บทที่ 1 เจ้าบ่าวสำรอง

ตาคู่คมมองร่างบอบบางในชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูกลีบบัว ที่ก้าวลงมาจากชั้นบนด้วยความพอใจ พราวระวี        กิติกรไพศาล ไฮโซตระกูลดังเข้าประตูวิวาห์กับกัณภัทร      แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันมายาวนาน

บรรยากาศภายในงานชื่นมื่นเต็มไปด้วยความสุข แต่ถ้า  มีใครสังเกตจะเห็นว่า พ่อแม่ฝั่งเจ้าบ่าวมักจะมองหน้ากันบ่อย ๆ เพราะทั้งสองต่างรู้ดีว่าผู้ชายที่ใส่ชุดเจ้าบ่าวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ใช่กัณภัทร

กัณภัทรหายตัวไปตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน กว่ากล้าตะวันจะยอมเข้าพิธีแต่งงานแทนน้อง ก็ทำเอาท่านทั้งสองแทบหัวใจวายตาย ต้องแก้สถานการณ์ไปก่อน เพราะทุกอย่างถูกเตรียมเอาไว้หมดแล้ว กล้าตะวันกับกัณภัทรเหมือนกันจนแยกไม่ออก จะมีก็แต่สีผิวเท่านั้นที่ต่างกันกล้าตะวันทำงานกลางแจ้ง ในขณะที่กัณภัทรดำรงตำแหน่งผู้บริหาร และทำงานในห้องแอร์เท่านั้น

“ไปรับน้องสิกล้า” มารตรีกระซิบบอกลูกชายคนโตที่ยัง  นั่งอยู่กับที่ ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นเดินตรงไปหาคนร่างบาง มองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า วันนี้พราวระวีสวยมาก สวยจนเขาต้องแอบมองเธออยู่บ่อยครั้ง

มือหนายื่นไปข้างหน้า สวมแหวนเสร็จทุกอย่างก็จบ       ที่เขายอมเล่นไปตามบทก็เพราะไม่อยากให้พ่อแม่เสียหน้า     กัณภัทรไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ทำไมไม่มางานแต่งงานตัวเอง มีเรื่องให้เขาต้องทำอีกแล้ว ไม่ว่ากัณภัทรอยู่ที่ไหน เขาต้องลากคอน้องกลับมาก่อนตะวันตกดินให้ได้

ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสกัน พราวระวีสะดุ้งสุดตัว ตากลมโตมองหน้าคนรัก สะบัดมือออก แต่ถูกมือหยาบกร้านยึดไว้ แล้วบีบลงบนมือเธออย่างแรง

“ปล่อยนะ คุณกล้า” พูดพร้อมกับบิดมือออก สัมผัสแค่ปลายนิ้วก็ทำให้พราวระวีรู้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคือกล้าตะวัน   มือหนากระชากหญิงสาวมาชิดอกแกร่ง ใช้แขนอีกข้างกอดเอวเธอไว้ แล้วกระซิบลงที่ใบหูบอบบาง

“นั่งนิ่ง ๆ แค่ห้านาที”

“ไม่ ปล่อยฉันนะ”

“อยากอายคนก็เชิญ” พูดจบก็ปล่อยแขนออกจากเอวบาง ตากลมโตมองไปยังแขกเหรื่อในงาน เข้าใจแล้วว่ากล้าตะวันหมายถึงอะไร

“กันต์อยู่ไหน” เค้นเสียงลอดไรฟัน ยอมให้เขาจูงเข้ามานั่งข้างหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

“คำถามนี้ผมต้องถามคุณมากกว่า”

“หมายความว่าไงคะ”

“ไปทำท่าไหนล่ะ เจ้าบ่าวถึงได้หนีหัวซุกหัวซุน”

“คุณกล้า!”

“นั่งเฉย ๆ สวมแหวนเสร็จก็ทางใครทางมัน”

กล้าตะวันบอกกับหญิงสาว เขาก็เบื่อเต็มทน ทำให้มัน   จบ ๆ ไปจะได้แยกย้าย หวังว่าคนของเขาจะหาตัวกัณภัทรเจอก่อนงานเลี้ยงคืนนี้นะ เพราะเขาไม่อยากแสดงละครอีกแล้ว     ยิ่งเห็นเธอทำท่าทางรังเกียจจนออกนอกหน้า กล้าตะวันก็อยากบอกให้รู้เช่นกัน ว่าเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเธอ

“เจ้าบ่าวสวมแหวนให้เจ้าสาวได้เลยครับ” สิ้นเสียงมือหนาคว้าลงที่มือบางหยิบแหวนขึ้นมาแล้วสวมลงไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของพราวระวีอย่างเร็ว

ท่ามกลางสายตาที่งุนงงของแขกเหรื่อ พราวระวีนั่งนิ่ง ใบหน้าสวยเชิดขึ้น ไม่กราบหรือขอบคุณเขาอย่างที่ควรจะเป็น อนันต์กับมารตรีถอนหายใจออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นแหวน     ถูกดันเข้าไปจนสุดนิ้ว

“เจ้าบ่าวเจ้าสาวกราบผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายครับ”

สิ้นเสียงกล้าตะวันกับพราวระวีหันไปกราบผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ทุกคนในงานเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมของบ่าวสาวที่ต่าง    ก็หน้าบึ้งตึง และขยับออกจากกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

“เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวหน่อยครับ”

“ไม่จำเป็นค่ะ!”

พราวระวีโพล่งออกมาอย่างลืมตัว กล้าตะวันมองเธอ     ตาขวาง มือหนาคว้าลงที่ลำคอบอบบาง กระชากเข้ามาหา   แล้วประกบปากลงมาบนปากบางอย่างแรง ทำโทษที่เธอพูด     ไม่ดูกาลเทศะ จูบของกล้าตะวันดูดดื่มและดุดัน จนแขกในงานบางคนถึงกับยกมือทาบอก มันไม่ได้หวานชื่นแบบที่บ่าวสาวควรแสดงต่อกัน พราวระวีทุบลงที่อกกว้าง ผลักให้เขาถอนปากออก เมื่อเขาจูบจนเธอแทบขาดอากาศหายใจ

“คุณกล้า!”

พราวระวีตวาดแหว พร้อมกับผลักลงที่อกของเขาอย่างลืมตัว แขกในงานต่างมองหน้ากัน

“จดทะเบียนสมรสเลยครับ” พิธีกรรีบข้ามขั้นตอน        เมื่อเห็นความผิดปกติของบ่าวสาว

“ไม่ต้องค่ะ”

“ไม่ต้องครับ”

สองเสียงประสานออกมาพร้อมกัน

“พราว คุณกันต์ มีอะไรหรือเปล่าลูก” พิมพ์ดาวถามเมื่อเห็นอาการของลูกสาว กับว่าที่ลูกเขยที่แสดงต่อกัน

“เปล่าครับแม่” กล้าตะวันตอบ อยากจะกัดลิ้นตัวเองตายที่เกือบพลาด อีกแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะจบลง

“ไม่มีอะไรค่ะ”

“งั้นเชิญครับ เจ้าหน้าที่อยู่ด้านโน้น” สิ้นเสียงกล้าตะวัน    ก็ลุกขึ้นเดินนำออกไป โดยไม่หันมาสนใจคนที่อยู่ในชุดเจ้าสาวเลยสักนิด ชายหนุ่มจรดปลายปากกาลงในกระดาษ เมื่อมานั่งอยู่ตรงหน้าเจ้าหน้าที่

“กล้าตะวัน” เจ้าหน้าที่อ่านชื่อเจ้าบ่าวอีกครั้ง ในการ์ดและป้ายหน้างานระบุชื่อเจ้าบ่าวไว้อย่างชัดเจนว่าชื่อกัณภัทร แต่ทำไมในใบทะเบียนสมรสถึงเป็นกล้าตะวัน

“คุณกล้า คุณเซ็นชื่อคุณทำไม” พราวระวีเค้นเสียงลอดไรฟัน เมื่อรับทะเบียนสมรสมาถือเอาไว้

“ผมลืม ผมชื่อกล้าตะวันจะให้เขียนชื่อคนอื่นได้ไง           รีบ ๆ เซ็นเถอะ ผมเสียเวลากับเรื่องนี้มามากแล้ว”

“ใครใช้ให้คุณมาเสียเวลาคะ ยกเลิกงานแต่งง่ายกว่าเยอะ ฉันก็ไม่อยากปั้นหน้าหลอกใครเหมือนกัน บอกตรง ๆ     นะคะ คุณน่ะน่ารังเกียจที่สุด”

“พราวระวี” กล้าตะวันคำรามลั่น เมื่อได้ยินคำนี้จากเธอ

“เสร็จแล้วใช่ไหมคะ ฉันขอตัว”

พูดจบเจ้าสาวก็ลุกเดินออกไป กล้าตะวันมองทะเบียนสมรสที่ถูกวางทิ้งไว้ หยิบขึ้นมาดูแล้วถือมันออกไป เพราะ       ไม่อยากให้คนในงานสงสัยไปมากกว่านี้ อย่าบอกนะว่าที่      กัณภัทรไม่มาแต่งงาน เพราะนิสัยของเจ้าสาว เขาเองก็ไม่ชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น พราวระวีผู้หญิงบ้าอำนาจ ก้าวร้าว และเอาแต่ใจตัวเองที่สุด

บทถัดไป