บทที่ 5 Chapter 5

เหมือนคำถามแทงใจดำ พีรภัทรหน้าตึงกระดกดื่มเหล้าในแก้วจนหมด แล้วเรียกให้บิรกรนำเครื่องดื่มแก้วใหม่มาให้

“ไม่อยากกลับ ไม่อยากเห็นหน้าใครบางคน” เขาตอบตามจริง พลอยพรรณยิ้มพอใจกับคำตอบ

“พี่พีทำอย่างนี้ พี่หมิวก็เป็นฝ่ายชนะสิคะ ชนะตามแผนที่วางไว้” พีรภัทรหันมามองหน้าคนพูด ที่สะดุดหู สะดุดใจจังเบอร์

“พลอยพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”

“พลอยก็ไม่อยากพูดหรอกค่ะ เพราะยังไงพี่หมิวก็เหมือนพี่สาวของพลอยคนหนึ่ง แม้ว่าจะพี่หมิวจะเป็นลูกที่เก็บมาเลี้ยงก็ตาม แต่มันก็อดพูดไม่ได้ นับวันพี่หมิวยิ่งร้ายกาจขึ้นทุกวัน พลอยกลัวว่าความร้ายของพี่หมิวจะทำให้บ้านพี่พีเดือดร้อนก็เลยต้องเตือนให้รู้ธาตุแท้ของพี่หมิวค่ะ”

พลอยพรรณแสร้งทำตัวเป็นนางฟ้าแต่แท้จริงแล้ว เธอคือนางมารร้ายดีๆ นี่เอง

“เรื่องมันเป็นยังไง พลอยบอกพี่มาเถอะ พี่อยากรู้”

พลอยพรรณพูดมาซะขนาดนี้ ถ้าเขาไม่อยากรู้เรื่องราวก็คงไม่ได้ ต่อมอยากรู้ทำงานเต็มที่ พลอยพรรณถอนหายใจพรืดยาวออกมา ราวกับว่าระบายความกลัดกลุ้ม

“พี่พีก็รู้ใช่ไหมคะว่า พี่หมิวอิจฉาพลอยมาตั้งแต่เด็ก ชอบแย่งของเล่น แย่งเสื้อผ้า แย่งทุกอย่างที่พี่หมิวอยากได้” พลอยพรรณเท้าความ

พีรภัทรนึกย้อนไปในวัยเด็ก หลายต่อครั้งหลายหนที่เขาเห็นพรนับพันแย่งชิงของต่างๆ ของพลอยพรรณที่วิ่งร้องไห้จ้าไปฟ้องบุพการี บางเหตุการณ์ก็วิ่งมาหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ และบางครั้งก็เห็นพรนับพันแกล้งพลอยพรรณด้วยการขยี้เส้นผมที่ถูกถักเปียอย่างสวยงาม แย่งของเล่นบ้าง หรือไม่ก็เอารองเท้าเขวี้ยงข้ามกำแพง ความเกเรและนิสัยที่ไม่น่ารักของพรนับพัน ส่งผลให้พีรภัทรกับครอบครัวที่รู้เห็นเรื่องนี้ไม่ชอบพรนับพัน เด็กเก็บมาเลี้ยงที่ไม่นึกถึงบุญคุณ

“พี่จำได้ หลายครั้งที่พลอยวิ่งร้องไห้มาหาพี่”

