บทที่ 9 ฉันเกลียดการถูกก่อกวน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณัฏฐ์ยืนคุยโทรศัพท์อยู่บนระเบียงที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของลลิตา
“ท่านครับ ตรวจสอบพบแล้วครับ”
ณัฏฐ์ลูบปลายนิ้วของตัวเอง พลางฟังปลายสายพูดด้วยท่าทีครุ่นคิด
“ยานี่...ใช้สำหรับรักษาโรคเครียดจากเหตุการณ์สะเทือนใจเหรอ?”
“อืม ฉันรู้แล้ว”
รายงานผลการตรวจสุขภาพทั้งหมดของวัชรพลเขาก็เคยดูมาหมดแล้ว ไม่มีโรคนี้
ดังนั้นก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าใบสั่งยานี้ใช้รักษาใคร
ณัฏฐ์บีบแก้วในมือจนแตกละเอียด ในแววตาฉายแววอำมหิตออกมาวูบหนึ่ง
ลลิตาคนนี้ ช่างชอบยุ่งไม่เข้าเรื่องจริง ๆ!
เด็กคนนั้นเกี่ยวอะไรกับหล่อน? ถึงได้เสนอหน้าเข้าไปรักษาให้ขนาดนั้น
เขากำโทรศัพท์ที่หน้าจอดับไปแล้วแน่น ก่อนจะก้าวฉับ ๆ เข้าไปเผชิญหน้ากับลลิตาที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องนอนพอดี
สายตาของชายตรงหน้าที่มองมาเต็มไปด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ สีหน้าเคียดแค้นที่จ้องมองมาราวกับอยากจะฆ่าเธอให้ตาย
ลลิตาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อาคะ ช่วยหลีกทางหน่อยค่ะ”
“แหม คุณลลิตาผู้ใจบุญ ไปทำความดีอะไรมาอีกแล้วล่ะ?”
ณัฏฐ์ไม่หลีกทางให้แม้แต่น้อย เขาจ้องมองลลิตาพร้อมกับพูดจาเยาะเย้ย
“เรื่องของบ้านอา... เธอจะมายุ่งอะไรด้วย?”
ลลิตาสบตาเขากลับไปอย่างไม่เกรงกลัว ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชาและดูแคลน
ณัฏฐ์ฉุนกึกขึ้นมาทันที เขาแค่นเสียงเย็นชาแล้วเอาโทรศัพท์ชี้หน้าเธอพลางกดเสียงต่ำเตือนว่า “ฉันขอเตือนเธอไว้หน่อย”
“เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเธอ ทางที่ดีอย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า คนที่ชอบยุ่งไม่เข้าเรื่อง สุดท้ายมักจะจบไม่สวย”
นี่เขามาเพื่อเตือนเธอเหรอ?
ลลิตาเหลือบมองไปทางระเบียงก็เข้าใจในทันที ว่าณัฏฐ์แอบจับตาดูเธอจากตรงนั้นมาครึ่งค่อนวันแล้ว
ใบสั่งยาที่เธอเพิ่งเอาไปเมื่อครู่ ก็คงจะให้คนเอาไปตรวจสอบแล้วเช่นกัน
เขามาเพื่อเตือนเธอ ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการรักษาอาการป่วยของเด็กคนนั้น
ลลิตาจ้องมองเขากลับด้วยสายตาเย็นชา และพูดอย่างมั่นใจว่า “คุณก็รู้ว่าอาทิตย์มีอาการป่วยทางจิต”
บนใบหน้าที่เย็นชาของณัฏฐ์ปรากฏแววไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมาวูบหนึ่ง
ลลิตาเค้นถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ที่บ้านไม่เคยมีใครพาเด็กไปหาหมอเลย เรื่องนี้เป็นฝีมือของอาใช่ไหมคะ?”
สายตาของเธอยิ่งทวีความเฉียบคมขึ้น ราวกับสามารถมองทะลุเข้าไปในจิตใจของคนได้
ในแววตาของณัฏฐ์ฉายแววรำคาญออกมา เขาจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ”
“การจะทำอะไรบางอย่างมันก็ต้องมีราคาที่ต้องจ่าย! ฉันแนะนำให้เธอคิดให้ดีก่อนจะทำ อย่าให้ถึงตอนนั้นแล้วต้องมาเสียใจทีหลัง”
ณัฏฐ์มองลลิตาด้วยสายตาเย็นเยียบ ก่อนจะก้าวฉับ ๆ เตรียมจะเดินจากไป
เรื่องนี้เป็นฝีมือของณัฏฐ์จริง ๆ ด้วย!
ลลิตามั่นใจมาก!
“เดี๋ยวก่อน!”
