที่รู้ว่าตะวันผู้เป็นสามีของหล่อนมีพ่อเลี้ยงอยู่ที่เชียงราย
แต่อคติในใจของตะวันที่มีต่อรอนน์ ก็ทำให้เขาไม่ยอมไปมาหาสู่กับพ่อเลี้ยงคนนี้ ภายหลังมีปากเสียงกันรุนแรง
ห่างออกไปจากโต๊ะไม้เล็กๆ ที่ผู้เป็นเจ้าของบ้านย้ายออกมาจากห้องครัว เพื่อที่จะนำมาตั้งเอาไว้กลางสวนเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ รอนน์กำลังทำปลาเผาอยู่อีกฟาก ร่างสูงยืนถือเหล็กคีบคอยพลิกปลากลับไปมาบนเตาไฟอย่างชำนิชำนาญ
“ร้อนจัง... จะเป็นไรไหมถ้าผมจะถอดเสื้อ”
รอนหันมาถามลูกสะใภ้ ที่ขออนุญาตก่อนเพราะเขาเกรงว่ามันอาจจะไม่สุภาพนัก
“ตามสบายค่ะ”
ดาหลาตอบ ด้วยรู้ว่ารอนน์ยืนอยู่ใกล้เตาไฟมาพักใหญ่ๆ แล้ว เขาคงร้อนมากจริงๆ ยืนยันด้วยเหงื่อเป็นมันปลาบที่อาบอยู่ทั่วใบหน้าคมคร้าม
ตอนที่รอนน์หันมาถามทำให้ดาหลาเห็นใบหน้าคมคร้ามเผยออกมาสู่แสงไฟชัดเจน... และมันทำให้หัวใจของหล่อนกระตุกวูบ เพราะว่ารอนน์หล่อเหลือเกิน
‘โอ้ว... ’
ดาหลาแทบจะยกมือขึ้นป้องปากด้วยความลืมตัว เมื่อสายตาปะทะเข้ากับเรือนร่างกำยำ อาบเลื่อมไปด้วยสายเหงื่อของรอนน์ตอนที่เขาถอดเสื้อ
เมื่อถอดเสื้อยืดออก รอนน์ก็เหลือแค่กางเกงบอลขาสั้นผ้าพลิ้วบางเพียงตัวเดียวที่ปกปิดร่างกายช่วงล่างเอาไว้ ทำให้มองเห็นต้นขาแข็งแกร่ง เป้ากางเกงคับแน่น ก้นของรอนน์ดูแข็งแกร่งเต็มตึง บั้นท้ายซึ่งงอนน้อยๆ นั้นเองที่เพิ่มความน่ามองได้อย่างเหลือเชื่อ ทำเอาหัวใจของลูกสะใภ้กระตุกวูบ
ดาหลาไม่อายที่จะบอกตัวเองว่าหล่อนชอบผู้ชายแบบนี้ แพขนสีดำที่แผ่กระจายปกคลุมลงมาถึงต้นขายิ่งเสริมส่งให้เขาดูเซ็กซี่สมชายชาตรี
