บทที่ 6 ตอนที่6
ตอนที่6
"เฮ้อ...." เสียงถอนหายใจออกมายาวๆ ถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของลินิน ในตอนที่เธอพลิกตัวไปมาอยู่บนที่นอนนุ่ม หลังจากที่เข้านอนตั้งแต่ช่วงสามทุ่มจนตอนนี้ห้าทุ่มครึ่งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลับ
"ลินินเธอจะทำยังไงดี" พูดพึมพำกับตัวเองเบาๆพลิกตัวนอนตะแคงดึงหมอนข้างเอามากอดแนบชิด สมองก็พลันคิดแต่เรื่องของผู้เป็นแม่อย่างโฉมฉายที่ทำให้หนักใจอยู่ณ.ตอนนี้
ก็ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อช่วงสายผู้เป็นแม่ก็ดูจะเครียดหนักเอาแต่เหม่อลอย จนทำให้เธอและพิพัฒน์ต้องผลัดกันเข้าไปพูดคุย ทานอาหารได้ก็น้อยมาก และที่สำคัญเมื่อช่วงค่ำก็เอ่ยปากอยากกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด
ตัวเธอเองก็ไม่อยากขัดผู้เป็นเลยสักนิดเพราะเธอก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่เหมือนกัน
ทว่ามันก็ติดปัญหาใหญ่อยู่อย่างหนึ่งก็คืออีกสองอาทิตย์ข้างหน้าผู้เป็นแม่จะต้องเข้ารับการรักษาแบบจริงจัง การที่จะพาผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายแถมยังต้องให้คีโมไปกลับกรุงเทพฯต่างจังหวัดบ่อยๆมันคงจะไม่ดีนักหรอก
"ให้ตายสิ! นินจะทำยังไงกับคุณดีคะ...คุณใหญ่" ลินินพูดด้วยความอึดอัดใจ เธอยันตัวลุกขึ้นนั่งเหวี่ยงสองขาเรียวเล็กทั้งสองข้างลงจากเตียงนอน
ถอนหายใจออกมาหนักๆ เธอพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้สิงหราชใจดีกับแม่เธอบ้าง แต่มันก็ดูจะมืดมนไร้หนทางเสียเหลือเกิน เพราะเขาดูใจร้ายใจดำซะขนาดนั้น
"ต้องทำยังไงดีหรือต้องไปคุยให้รู้เรื่อง" คิดได้ดังนั้นก็ยันตัวลุกขึ้นยืนในทันที ถึงจะแอบกลัวแอบโกรธแอบเกลียดสิงหราชมาก
เพราะเขาก็คือคนใจร้ายคนหนึ่งแถมยังทำเรื่องเลวร้ายกับเธอไว้ ตั้งแต่คืนแรกที่เธอเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ ไหนจะช่วงสายของวันนี้อีก
แต่จะให้เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆแบบนี้โดยที่ไม่ทำอะไรเลย เธอก็ทำไม่ได้เหมือนกัน
"ไม่ไหวแล้วต้องไปคุยให้รู้เรื่อง" ทนกับความอึดอัดที่อยู่ในใจไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ร่างเล็กเขยื้อนตัวก้าวเท้าเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าประตู
ทว่าจู่ๆภาพที่สิงหราชทำกับเธอในคืนนั้นก็ผุดขึ้นมาในสมอง ใบหน้าจิ้มลิ้มก้มมองชุดนอนสายเดี่ยวสีชมพูหวานแหววตัวยาวที่ตัวเองสวมใส่ ก่อนจะชะงักนิ่งอย่างใช้ความคิด
"เปลี่ยนชุดก่อนดีกว่า" คิดได้ดังนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดในการไปคุยกับสิงหราชมาไว้ในมือ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
"อย่ากลัวสิ" ลินินเอ่ยบอกกับตัวเอง ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความประหม่า
เธอมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องของสิงหราชนานหลายนาที แต่ก็ไม่กล้าเคาะประตูห้องเขาเสียที รู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ เพราะนี่จะเป็นการเข้าห้องผู้ชายครั้งแรกในชีวิตเธอ
"เพื่อแม่ลินิน เพื่อแม่โฉมของเธอ" เอ่ยออกมาอีกครั้งพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปในปอด รวบรวมความกล้ายื่นมือไปเคาะประตูห้องส่วนตัวของสิงหราชติดๆกันถึงสามครั้ง ก่อนที่จะชักมือกลับรอให้อีกฝ่ายมาเปิดประตู
"นานเกินไปไหม?" เอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัย ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงคอมองประตู
หนึ่งนาทีเห็นจะได้หลังจากที่เคาะประตูไปแล้ว แต่ไม่มีวี่แววว่าสิงหราชจะมาเปิดประตูเลยสักนิด จะว่าเขานอนหลับแล้วก็ไม่ใช่เพราะยังเห็นแสงไฟเล็ดลอดออกมาให้เห็น
ถ้าจะให้เคาะประตูห้องเขาอีกก็กลัวว่าคนในบ้านจะรู้ว่าเธอมาหาเขาดึกๆดื่นๆคงไม่ดีแน่ถ้าเป็นแบบนั้น
"เฮ้อ...เอาไว้ค่อยคุยก็แล้วกัน" พูดจบก็หมุนตัวเตรียมจะเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง แต่จู่ๆความคิดบางอย่างก็เกิดขึ้น มือเรียวเล็กยื่นมือไปคว้าลูกบิดประตูห้องในทันที
"หืม...ไม่ได้ล็อคห้องจริงๆด้วย" พูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะผลักประตูก้าวเท้าเข้าไปในห้องของสิงหราชในทันที
เมื่อก้าวเข้ามาในห้องของเขาแล้วก็ต้องพบกับความแปลกประหลาดใจ เพราะเธอไม่เห็นเจ้าของห้องเลยสักนิด เห็นเพียงแค่แก้วไวน์ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงกับแฟ้มเอกสารจำนวนมาก
"ไม่ได้อยู่ในห้องเหรอ" เอ่ยพึมพำเบาๆเมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงปลายเตียง ดวงตากลมโตเบิกกว้างกรอกตาไปมา โดยไม่รู้เลยว่ามีร่างใหญ่ของสิงหราชยืนแสยะยิ้มร้ายกาจอยู่ด้านหลัง
"ติดใจฉันขนาดเข้ามาหาฉันเองถึงห้องเลยเหรอ...?" พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน และนั่นก็ทำให้ลินินสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
เธอหมุนตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากับสิงหราชในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำดูถูก ใบหน้าจิ้มลิ้มเต็มไปด้วยความโกรธ มือเล็กๆทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น
"พูดบ้าอะไรของคุณคะคุณใหญ่" ลินินเอ่ยด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ
"หรือไม่จริง?"
"ไม่จริงค่ะ" ลินินเถียงทันควัน ทีแรกว่าจะใจเย็นคุยกับสิงหราชแบบดีๆ แต่พอเจอคำพูดดูถูกความใจเย็นก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ "เป็นถึงประธานบริษัทใหญ่โต ทำไมในสมองถึงมีแต่ความคิดร้ายกาจ ชั่วร้ายที่สุด"
"ปากดีนักนะ" สิงหราชแค่นเสียงออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งไปที่ลินินด้วยความโกรธจัด ก่อนที่จะกระตุกยิ้มมุมปาก เมื่อสมองอันชาญฉลาดคิดวิธีจัดการกับคนตรงหน้า
พรึ่บ!