“งานแต่งงานที่ระบุตามพินัยกรรมคุณปู่พี่พีที่ว่า ให้พี่แต่งงานกับทายาทคุณปู่ศักดิ์ซึ่งน่าจะเป็นพลอย แต่พี่หมิวอยากเป็นสะใภ้ใหญ่บ้านพิพัฒน์พงศ์สกุลก็เลยขอให้คุณย่าเปลี่ยนตัวค่ะ ให้พี่หมิวแต่งงานกับพี่พีแทนพลอย ตอนแรกคุณย่าไม่ยอมกลัวว่าทางพี่พีจะโกรธที่ให้คนที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณปู่แต่งงานกับพี่พีตามพินัยกรรม แต่ทนลูกตื้อของพี่หมิวไม่ไหว พี่หมิวบอกว่าอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ได้เป็นสะใภ้คนรวย อยากสบายมีเงินใช้ แล้วที่สำคัญการที่คุณพ่อรับพี่หมิวเป็นลูกบุญธรรมก็หมายความว่า เป็นทายาทคนหนึ่ง การที่แต่งงานกับพี่พีก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง พูดมาแบบนี้คุณย่าก็เลยยอม และอีกเหตุผลหนึ่งคือ คุณย่ารักพี่หมิวมากค่ะ รักมากจนลืมคิดไปว่ากำลังทำร้ายพี่พี” พลอยพรรณใส่สีตีไข่เต็มที่ คนฟังอยู่หน้าเข้มขึ้น พีรภัทรไม่คิดว่า พรนับพันจะร้ายกาจเช่นนี้ “แล้วเรื่องสินสอดทองหมั้นพี่หมิวก็เป็นคนบอกคุณย่าเองว่าให้เรียกเท่านั้น แบบว่าพอเป็นพิธีไงคะ พลอยจะบอกความลับอีกอย่างหนึ่งคือ คุณย่าให้เงินเป็นของขวัญวันแต่งงานพี่หมิวห้าล้านค่ะ งานนี้พี่หมิวมีแต่ได้กับได้นะคะ การที่พี่พีหนีไปอยู่คอนโดก็เหมือนกับคนแพ้ ส่วนพี่หมิวก็ชนะได้เป็นเมียพี่พี คอเชิดไปอีก”

เรื่องที่พลอยพรรณเล่ามา สวนกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง

“พี่ไม่อยากเชื่อเลยว่า หมิวจะร้ายอย่างนี้”

“ก็ใช่ไงคะ พลอยถึงได้บอกพี่พีเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้พี่พีต้องตกอยู่ในความทุกข์ ต้องแต่งงานกับพี่หมิว แทนที่เราสองคนจะได้แต่งงานกัน” พลอยพรรณทำหน้าเศร้าราวกับว่าเสียใจหนักหนา คู่สนทนาวางมือลงบนมือของเธอแล้วบีบเบาๆ

“ในเมื่อหมิวร้ายอย่างนี้ พี่จะทำให้หมิวรู้เองว่า เป็นเมียพี่ไม่ง่าย หมิวจะได้รับแต่ความทุกข์เท่านั้น” พลอยพรรณลอบยิ้มในใจ ที่สามารถปั่นหัวพีรภัทรได้สำเร็จ

“อย่าใจร้ายกับพี่หมิวมากนะคะ ยังไงพี่หมิวก็เป็นพี่สาวของพลอย แค่พลอยมาบอกเรื่องนี้กับพี่พีก็รู้สึกผิดต่อพี่หมิวมากแล้วค่ะ” เธอตีหน้าซื่อ “ตลอดระยะเวลาที่พี่หมิวอยู่บ้านพลอย พี่หมิวร้ายมาตลอดค่ะ คนในบ้านไม่พูดเพราะรักพี่หมิว พลอยเลยไม่อยากให้พี่หมิวไปร้ายกับคนในบ้านพี่พี ขอแค่พี่พีกำหลาบพี่หมิวก็พอค่ะ”

“พลอยไม่ต้องห่วง พี่จะสั่งสอนหมิวแทนครอบครัวพลอยเอง” พลอยพรรณขยับตัวเข้ามาใกล้ร่างหนามากขึ้นจนแขนของทั้งสู่เบียดชิดกัน ก่อนที่พลอยพรรณจะกราบลงบนอกของพีรภัทร

“ขอบคุณมากค่ะพี่พี” พูดจบก็อิงซบอกกว้างของเขา พีรภัทรยิ้มโอบบ่าพลอยพรรณที่หยิบแก้วเครื่องดื่มส่งให้เขา “ให้พลอยนั่งเป็นเพื่อนพี่พีนะคะ”

“ด้วยความยินดีครับ” พีรภัทรกับพลอยพรรณนั่งดื่ม นั่งคุยกันเฉกเช่นคู่รักไม่มีผิด พีรภัทรหลงลืมความทุกข์และความเซ็งไปชั่วขณะ และในสมองก็คิดหาวิธีจัดการพรนับพัน ให้รู้ซึ้งว่า เป็นภรรยาที่ไม่ต้องการจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป