บทที่ 9 9
เรือนร่างคอดเว้าของหญิงสาวสะกดเขาให้นิ่งงันไปชั่วขณะ หน้าท้องของเธอแบนราบและโดยเฉพาะเนินสามเหลี่ยมใต้แพนตี้บางเบาแถมเปียกชื้นจนเห็นไรปุยขนนุ่มอยู่รำไรนั้นทำให้เขาถึงกับหายใจขัด
เขาก็เคยผ่านผู้หญิงมาก่อน แต่นั่นมันก็นานมาแล้วก่อนที่เขาจะบุกบั่นงานในเหมืองถ่านหินอย่างเป็นบ้าเป็นหลังจนแทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยทีเดียว ดอมมินิคไม่คิดว่าตัวเองจะโหยหาเรื่องอย่างว่ามากถึงขนาดนั้น แต่ตอนนี้เขารู้สึกแปลก ๆ กับตัวเอง ทำไมเขาถึงละสายตาไปจากเรือนร่างเกือบเปล่าเปลือยตรงหน้าไม่ได้ หัวใจของเขาเริ่มเต้นผิดจังหวะ ประกายอันนุ่มนวลฉายขึ้นมาแว่บหนึ่งในดวงตาสีสนิมเหล็กอันแข็งกล้า
ทว่าเขาคงปล่อยผ้าเปียก ๆ ไว้บนตัวเธอไม่ได้ ดอมมินิคตัดสินใจดึงอาภรณ์ตลอดจนถึงชิ้นสุดท้ายออกจากร่างกายของหญิงสาว และโดยไม่ตั้งใจมือเขาอาจจะหนักไปจึงทำให้รสิกาเริ่มรู้สึกตัวและถึงกับเบิกตาโพลง
“ดอมมินิค...นี่คุณ!”
พอรู้สึกตัวเต็มที่หญิงสาวก็รีบดีดตัวห่างจากเขาโดยอัตโนมัติ รสิการีบดึงสติกลับคืนมาและรู้สึกเบาโหวง หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อมองไปข้างเตียงเห็นชุดของเธอที่เปียกซ่กวางกองอยู่รวมกัน เธอหน้าแดงซ่านจนต้องรีบดึงผ้านวมขึ้นมาปกปิดเรือนร่างเปล่าเปลือยของตัวเองแทบไม่ทันเลยทีเดียว
รสิกาอยู่ในอาการตกใจกลัว ตัวเธอสั่นอย่างเห็นได้ชัด ดอมมินิคลุกขึ้นยืนข้างเตียง ประกายอันนุ่มนวลในแววตาคู่นั้นเมื่อครู่เหือดหายไปจนหมดสิ้น เขาถอดเสื้อเปียกชื้นทิ้งไปบ้างเผยความกำยำและหน้าท้องเป็นลอนของลำตัวช่วงบนและผิวสีแทนเข้มจัดบนเรือนร่างสูงใหญ่ ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
“คิดว่าตัวเองฉลาดมากนักรึไงที่คิดจะหนีไปจากที่นี่ บนยอดเขาสูงตอนกลางคืนที่คุณยังไม่เคยรู้จักมันดีด้วยซ้ำ”
เขากล่าวขณะหันมามองหญิงสาวที่แอบซ่อนตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่ม โผล่เพียงใบหน้าแสนหวานที่ดวงตาคู่นั้นสะท้อนความหวาดหวั่นอย่างมิอาจปกปิด มือเรียวบางกุมชายผ้านวมไว้แน่น เธอกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังขนาดที่เขาก็ยังได้ยิน
“จะอยู่ที่นี่หรือหนีไปฉันก็ต้องตายเหมือนกัน แต่ฉันจะไม่อยู่ให้คุณทรมานฉันอย่างแน่นอน”
“ก็เลยเลือกที่จะไปตายเอาข้างหน้า” เสียงของเขาเข้มขึ้นอีก ดอมมินิคโน้มลำตัวเข้าไปใกล้หญิงสาวที่ขยับหนีจนหลังชิดผนัง เขาเหยียดยิ้มอำมหิตใส่เธออย่างเย้ยหยัน
“ถ้าคุณตายทันทีอาจไม่ไม่ทรมานเท่าไหร่ แต่ถ้าค่อย ๆ ตายเพราะถูกพวกสัตว์กลางคืนรุมทึ้งผมก็อยากจะรู้ว่าคุณจะทนได้มั้ย ทำไมคุณถึงไม่เลือกที่จะพูดความจริง แค่บอกว่าแม่ของคุณเข้าไปทำอะไรในห้องของพ่อผมคืนนั้น คุณ...ก็จะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย”
“แล้วทำไมคุณถึงไม่เชื่อล่ะคะว่าฉันกับแม่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ พวกเราก็เสียใจนะคะที่ผู้มีพระคุณของเราต้องพบกับเรื่องเลวร้ายแบบนั้น”
“ผู้มีพระคุณอย่างนั้นหรือ?” เขาทวนคำพร้อมด้วยเสียงหัวเราะที่ดังในลำคอ “พ่อของผมคงมีบุญคุณกับแม่บ้านและลูกสาวของแม่บ้านมากซีนะ แล้วพวกหล่อนตอบแทนบุญคุณอย่างว่านั่นแบบไหนกันล่ะ บนเตียงทีละคนหรือว่าทีเดียวสามคน!”
“ดอมมินิค...คุณกำลังดูถูกพวกเรานะคะ ดูถูกฉันกับแม่ไม่เป็นไรแต่คุณไม่ควรดูถูกบุพการีของตัวเอง”
“ผมเคารพเขาเสมอ! บอกแล้วยังไงว่าตอนที่ผมไม่ได้อยู่บ้านพวกเราติดต่อกันตลอดเวลา แต่เราทุกคนก็ต้องมีเวลาที่เป็นส่วนตัว และบางทีก็อาจหมายถึงการเก็บเรื่องบางเรื่องไว้เป็นความลับ เหมือนพ่อของผมที่เขาก็อาจเก็บเรื่องของพวกคุณไว้เป็นความลับไม่ให้ใครรู้”
“คุณผู้ชายเป็นคนดี และพวกเราก็ไม่เคยมีความลับกับทุกคนในบ้าน”
“แน่ใจหรือโรส!” ดอมมินิคจับไหล่บางของเธอไว้อีกครั้ง เขาบีบมันแน่นและเขย่าอย่างคาดคั้น
“ถ้าคุณคิดว่าคุณกับแม่ของคุณไม่มีความลับในบ้านหลังนั้นก็พูดความจริงออกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับพ่อของผม!”
“ดอมมินิค...ฉันเจ็บนะคะ”
รสิการ้องออกมาอย่างเจ็บปวด หญิงสาวกัดปากตัวเองแน่น ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอใครที่ไร้เหตุผลอย่างดอมมินิค เขาไม่เคยฟังอะไรและคงไม่มีเหตุผลใดจะทำให้เขาเชื่อถือสิ่งที่เธอพูดได้แน่
ในเวลานั้นเองมือเรียวบางข้างที่อยู่ใต้ผ้านวมก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างซุกตัวอยู่ใต้หมอน หญิงสาวรู้ได้ทันทีถึงลักษณะที่เป็นด้าม ถัดจากนั้นเป็นสันของโลหะเย็นเยียบ เธอจับมันไว้มั่นขณะที่ชายหนุ่มยังคงบีบคั้นเธอด้วยการเขย่าไหล่บางไปมา
“ว่ายังไง...คุณจะยอมบอกผมมั้ย รึว่าจะยอมตายอยู่ที่นี่ ถ้ายังไม่ยอมเปิดปากผมจะจับคุณโยนคุณลงไปในเหวทั้งแบบนี้แหละ!”
“ดอมมินิค ฉันเกลียดคุณ!”
รวดเร็วกว่าความคิดที่หญิงสาวดึงสิ่งที่เธอจับได้ใต้หมอนขึ้นมาและพุ่งมันเข้าหาเขา ทว่าก็ช้ากว่ามือหนาใหญ่ที่คว้ามือเล็กเอาไว้ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เขาจับข้อมือของเธอไว้แน่น
ดวงน์ตาสีสนิมเหล็กเบิกกว้างเมื่อประกายคมวับจากปลายโลหะแหลมสะท้อนเข้าไปในดวงตาคู่นั้น มันเป็นมีดพกวิกทอริน็อกส์ขนาดเล็กที่เขามักเก็บซ่อนไว้ใต้หมอนเพื่อระแวดระวังภัยเป็นประจำ หากก็ไม่นึกว่ามันจะกลับกลายเป็นอาวุธของผู้หญิงตัวเล็กซึ่งเธอเองที่มีอาการตื่นตระหนกยิ่งกว่าเขา
