บทที่ 4 จิวซิน

จิวซินรู้สึกเห็นใจชงไฉ่เพราะเคยเห็นมาเยอะแล้วเรื่องการแย่งชิงกันเป็นที่โปรดปรานเหมือนที่บรรดาสนมของท่านพ่อของนางเป็นอยู่

สาวใช้ยกสุรารสเลิศมาวางบนโต๊ะกลางห้องทั้งสามนั่งล้มวง

จิ่นฉิน มองจิวซินตาไม่กะพริบเป็นห่วงแต่ไม่อาจเอ่ยคำใด ฮุ่ยโม๋รินสุราลงบนถ้วยทั้งสามใบ ยกขึ้นเบื้องหน้า

“สุราจอกนี้ข้าดื่มให้ท่านองค์ชายใหญ่จิ่นเกอ หมดจอก น้องสิบสองเจ้าด้วย” ชงไฉ่ยกสุราขึ้นจ่อริมฝีปากก่อนจะกระดกรวดเดียว จิวซินเองไม่อาจปฏิเสธกระดกรวดเดียวเช่นกันสุรารสขมบาดลึกลงไปในลำคอจนต้องทำหน้าเหยเกไอติดๆ กันสองสามที จิ่นฉินถลามาถึงตัวยกถ้วยน้ำเปล่าให้จิวซินรับมาดื่มตามเข้าไป

“555 สุราของไห่ตงหยวนนับว่า เลิศรสและบาดลึก อีกไม่นานท่านก็จะชินไปเอง” ชงไฉ่อดหัวเราะตามอ๋องห้าไม่ได้

“มิได้มีแต่ความรุ่งเรืองแต่ไห่ตงหยวนยังมีสุราที่เป็นหนึ่ง” จิวซินเอ่ยปากชมกลบเกลื่อนอาการของตน

“เช่นนั้นจะช้าอยู่ไย มาร่วมดื่มสุราเหล่านี้ให้สุขสมเถิดสหาย” อ๋องห้ารินสุราเติมให้จิวซินจนล้นถ้วยออกมา จิวซินมองตาปริบๆ แต่ก็ต้องจำใจยกขึ้นมาจรดริมฝีปาก

“นายท่าน” จิ่นฉินทักท้วง จิวซินยกมือห้าม

“ข้าไม่เป็นไร” จิ่นฉินถอยห่างออกมาชงไฉ่มองตามจิ่นฉินที่ดูแลจิวซินราวกับภรรยาดูแลสามี

“นึกว่าองค์ชายใหญ่ผู้ที่เชี่ยวชาญทุกด้านจะเป็นอีกผู้ที่ดื่มเหล้าเก่งหากแต่ไม่เห็นกับตาใครจะเชื่อแม้ด้านวรยุทธหรือเรื่องหญิงงามก็ไม่อาจมีใครเทียบแต่กับพ่ายให้กับสุราอย่างไม่น่าเชื่อ”

จิวซินเผลอยิ้มหวานชงไฉ่และ องค์ชายห้ามองหน้ากันทันควัน ด้วยใบหน้ายามนั้นไม่ต่างจากหญิงสาววัยเยาว์แรกแย้ม จิ่นซินจับตามองอยู่ก่อนแล้วเข้าไปพยุงจิวซิน

“นายท่าน ท่านเมามายคงเป็นเพราะไม่คุ้นชินกับสุราของที่นี่เรากลับตำหนักบูรพากันเถิด” หันไปก้มหัวคารวะองค์ชายทั้งสอง

“นายของเจ้า เห็นทีจะแพ้พ่ายต่อสุราของไห่ตงหยวนเสียแล้วเพียงสองจอกกับเมามาย555” องค์ชายห้าเอ่ยปากชงไฉ่ กลับไม่เชื่อว่าจิวซินจะเมาจริง

“ข้ายังมิได้คารวะท่านเลยองค์ชายใหญ่” รินสุราในไหใส่ไปในถ้วยให้จิวซินยืนมือไปรับสุรามาถือไว้ทั้งๆ ที่ซบร่างอยู่กับอกของจิ่นฉิน ตัวอ่อนปวกเปียก