ฝ่ามือใหญ่ผลักร่างเล็กที่อยู่ตรงหน้าให้ล้มลงไปกับที่นอนอย่างแรง ใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นเหยเกไปด้วยความเจ็บก่อนที่ร่างใหญ่จะตามขึ้นไปคร่อมในทันที สิงหราชกดข้อมือเล็กๆตึงไว้กับที่นอนทั้งสองข้าง
"โอ๊ย!...เจ็บ นินเจ็บนะคะคุณใหญ่" ลินินร้องออกมาเสียงหลง ใบหน้าเหยเกไปด้วยความเจ็บ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความโกรธ
เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ถ้ายืนเทียบกับสิงหราชแล้วเธอมีความสูงแค่อกเขาเท่านั้น ถึงเธอจะตัวเล็กนิดเดียวแต่สิงหราชก็ไม่เคยปราณีเธอเลยสักครั้ง
เขารุนแรงและป่าเถื่อนเหมือนกับตอนนี้ที่เขาใช้ฝ่ามือใหญ่ล็อคข้อมือของเธอทั้งสองข้าง และกดลงไปกับที่นอนเต็มแรง
ข้อมือของเธอที่มันแดงช้ำทั้งสองข้างจากการกระทำของเขาเมื่อวันที่ผ่านมามันคงจะแดงช้ำหนักกว่าเดิม
"ปล่อยนินเถอะนะคะ...นินเจ็บ" เอ่ยด้วยน้ำเสียงขอร้อง น้ำตาสีใสเอ่อคลอออกมาจากในดวงตาสวย
"ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันไม่ใช่คนใจดี"
"แต่นินไม่ได้ตั้งจะ...อืม" คำพูดที่กำลังจะเปล่งออกมากลับต้องกลืนลงไปในลำคอในที่สุด
เมื่อสิงหราชโน้มหน้าลงใช้ริมฝีปากหยักประกบจูบไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มของลินินอย่างรุนแรงและป่าเถื่อน ทำเอาลินินดิ้นพล่านไปด้วยความเจ็บ
ริมฝีปากหยักได้รูปขบเม้มดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ก่อนที่จะดันลิ้นหนาเข้าไปในโพรงปากหอมหวาน เกี่ยวตวัดดูดดึงปลายลิ้นเรียวเล็กอย่างมูมมาม โดยที่ลินินก็ยังคงต่อต้านเขาเป็นระยะ
สิงหราชจูบลินินอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายนาที เล่นเอาใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นแดงหายใจติดขัด จนเขาต้องถอนจูบออกในที่สุด ซึ่งนั่นก็ทำให้ลินินกอบโกยอากาศเข้าไปในปอดจนร่างเล็กสั่นสะท้าน
"ออกไปจากห้องของฉันซะ" เอ่ยบอกคนใต้ล่างด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ไม่ได้เกรี้ยวกราดเหมือนกับตอนแรก
ผละตัวออกจากร่างเล็กก้าวเท้าลงจากที่นอนนุ่มเดินไปที่หัวเตียง หยิบไวน์ในแก้วยกขึ้นมาดื่มอย่างช้าๆทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แตกต่างจากลินินที่มองตามสิงหราชไปตลอด มือเล็กยกขึ้นมาเช็ดน้ำลายที่เปรอะเปื้อนตามขอบปากอย่างนึกรังเกียจ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่งก้าวเท้าลงจากเตียงในทันที
".........." ฝ่ามือเรียวเล็กทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่นพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง ยังไงวันนี้เธอก็ต้องคุยกับสิงหราชให้รู้เรื่อง ถึงแม้อยากจะเข้าไปทุบเขาระบายความโกรธที่เขารังแกเธอก่อนหน้านี้
"..........." สิงหราชเลิกคิ้วมองลินินอย่างแปลกใจ นอกจากคนตัวเล็กจะไม่เดินออกไปจากห้องแล้ว ยังพยายามระงับอารมณ์โกรธก้าวเท้าเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
"ทำบ้าอะไรของเธอ?" สิงหราชถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ เมื่อลินินทิ้งตัวคุกเข่าลงไปกับพื้นช้อนตาขึ้นมามองเขา และนั่นก็ทำให้เขาชะงักเมื่อเห็นข้อมือทั้งสองข้างที่แดงช้ำ
"แม่นินไม่สบาย" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อน
"แล้วยังไงมันเกี่ยวอะไรกับฉัน"
"ใจดีกับแม่นินหน่อยไม่ได้เหรอคะ ไม่ต้องทำดีกับแม่นินมากก็ได้ แค่พูดกับแม่นินดีๆก็พอ"
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น ฉันไม่เห็นประโยชน์จากการทำแบบนั้นเลยสักนิด ทำไมฉันต้องทำอะไรที่ฝืนใจตัวเองขนาดนั้นด้วย ในเมื่อฉันก็อยากให้เธอกับแม่ของเธอออกจากบ้านของฉัน"
"ทำไมถึงได้ใจร้ายใจดำขนาดนี้คะ...คุณใหญ่?"
"ฉันก็ไม่เคยพูดว่าตัวเองใจดี"
"............" ลินินยันตัวลุกขึ้นยืนทันที เมื่อรู้ว่าการคุกเข่าขอร้องคนตรงหน้าไม่มีประโยชน์เลยสักนิด
ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าคมคายของสิงหราช แววตาของเธอมันเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ก็ทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้ "ดูเหมือนว่านินจะคิดผิดที่เข้ามาขอร้องคนใจดำอย่างคุณ"
"..........." สิงหราชไม่ได้พูดอะไรเขามองลินินนิ่งๆใบหน้าหล่อคมคายไร้ความรู้สึก ไม่ได้สงสารหรือเห็นใจคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
"..........." ลินินกำหมัดแน่นมองสิงหราชอยู่อีกเพียงครู่ก็หมุนตัวหันหลังให้กับเขา ก้าวเท้าเตรียมจะเดินออกจากห้อง ทว่าก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงเข้มดังขึ้น
"นอนกับฉัน" สิงหราชพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนจะยกไวน์ขึ้นมาดื่ม
"คะ" คิ้วสวยขมวดเข้าหากันหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับสิงหราช เอ่ยออกมาด้วยความไม่เข้าใจ "เมื่อกี้คุณใหญ่พูดว่าอะไรนะคะ?"
"นอนกับฉัน...แล้วฉันจะทำตามที่เธอขอ" พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าหล่อคมคายไร้ความรู้สึกใดๆ
"เลวที่สุด นินไม่คิดว่าคุณใหญ่จะเลวได้ถึงขนาดนี้ นินไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นนะ" พูดออกมาด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้กับสิงหราช เปล่าประโยชน์ที่จะพูดคุยกับคนใจร้ายใจดำคนนี้
"แค่นอนกับฉันมันจะไปยากอะไร ไหนบอกว่ารักแม่เธอนักหนา เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไม่ได้"
"........." ลินินไม่ได้พูดอะไรมือเล็กทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาด้วยความโกรธแค้น
"แค่นอนกับฉันตามที่ฉันต้องการ แม่เธอจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ฉันจะทำดีกับแม่เธอเท่าที่ฉันพอจะทำให้ได้"
".........." มือเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มอมชมพู ก่อนจะหันกลับมาหาสิงหราชอีกครั้ง "ต่อให้นินต้องตาย นินก็ไม่ยอมนอนกับคนสารเลวอย่างคุณใหญ่หรอกค่ะ"
"หึ...แล้วจะคอยดูว่าเธอจะยอมนอนกับผู้ชายสารเลวอย่างฉันหรือเปล่า?" สิงหราชก้าวขายาวๆของตัวเองไปประจันหน้ากับลินิน เยียดยิ้มเย้ยหยันยื่นมือไปเชยคางของเล็กๆให้เงยหน้ามาสบตา "เตรียมรับมือกับฉันไว้ให้ดีๆล่ะ เพราะฉันนี่แหละจะทำให้เธอต้องคลานเข้ามาอ้อนวอนขอร้องที่จะนอนกับฉันจนได้"
"ไม่มีวัน"
"หึ...ฉันจะคอยดู"
@เช้าของอีกวัน
"ค่อยๆเดินนะคะแม่" ลินินเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ เข้าไปประคองโฉมฉายเพื่อที่จะพากันไปนั่งเล่นตรงสวนกุหลาบหน้าคฤหาสน์ โดยมีพิพัฒน์เดินตามหลังมาอีกที
ทว่าจังหวะเดียวกันนั้นน้อยรวมถึงแม่บ้านอีกสองคนก็ยกกระเป๋าเสื้อผ้า พร้อมกับแฟ้มเอกสารสี่ห้าแฟ้มลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์ ซึ่งลินินจำได้ดีว่าแฟ้มเอกสารนั้นเป็นของใคร เพราะเธอเห็นผ่านๆตามาเมื่อคืน
"น้อยจ๊ะ กระเป๋าเสื้อผ้าสองใบนั้นของใครเหรอจ๊ะ?" โฉมฉายเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"เอ่อ...ของคุณใหญ่ค่ะคุณโฉม คุณใหญ่บอกว่าจะย้ายไปอยู่คอนโดค่ะ ก็เลยให้พวกน้อยไปเก็บของให้ นี่ก็เพิ่งเสร็จค่ะ ยังไงน้อยขอเอากระเป๋าคุณใหญ่ไปเก็บที่รถก่อนนะคะ กลัวโดนดุค่ะ"
"........." โฉมฉายไม่ได้พูดอะไรนอกจากพยักหน้า ซึ่งน้อยกับแม่บ้านอีกสองคนก็พากันเดินผ่านไปในทันที โฉมฉายจึงหันหน้าไปมองพิพัฒน์
"โฉมว่า...โฉมกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดดีกว่านะคะ คุณใหญ่จะได้ไม่ต้องย้ายออกไปจากบ้านเพราะโฉมแบบนี้" เอ่ยด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่เศร้า ในใจก็คิดว่าเป็นเพราะตัวเองสิงหราชเลยย้ายไปอยู่คอนโด
"อย่าคิดมากนะโฉม หมอบอกว่าไม่ให้คุณเครียดนะ จำไม่ได้หรือไง" พิพัฒน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"แต่...."
"ช่วงนี้ตาใหญ่งานยุ่ง คงต้องเคลียร์งานดึกๆ นอนคอนโดน่าจะสะดวกกว่า ใกล้กับที่ทำงาน คุณเองก็ไม่อยากให้ตาใหญ่ขับรถไปกลับดึกไม่ใช่หรือไง"
"ค่ะ...ใช่ค่ะ" โฉมฉายตอบ แต่ใบหน้าไม่ได้คลายความตึงเครียดลงเลย รู้ดีว่าพิพัฒน์พูดให้เธอนั้นคลายกังวล
"ไม่เอาน่าโฉม เลิกเครียดได้แล้ว มาผมพาไปดูกุหลาบดีกว่า" จบคำพูดพิพัฒน์ก็เข้าไปประคองโฉมฉายแทนลินิน ก่อนที่จะประคองพาเดินออกไป
ซึ่งลินินยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ สมองกำลังคิดประมวลผลอย่างหนัก ไม่รู้ว่าการไปอยู่คอนโดของสิงหราชในวันนี้ มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่เขาบอกกับเธอไว้หรือเปล่า
"คุณใหญ่ขา...คุณใหญ่จะไปอยู่คอนโดจริงๆเหรอคะ ลี่ไม่อยากให้คุณใหญ่ไปเลย คุณใหญ่ไปแบบนี้ลี่ต้องคิดถึงคุณใหญ่มากแน่ๆ" เสียงเล็กแหลมที่เต็มไปด้วยความออดอ้อนของลี่หรือสาลี่ดังขึ้น นั่นทำให้ลินินหันไปมองอย่างเลี่ยงไม่ได้
และนั้นก็พบกับร่างใหญ่ของสิงหราชที่ใบหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก ก้าวเท้าลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์ โดยมีสาลี่สาวใช้สุดเซ็กซี่หุ่นสะบึมเดินเคียงข้าง
"ให้ลี่ไปอยู่ด้วยดีไหมคะ ลี่สัญญาว่าจะปรนนิบัติคุณใหญ่ให้ดีที่สุดเลยค่ะ" สาลี่ก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"ไม่จำเป็น อยู่ทำงานบ้านที่นี่แหละ ฉันชอบความเป็นส่วนตัว" สิงหราชพูดด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเรียบนิ่ง ก้าวเท้าลงจากบันไดมาเรื่อยๆ โดยไม่สนใจใบหน้าของสาลี่ที่กำลังทำหน้าไม่พอใจเลยสักนิด
ก่อนที่จะมาหยุดชะงักเมื่อเห็นลินินกำลังมองเขากับสาลี่อยู่ ปากหนากระตุกยิ้มมุมปากร้ายกาจ ก้าวขายาวๆไปหยุดยืนประจัญหน้ากับลินินในทันทีในระยะประชิด
"มีอะไรคะ?...อืม!" ลินินถามด้วยความไม่เข้าใจเพราะสิงหราชเอาแต่ยืนจ้องหน้าเธอในระยะประชิด ก่อนที่เธอจะตกใจดวงตากลมโตเบิกกว้าง
เมื่อสิงหราชยื่นมือสอดเข้ามาใต้ท้ายทอยบังคับให้เธอเงยหน้า ก่อนจะประกบจูบอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหยักบดจูบกับริมฝีปากอวบอิ่มอยู่เพียงครู่ ก็ผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง
ก่อนจะแสยะยิ้มร้ายกาจมองไปทางสาลี่ ซึ่งลินินก็มองตาม และนั่นก็ทำให้เธอรู้เท่าทันความคิดของสิงหราชคนใจร้าย เขาต้องการให้สาลี่เกลียดเธอ
แล้วมันก็ได้ผลเพราะตอนนี้สาลี่กำลังมองเธอด้วยความโกรธแค้นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"คุณนี่มันเลวจริงๆ"
"ฉันจะถือว่ามันเป็นคำชม" พูดจบก็แสยะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเดินออกไปในทันที ทิ้งให้ลินินจมอยู่กับความโกรธเกลียดกำหมัดแน่นยืนอยู่กับที่