ลลิตาเอ่ยเสียงหนักเรียกณัฏฐ์ให้หยุด ณัฏฐ์หันกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์ สายตาจ้องเขม็งมาที่เธอ
เธอมองสบดวงตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความมืดมน แล้วพูดถึงข้อสันนิษฐานของตัวเองออกมาทีละประโยค “ถ้าฉันเดาไม่ผิด ตอนนั้นที่คุณพิสิษฐ์มอบอำนาจให้วัชรพลโดยตรง คุณอิจฉาใช่ไหมล่ะ?”
ใบหน้าของณัฏฐ์ฉายแววดุร้ายน่ากลัว “เธอต้องการจะพูดอะไร?”
“คุณคิดว่าต่อให้วัชรพลตายไปแล้ว คุณปู่ก็จะยังคงปั้นอาทิตย์ต่อไป และจะไม่ยอมมอบอำนาจของบริษัทกิตติเจริญให้คุณ”
คำพูดแต่ละคำราวกับมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจของณัฏฐ์ สายตาของเขายิ่งทวีความแหลมคมขึ้น
ลลิตายังคงพูดด้วยท่าทีเรียบเฉย “คุณตั้งใจจะเลี้ยงอาทิตย์ให้เสียคน คุณไม่ต้องการให้เขาสุขภาพแข็งแรง”
“คุณก็เลยตุกติกตอนตรวจสุขภาพประจำปี โดยการติดสินบนหมอ ให้ปลอมแปลงรายงานผลการตรวจสุขภาพ”
ทุกถ้อยคำแทงใจดำ ลลิตาจ้องมองใบหน้าของณัฏฐ์อย่างใจเย็น และก็เป็นไปตามคาด ณัฏฐ์โกรธจัดขึ้นมาทันที
เขาพุ่งเข้ามาทำท่าจะกระชากคอเสื้อของลลิตา แต่ในวินาทีที่กำลังจะสัมผัสถูกเสื้อผ้าของเธอ
เขาก็ยับยั้งตัวเองไว้ได้ สายตาจับจ้องไปที่ลลิตาอย่างเย็นเยียบ พร้อมกับเผยรอยยิ้มแปลก ๆ ออกมา
ข้อมูลเกี่ยวกับลลิตาที่เคยให้คนไปสืบมาก่อนหน้านี้ผุดขึ้นมาในหัวของเขาทันที
ลลิตาคนนี้... ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ!
ผู้หญิงคนนี้มีวิชาแพทย์ที่สูงส่ง ใบสั่งยาที่เขียนให้ส่ง ๆ ยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในประเทศต่างชื่นชมไม่ขาดปาก
ยิ่งไปกว่านั้น ท่าทีและวิธีการพูดของเธอก็ไม่เหมือนคนขี้ขลาดเลยสักนิด แต่ในข้อมูลกลับบอกว่าเธอถูกตระกูลโชติพันธ์ควบคุมมาโดยตลอด
มีจุดน่าสงสัยอยู่มาก
ณัฏฐ์ชักมือกลับ ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง สีหน้าก็กลับมาสงบนิ่ง สายตาที่มองลลิตาฉายแววระแวดระวัง
เขาดูถูกเธอเกินไปแล้ว ไม่แน่ว่าลลิตาอาจจะช่วยให้วัชรพลฟื้นขึ้นมาได้จริง ๆ
ถ้าอย่างนั้นแผนการที่เขาวางมาอย่างยากลำบากก็คงจะสูญเปล่าทั้งหมด
ลลิตายิ้มอย่างใจเย็น “อาคะ ฉันพูดถูกไหมคะ? ให้ฉันเดาหน่อยสิคะว่าก้าวต่อไปคุณคิดจะทำอะไร จะใส่ยาพิษลงไปในยาใช่รึเปล่า...”
ณัฏฐ์ทำหน้าเย็นชา “ลลิตา! ฉันเป็นอาของวัชรพล และก็เป็นอาของเธอด้วย”
“อีกอย่าง ทั้งหมดนี่เป็นแค่การคาดเดาของเธอ ใครสอนให้เธอคาดเดาเรื่องของผู้ใหญ่ในแง่ร้ายแบบนี้?”
เด็กสาวคนนี้เจ้าเล่ห์แสนกลจริง ๆ ถ้ายังปล่อยให้เธออยู่ที่นี่ต่อไป ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะสร้างปัญหาที่ใหญ่กว่านี้ให้เขาได้
คงต้องรีบไล่เธอไปให้เร็วที่สุด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม
“คาดเดาเหรอคะ?”
