บทที่ 1 บทที่ 1

สาวน้อยหน้าหวานที่อยู่ในชุดกระโปรงรัดติ้วไปทุกสัดส่วนสีแดงเพลิงสุดร้อนแรง กำลังนั่งก้มหน้าที่ถูกแต่งจนเข้มด้วยฝีมือของหญิงร่วมอาชีพเดียวกัน มธุรส พงศ์ศักดา หรือน้ำผึ้ง สาวน้อยที่มีชื่อหวานสมกับใบหน้า กำลังตรองไม่ตกกับอาชีพใหม่ที่ถูกยัดเยียดให้จากแม่เลี้ยงสาว บิดาของเธอเพิ่งจะจากไปเมื่อไม่นานหลังจากที่มารดาบังเกิดเกล้าก็ทอดทิ้งเธอให้อยู่กับบิดาเรื่อยมา มธุรสในวันนี้มีอายุ 20 ปีเต็ม เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอ แต่แทนที่สาวน้อยจะมีความสุขเหมือนคนอื่นๆ กลับต้องมานั่งน้ำตาตกในอยู่แบบนี้แทน

“น้ำผึ้ง แกจะคิดอะไรมากวะ ชีวิตพวกเรามันเลือกไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็อด หรือแกอยากจะกลับไปให้นังแม่เลี้ยงโขกสับ ดุด่าและจิกหัวใช้งานหนักๆ เหมือนเดิม วันดีคืนดียังโดนตบโดนตีซะอีก อีกอย่างนะดีไม่ดีผัวใหม่มันจะรวบหัวรวบหางแกซะด้วยซ้ำ” มณีรัตน์ หรือเม่นบอกอย่างรู้เรื่องของสาวน้อยดี เพราะบ้านอยู่ติดกัน

“แต่ว่า...น้ำผึ้งกลัวน่ะเม่น” มธุรสบอกเสียงสั่นอย่างน่าสงสาร

“น้ำผึ้ง ฉันเข้าใจแกนะ แต่แกอย่าลืมสิว่านังแม่เลี้ยงใจยักษ์ของแก มันรู้จักกับเจ้าของผับนี้ด้วย ถ้าแกไม่ทำงาน มันเล่นงานแกแน่ นอกจากว่าแกจะหนีไป เฮ้อ...แต่ก็นั่นแหละ เงินก็ไม่มีติดตัวจะหนีไปไหนรอด แกก็ต้องสู้กับงานนี้สักตั้ง เสียตัวครั้งเดียว แกก็มีเงินพอจะหนีไปจากนังแม่เลี้ยงได้แล้วนะ”

“เม่น...”

“เชื่อฉันนะน้ำผึ้ง ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้แกทำงานแบบนี้ แต่แกไม่มีทางเลือก ไอ้ฉันเองจะให้เงินแกหนีไป ฉันก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย เพราะเพิ่งจะเริ่มทำงานนี้เหมือนกัน แต่ถ้าแกไปถูกใจเสี่ยคนใดคนหนึ่งเข้า แกก็จะสบายเลยนะ ยิ่งสาวสวยสดๆ ซิงๆ อย่างแก พวกเสี่ยตัณหากลับมันยิ่งชอบ แกจะได้ไม่ต้องไปเปลืองตัวให้คนอื่นอีกไงล่ะ”

มธุรสทอดถอนใจออกมายืดยาว ก่อนจะลุกขึ้นยืน ไม่ใช่ว่าเธอจะคล้อยตามมณีรัตน์ แต่เป็นเพราะเธอไม่มีทางเลือกต่างหาก และครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวที่เธอจะตัดสินใจทำงานนี้ จากนี้เธอจะต้องหนีไปให้ได้ ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าทนอยู่แบบนี้

“ตกลงเม่น ครั้งนี้ครั้งแรกและจะเป็นครั้งเดียวของน้ำผึ้ง”

มณีรัตน์พยักหน้าให้ และส่งยิ้มน้อยๆ เป็นกำลังใจให้มธุรส ก่อนที่ทั้งสองจะเดินจูงมือกันไปยังห้องที่พวกเธอจะต้องเข้าไปนั่งเรียกแขก

ร่างสูงสง่าของชายหนุ่มรูปงาม เครื่องหน้าทุกชิ้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ใช่คนไทยแน่นอน ผู้เป็นเจ้าของใบหน้าคมคาย ดวงตาสีฟ้าคู่คมกริบ ขนตายาวหนาเป็นแพแต่ไม่งอนงามเหมือนอิสตรี จมูกโด่งขึ้นสันสวย ปลายคางบึกบึนผ่าเล็กน้อย ประดับด้วยไรเคราที่เริ่มขึ้นเขียว ราฟาเอล โปราซซีนี่ มาเฟียหนุ่มแห่งเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เจ้าของธุรกิจการฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในฟลอเรนซ์และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมกับบอดี้การ์ดอีก 6 คน เดินเข้ามาในผับลาลาซ่า

ทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามา ทุกคนที่อยู่ในผับต่างก็หันไปให้ความสนใจ เพราะไม่ค่อยเห็นผู้ชายใส่สูทแต่งตัวเต็มยศเข้ามาเที่ยวผับแบบนี้พร้อมกัน 7 คน

“สวัสดีครับท่าน ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ ผับลาลาซ่ามีบริการครบวงจรนะครับ” ผู้จัดการหนุ่มที่พอจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง ตรงเข้ามาถามทันทีที่ราฟาเอลนั่ง ส่วนบอดี้การ์ดอีก 6 คน เลือกที่จะนั่งบนโซฟาชุดติดกันกับเจ้านาย

“ที่ว่าครบวงจรน่ะ มีอะไรบ้างล่ะ” ราฟาเอลถามเป็นภาษาไทยแปร่งๆ เขาพูดได้ 5 ภาษา และหนึ่งในนั้นก็คือภาษาไทยนั่นเอง

“ก็มีอาหาร เครื่องดื่ม ผู้หญิงพร้อมสถานที่ครับ”

“ผู้หญิงเหรอ ดีเลยฉันกำลังต้องการอยู่พอดี แต่ขอสวยๆ ที่บริการถึงใจหน่อยแล้วกันนะ” ราฟาเอล บอก

“ได้เลยครับท่าน แต่...ท่านจะเข้าไปเลือกเองก็ได้นะครับ เพื่อจะได้ถูกใจท่านที่สุด”

“เลือกได้ด้วยเหรอ ดีจริง เอาสิ...” แล้วราฟาเอลก็เดินตามผู้จัดการร้านเข้าไปด้านใน

ชายหนุ่มมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าห้องกระจก ซึ่งทำที่นั่งเป็นชั้นๆ เหมือนอรรถจรรย์ ในนั้นมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาแต่งตัวยั่วยวน และกำลังส่งสายตาเชิญชวนมาที่เขาเกือบทุกคน ยกเว้น...ผู้หญิงในชุดสีแดงเพลิงที่เพียงแต่ตวัดสายตาขึ้นมองเขาชั่วแวบเดียว แล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเอง ราวกับว่ามือของเธอมีนิ้วงอกขึ้นมาอีกนิ้วอย่างงั้นแหละ

ราฟาเอลกวาดตามองร่างบางในชุดสีแดงเพลิงอย่างสนใจ ชุดที่เธอคนนั้นสวมมันช่างน่ารัดรึงยั่วยวนให้เขาเป็นผู้ถอดเสียนี่กระไร ผิวของเธอขาวผ่องตัดกับสีแดงนั้นอย่างงดงาม ราฟาเอลมองเธออยู่นานด้วยความลุ่มหลง แม้หญิงสาวจะไม่ได้ส่งสายตายั่วยวนเชิญชวนเหมือนคนอื่น แต่เขาคิดว่าสาวน้อยคนนั้นคงจะร้อนแรงเหมือนชุดที่ใส่แน่ๆ

“ฉันเอาผู้หญิงชุดสีแดงเพลิงคนนั้น” ราฟาเอลบอก และชี้นิ้วไปทางสาวน้อยชุดแดงที่นั่งก้มหน้าก้มตาอย่างไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง

“ได้ครับท่าน แล้วท่านจะใช้บริการสถานที่ของเรามั้ยครับ”

“อืม...ฉันอยากได้ห้องที่มีเตียงน้ำ และมีกระจกล้อมรอบ รวมทั้งบนเพดานด้วยมีมั้ย”

บทถัดไป