บทที่ 9 ตอนที่9
เช้าวันต่อมา
08.00 น.
“อ้าวหนูพลอยมาแต่เช้าเลยรอนานไหมจ้ะ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหญิง พลอยรอไม่นานค่ะพึ่งมาถึงเหมือนกัน”
คุณหญิงดวงแขเห็นพลอยไพลินนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกไม่คิดว่าหญิงสาวจะมาแต่เช้าเลยออกมาช้านิดหน่อยเพราะมัวแต่ไปปลุกลูกชายตัวดีด้วยตัวเองจะได้มาทำความรู้จักกับพลอยไพลินที่กำลังจะมารักษาเจ้าตัวแต่ลูกชายของเธอก็ไม่ยอมตื่นแถมบอกว่าจะไม่ยอมรักษาอีกต่างหาก
“แล้วหนูแก้วกับยัยหนูล่ะ “
“อ่อ ลูกแก้วพายัยหนูออกไปเดินเล่นที่สวนน่ะค่ะ นั่นไงกลับมาแล้ว” พลอยไพลินที่ชะเง้อมองออกไปข้างนอกเห็นว่าลูกแก้วกำลังอุ้มยัยหนูเดินเข้ามาพอดี
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหญิง..ชมพูธุจ้าคุณหญิงก่อนเร็วคนเก่ง” เมื่อน้าบอกให้ธุจ้าเจ้าก้อนกลมก็ยกสองมือประกบกันพร้อมยิ้มปากบานส่งเสียงอ้อแอ้ทักทายคนตรงหน้าด้วยความอารมณ์ดี
“แอ้ๆๆๆ”
“โอโห ลูกสาวใครเนี่ยธุจ้าสวยจังเลยค่า”
“แอร๊ะ..” เจ้าก้อนเหมือนจะรู้ว่ามีคนชมยินคำชมจึงส่งเสียงเอิ้กอ้ากหัวเราะชอบใจใหญ่
“รู้ด้วยว่ามีคนชม..หนูรู้ใช่ไหมคะน่าฟัดจริงๆเลยยัยหนู” มือเรียวของดวงแขยื่นขยำพุงพุ้ยแพรชมพูเบาๆด้วยความเอ็นดู
“หนูพลอยหนูแก้วทีหลังไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหญิงแล้วนะจะเรียกฉันว่าแม่เถอะจะ” ดวงแขว่าจะคุยกับสองสาวเรื่องนี้ตั้งแต่เจอกันวันนั้นแล้ว
“จะดีเหรอคะคุณหญิงคือพลอยคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไรค่ะ”
“ใช่ค่ะคุณหญิง” สองสาวหันมองหน้ากันด้วยท่าทีที่เกรงใจดวงแขไม่น้อย
“ไม่เหมาะอะไรกัน..ก็ฉันน่ะมีลูกชายแค่คนเดียวลูกสาวก็ไม่เคยมีแถมฉันยังอยากได้ยัยหนูชมพูมาเป็นหลานอีกด้วยมาเป็นลูกสาวแม่กันนะถือว่าเห็นใจคนแก่ขี้เหงาที่อยากมีลูกเยอะๆด้วยเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ..พลอยต้องขอบคุณมากๆเลยนะคะที่เอ็นดูพวกเรา” สองสาวจำต้องจำนนกับลูกอ้อนของดวงแข
“งั้นทีนี้ยัยหนูชมพูก็เป็นหลานยายแล้วสินะ..มาให้ยายอุ้มหน่อยเร็วคนเก่ง” พอสองสาวตอบรับความต้องการได้คุณหญิงก็ยิ้มปลื้มปริ่มก่อนจะยกสองแขนขออุ้มเจ้าก้อนกลมที่น่ารักน่าเอ็นดูที่อยู่กับลูกแก้ว
“..อื้มมม..หม่ำๆๆๆๆ” ดูท่าเจ้าก้อนกลมจะเข้าใจผิดคิดว่าคนขออุ้มจะยื่นอะไรให้เลยเอ่ยหม่ำๆขอของกินก่อนจะยัดกำปั้นเข้าปากเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนในที่นี้ได้เป็นอย่างดี
“สงสัยจะหิวสินะ...ดูซิเนี่ยกินเก่งจนตัวกลมหมดแล้ว” ดวงแขนึกเอ็นดูแพรชมพูเสมือนหลานเธอจริงๆจึงรู้สึกกระชุ่มกระชวยไม่น้อยที่จะมีหลานเล็กมาอยู่ด้วยต่อไปนี้เธอก็จะไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว
ทั้งพลอยไพลินและลูกแก้วต่างเกรงใจคุณหญิงดวงแขที่มาอาศัยบ้านเขายังไม่พอแถมจะยกฐานะให้พวกเธออีกทั้งสองเห็นว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไรเพราะกลัวว่าคนในบ้านจะมองไม่ดีจึงตอบปฏิเสธคุณหญิงไปแต่เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของคุณหญิงที่ดูว่าจะเหงาจริงๆทั้งสองจึงต้องจำใจยอมตอบตกลงคำขอของคุณหญิงดวงแขจนได้
ครู่ต่อมา
“ฉันว่าเราไปทานข้าวกันก่อนเถอะเดี๋ยวจะสาย” ดวงแขเอ่ยปากชวนทุกคนทานข้าววันนี้มีกับข้าวมากปกติเพราะทำเผื่อทุกคนที่มาอยู่ใหม่ด้วย
“หนูพลอยทานเลยนะคะ เดี๋ยวนมจะป้อนข้าวหนูชมพูให้เองค่ะ”
“จะดีเหรอคะนมนิดเดี๋ยวพลอยป้อนข้าวยัยหนูก่อนแล้วค่อยทานก็ได้ค่ะ” จากที่เกรงใจดวงแขมากแล้วตอนนี้ยังต้องมาเกรงใจนมนิดอีก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..นมกินตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะแล้วอีกอย่างคุณพลอยก็ต้องไปดูคุณพอลต่ออีกนมทำข้าวต้มหมูไว้ให้หนูชมพูแล้วด้วยค่ะ” พลอยไพลินเห็นมีจะขัดอะไรไม่ได้เพราะกลัวจะถูกหาว่าเธอหวงลูกอีกอย่างวันนี้หรือวันต่อๆไปนมนิดก็ต้องคอยดูแลลูกของเธออยู่แล้วจะสร้างความคุ้นเคยไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
“งั้นต้องรบกวนนมนิดด้วยนะคะ”
“ยินดีค่ะ” พูดจบนมนิดก็ไปอุ้มเจ้าก้อนมานั่งที่รถเข็นเด็กข้างๆโต๊ะทานข้าวแล้วก็ตักข้าวต้มที่กลิ่นหอมฉุยพลางใช้ปากเป่าให้ข้าวต้มเย็นลงก่อนป้อน..ยัยหนูชมพูดูท่าจะชอบข้าวต้มฝีมือนมนิดเอามากซะด้วยสิดูได้จากการประท้วงเมื่อนมนิดป้อนไม่ทันแล้วเจ้าตัวกลมก็เด้งตัวขย่มรถที่ตัวเองนั่งภาพตรงหน้าทำเอาคุณหญิงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เอ็นดูหลานคนใหม่คนนี้จริงๆ
“หนูชมพูนี่เหมือนคุณพอลตอนเด็กๆเลยนะคะคุณหญิง...ชอบกินข้าวต้มหมูพอป้อนไม่ทันก็ประท้วงน่าเอ็นดูจริงๆค่ะ”
พลอยไพลินชะงักค้างเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าพอลแต่คิดว่าคงไม่น่าจะใช่คนๆเดียวกับที่เธอคิดถึงอยู่ตลอดเพราะป่านนี้เขาคงแต่งงานเลี้ยงลูกมีความสุขกับคู่หมั้นของเขาไปแล้ว
“ก็ข้าวต้มของนมนิดทั้งอร่อยทั้งหอมเด็กคนไหนก็ชอบทานทั้งนั้นแหละจะ” ดวงแขเอ่ยเรื่องจริง
“อย่าว่าแต่เด็กเลยค่ะ แก้วได้กลิ่นแก้วยังอยากทานเลยค่ะ” ลูกแก้วที่ได้ชิมข้าวต้มในถ้วยแล้วจึงเอ่ยเสริมขึ้นมา
“หืม หนูแก้วปากหวานเดี๋ยวพรุ่งนี้นมจะทำหม้อใหญ่เผื่อทุกคนไปเลยค่ะ” โต๊ะอาหารวันนี้ดูสดชื่นกว่าทุกวันมีเสียงหัวเราะเฮฮาเพราะขำกับเด็กผู้หญิงตัวกลมบ้างและก็คุยกันบ้าง


































































