ลลิตากะพริบตาปริบ ๆ ทำหน้าตาไร้เดียงสา “อาคะ ฉันก็แค่เดาเล่น ๆ ทำไมต้องร้อนตัวขนาดนั้นด้วยล่ะคะ?”
“เสียงยังรีบร้อนขนาดนี้? หรือว่า...ฉันเดาถูกคะ?”
แววตาของณัฏฐ์ฉายแววอำมหิตขึ้นมาวูบหนึ่ง เขานั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขกที่อยู่ด้านข้าง กลั้นหายใจเฮือกหนึ่ง ไม่นานใบหน้าก็แดงก่ำ มือขวากระชากคอเสื้อจนกระดุมขาดกระเด็นไปทั่วพื้น ส่วนมือซ้ายก็ปัดขวดไวน์แดงจนหก กลิ่นไวน์ฟุ้งกระจายไปทั่วในทันที
เขากระชากมือของลลิตาที่อยู่ข้าง ๆ แล้วดึงเธอลงไปบนโซฟาพร้อมกับแสยะยิ้ม
“คุณจะทำอะไร?!”
ลลิตาสะบัดมือเขาออก แต่กลับถูกณัฏฐ์จับแขนไว้แน่น
“ลลิตา เธอลองบอกสิว่าถ้าทุกคนมาเห็นเธอในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย กำลังยั่วยวนอาที่เมาไม่ได้สติอยู่ในห้องรับแขก... เธอเดาสิว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยายังไง?”
ที่แท้ก็คิดจะใช้วิธีนี้เองเหรอ?
คิดจะใช้วิธีนี้ไล่เธอออกไปงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!
ลลิตาจี้ไปที่จุดสกัดบนตัวของณัฏฐ์อย่างรวดเร็ว เขาร้องโหยหวนออกมาทันทีราวกับถูกไฟฟ้าช็อต ลลิตาจึงฉวยโอกาสนั้นลุกขึ้นยืน
เธอจ้องณัฏฐ์แล้วยิ้ม “อาคะ ในชีวิตนี้ฉันเกลียดที่สุดเลยก็คือการถูกคนอื่นลวนลามนี่แหละค่ะ”
ลลิตาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลงมือจี้จุดสกัดต่าง ๆ บนร่างกายของณัฏฐ์อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เขานอนนิ่งอยู่บนโซฟาขยับตัวไม่ได้ในทันที แค่ขยับตัวเล็กน้อยก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรงไปทั้งตัว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นวิชาลับเฉพาะของหมอผี
เขาเบิกตากว้างมองลลิตา “เธอจะทำอะไร? เธอทำอะไรกับฉัน?”
“อาคะ ก็อาเมาแล้วไม่ใช่เหรอคะ? ลุกไม่ขึ้นก็เป็นเรื่องปกติ”
ลลิตาจัดท่าทางให้ณัฏฐ์ แล้วรีบถอยห่างออกมา เธอมองสำรวจณัฏฐ์ที่อยู่ในท่าทางลามกอนาจารตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
จากนั้นก็แกล้งทำเป็น “ไม่ระวัง” จนกระถางดอกไม้ตกแตก เสียงที่ดังแสบแก้วหูดังลั่นไปทั่วทั้งบ้านเก่า
พิสิษฐ์และอรุณีที่อยู่ชั้นบนได้ยินเสียงดังจึงรีบลุกออกมาดู ก็เห็นลลิตายืนอยู่ที่ห้องรับแขกตรงทางลงบันได เธอกำลังใช้มือปิดปาก เบิกตากว้าง มองไปยังณัฏฐ์ด้วยความตกใจสุดขีด
“เกิดอะไรขึ้น?”
ทั้งสองรีบถามลลิตา ลลิตายื่นนิ้วที่สั่นเทาออกไป ชี้ไปที่ณัฏฐ์ซึ่งอยู่ในห้องรับแขกในสภาพเสื้อผ้าเปิดอ้า
เขานอนอยู่บนโซฟาในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่เรียบร้อย มือยังวางอยู่ในตำแหน่งที่ไม่อาจบรรยายได้
เมื่อเห็นผู้สูงวัยทั้งสองทำท่าเหมือนฟ้าถล่มดินทลาย ลลิตาก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย สำหรับแผนการสกปรกพรรค์นั้นของณัฏฐ์ เธอเตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว
ณัฏฐ์คนนี้เป็นพวกบ้ากาม เมื่อใช้วิธีการสกปรกแบบนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ก็ย่อมมีครั้งที่สอง
พิสิษฐ์โทสะขึ้นมาทันที เขาเดินเข้าไปหาณัฏฐ์อย่างฉุนเฉียว แล้วจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเกรี้ยวกราด