“ข้าไม่เป็นไรจิ่นฉินเจ้าถอยไป” ยกสุราขึ้นดื่มจนหมดขยับตัวถอยห่างจิ่นซินแต่กลับเซถลาไปเบื้องหน้าชงไฉ่คว้าเอวบางไว้ทันควันแต่ร่างอ้อนแอ้นกับยืนไมไหวล้มไปบนตัวของชงไฉ่เต็มแรงทั้งคู่ล้มลงบนพื้นพรมหนา ปากบางประกบปากอุ่นของชงไฉ่อย่างไม่สามารถหนีได้กลิ่นกายหอมละมุนผสมกลิ่นสุรารัญจวนใจชงไฉ่เผลอสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด องค์ชายห้าหัวเราะสียงดังลั่น จิวซินลุกพรวดพลาดขึ้นนั่งตัวตรงด้วยความตกใจ

“ข้าเมามากแล้วเพราะฤทธิ์สุราของไห่ตงหยวน เห็นทีต้องกลับตำหนักบูรพาเสียที” พูดด้วยเสียงค่อนข้างดัง

“จิ่นฉินพยุงข้าที”

จิ่นฉินไม่รอรอช้ารีบเข้าไปพยุง จิวซินแต่ชงไฉ่กับเข้ามาประคองอีกฝั่งไว้

“นายเจ้าท่าจะแย่ ข้าช่วยดีไหม” จิวซินพยายามลืมตาแต่ไม่เป็นผล

“ให้นายเจ้าพักที่จวนของข้าจนกว่าจะสร่างเมาดีไหม” องค์ชายห้าออกความเห็นตามที่คิดได้จิ่นฉิน ลังเล

“เชื่อข้าเถิด ข้ามีชาแก้เมาสักพักข้าจะให้เด็กนำมาให้นายเจ้าดื่ม”

“นายของข้าไม่ชอบนอนค้างที่อื่น”

“เพราะอะไรเมามายเพียงนี้ ไยไม่สร่างเมาถึงค่อยกลับตำหนักบูรพา”

“คงเป็นเพราะมีสาวงามคอยท่าอยู่สาวใช้ที่ติดตามมานั้นความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาอีกทั้งนางยังงดงามราวฝนแรกของวสันต์ฤดู มีหรือองค์ชายใหญ่จะอยากทิ้งนางไว้ลำพัง”

คราวนี้เองที่จิวซินสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาได้ยินพอดี

“องค์รัชทายาท ช่างเป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้างนัก แม้สาวใช้ข้างกายข้าท่านยังไม่ละเว้น”

เมามายแค่ไหนจิวซินก็ยังเหน็บแนมทั้งๆ ที่เสียงอ้อแอ้ด้วยความเมาเมื่อพูดเสร็จก็คอพับไปตามเดิม

“555แม้กระทั่งตอนเมา องค์ชายใหญ่ยังมิวายหวงสาวใช้ข้างกายข้าชักอยากเห็นหน้านางเต็มทีว่าจะงดงามดังที่น้องสิบสองกล่าวถึงหรือไม่”

ชงไฉ่ทำหน้าไม่ถูก

“เอาตามนี้ พยุงนายของเจ้าเข้าไปในจวนข้าก่อน เดี๋ยวสร่างเมาค่อยพากลับตำหนักหากไปตอนนี้เกรงว่าหากมีผู้พบเห็นจะไม่เป็นการดีต่อองค์ชายใหญ่” จิ่นฉินจนใจหิ้วปีกจิวซินเข้าไปในจวน ชงไฉ่ใช้มือสอดจากด้านหลังโอบเอวบางของจิวซินไว้ กำลังครุ่นคิดว่าเอวของจิวซินช่างคอดกิ่วไม่สมชายชาตรี

บุรุษทั้งคู่พาจิวซินในอาภรณ์บุรุษยังแท่นนอน ที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามสะอาดสะอ้านส่งจิวซินยังแท่นนอน

“หากจะต้องให้ผู้อื่นลำบากยามเจ้าเมามายเช่นนี้ ข้าว่าเจ้าไม่ควรดื่ม” ชงไฉ่เอ่ยปากเบาๆ พอได้ยินแค่เขาและจิวซิน ทว่าจิวซินกับไม่รู้สึกตัวหรือได้ยิน ใบหน้าผุดผาดด้วยเลือดฝาดจากฤทธิ์สุรายิ่งน่ามองชงไฉ่นึกอิจฉาใบหน้างดงามนั้นอย่างนี้นี่เององค์หญิงสิบสี่ถึงกับยอมทะเลาะกับเขาเพราะบุรุษรูปงามไร้ที่ติคนนี้นี่เองเผลอมองเสียเพลินไม่ทันสังเกตว่าจิ่นฉินก็ไม่ละสายตาจากเขาเช่นกัน ด้วยสายตาระวังภัย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป