บทที่ 5 5
ริมฝีปากบางเผยอขึ้นพร้อมทั้งเสียงเบาหวิวที่ลอดออกมา นัยน์ตาคู่งามสะท้อนภาพของบุรุษร่างสูงใหญ่ภายใต้ชุดสูทเรียบหรู เนคไทสีกรมท่าถูกดึงให้ลงมาอยู่ใต้ปกเสื้อเชิ้ตขาวอย่างหลวม ๆ ทว่าก็ยังดูสง่าน่าเกรงขาม เรือนผมสีน้ำตาลเข้มบรูเน็ต นัยน์ตาสีน้ำเงินส่องประกายราวกับแซฟไฟร์ จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากหนาได้รูปนั้น ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปจากที่เธอเคยเห็น
“นิต้า...นี่คือ คลีฟ เวสเนอร์...เขาเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าเวสเนอร์ ห้างดังติดอันดับของนิวยอร์คและมีสาขาอยู่ทั่วโลก จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้มีธุรกิจห้างสรรพสินค้าอย่างเดียวนะ แต่เขายังเป็นเจ้าของเวสเนอร์ เรียล เอสเตท กรุ๊ป กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเรียกได้ว่าเกือบจะสูงที่สุดในสหรัฐเลยล่ะ”
ลอว์สันแนะนำเพื่อนของเขาเป็นคำอธิบายยืดยาว แต่สำหรับนิตาแล้วมันเป็นคำพูดอันแสนสั้นเพราะเธอเคยรู้จักเขามากและลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น ทำไมเธอจะจำเขาไม่ได้ในเมื่อชื่อนี้ยังติดลึกอยู่ในหัวใจดวงนั้นเสมอ
คลีฟ เวสเนอร์
“สวัสดีครับ...คุณ...นิต้า”
เป็นคำกล่าวแรกที่ชายหนุ่มพูดกับหญิงสาว น้ำเสียงนั้นเหมือนเสียงที่อยู่ในความทรงจำ เนิ่นนานแต่ไม่เคยเลือนจากความรู้สึกของเธอ ทว่ามันกลับราบเรียบ ใบหน้านั้นเฉยเมย เขาไม่ตื่นเต้นหรือดีใจบ้างเลยหรือที่ได้เจอเธออีกครั้ง นิตาพยายามสะกดน้ำรื้นที่มันกำลังก่อตัวอยู่รอบเบ้าตา เหมือนมีก้อนแข็งวิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ ตีบตัน ตื้นตันแทบพูดไม่ออก หญิงสาวแสร้งยิ้ม
“สวัสดีค่ะ...คุณคลีฟ”
แล้วกลืนก้อนหนืดเหนียวกลับเข้าไปในอก เธออยากร้องไห้ด้วยความตื่นเต้นที่ได้เจอเขา แต่เมื่อเห็นใบหน้าอันเฉยเมยนั้นทำให้หญิงสาวชาวไทยถึงกับต้องเก็บกลั้นคำพูดนับล้านที่อยากระบายมันออกมาไว้โดยทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
“นี่ไง นิต้า...เพื่อนที่ฉันเล่าให้นายฟัง เธอมาจากเมืองไทย มาตามหาผู้ชายคนหนึ่ง อืม...เขาอาจเป็นเพื่อน หรือคนรักของคุณสินะครับ นิต้า”
ลอว์สันหันกลับมาทางหญิงสาวที่หรุบเปลือกตาลงต่ำ เธอกำลังปกปิดความรู้สึกมากมายที่ประดังขึ้นมาจากส่วนลึก คลีฟยังจ้องมองใบหน้างดงามของหญิงสาวราวกับเขากำลังรอฟังคำตอบนั้นพร้อมเพื่อนของเขา
“เอ้อ...เป็นคนที่ฉันรู้จักน่ะค่ะ”
นิตาหลีกเลี่ยงที่จะตอบตามตรง มีหลายสิ่งหลายอย่างบอกเธอว่า ทุกอย่างที่เธอคิดกำลังเปลี่ยนแปลงไปจนหมด ทว่าหญิงสาวก็ยังคาดหวังว่าบางทีมันอาจยังหลงเหลือเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ในแสงสว่างอันริบหรี่ก็เป็นได้
“โอเค คลีฟ” เสียงของลอว์สันดังขึ้นกลบความเงียบในที่นั้น “แล้วนายมีงานอะไรที่จะให้นิต้าทำได้บ้าง แต่ฉันหวังเล็ก ๆ ว่าคงไม่ใช่งานแม่บ้านทำความสะอาดห้างหรอกนะ”
“ฉันจะให้เธอเป็นพนักงานที่แผนกรองเท้า”
“หืมม์?” ลอว์สันเลิกคิ้ว
“แผนกรองเท้าผู้ชาย” คลีฟกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบและนิ่งเหมือนน้ำในบ่อขณะที่สายตาคมจับจ้องไปยังใบหน้าสวยหวานของผู้หญิงตรงหน้า
“นิต้า”
ประธานเวสเนอร์เรียกหญิงสาว นิตาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาที่แห้งผาก เธอต้องไม่ร้องไห้ออกมาในตอนนี้ ต้องไม่ทำให้ลอว์สันรู้อะไรหรือระแคะระคายความนึกคิดที่ถูกกดจนจมมิดลงไปในส่วนลึกของเธอ
“ค่ะ...ท่านประธาน”
เสียงตอบรับนั้นเสมือนก้อนหินเล็ก ๆ ที่หล่นลงไปในบ่อความรู้สึกของคนฟัง คลีฟกลืนก้อนแข็งในลำคอ ลอว์สันไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำว่าสันกรามแกร่งบนใบหน้าของเพื่อนสนิทถูกขบเข้าหากันเบา ๆ
“คุณอยากเรียกผมว่าอย่างนี้หรือ นิต้า?”
“ค่ะ...ท่านประธาน”
นิตากล้ำกลืนความฝืดเคืองในน้ำเสียงลงคออย่างยากลำบาก เธอจะให้ลอว์สันจับความผิดปกติระหว่างเธอและเพื่อนของเขาตอนนี้ไม่ได้ หญิงสาวคิดว่านั่นเป็นคำตอบที่เหมาะสม แต่แล้วเธอกลับเห็นรอยยิ้มเหยียดบนมุมปากของคลีฟ เวสเนอร์
“ก็ดี...เรียกผมว่าท่านประธาน ผมจะให้คุณทำงานที่ห้างนี้ ในแผนกรองเท้าบุรุษ...คุณคิดว่าคุณ...พอใจไหม?”
เรียวปากอิ่มบนดวงหน้าหวานราบเรียบลงหลังจากที่เธอกดเกร็งมันไว้ก่อนจะคลี่ออกเป็นรอยยิ้มจางพร้อมทั้งเอ่ยตอบว่า
“ค่ะ...ฉันพอใจค่ะ ฉันคิดว่ามันเป็นงานที่เหมาะกับฉันแล้ว”
“ก็ดี”
คลีฟตอบสั้น ๆ โดยที่ลอว์สันไม่สังเกตเห็นรอยสันกรามบนใบหน้าคร้ามเข้มนั้นถูกขบแน่นกว่าเดิม
“คลีฟ...ขอบใจมากนะเพื่อนที่นายช่วยนิต้าไว้ เธออยากทำงานเก็บเงินสักพักก่อนกลับเมืองไทย และเพื่อที่ว่าเธอจะได้ตามหาคนที่เธออยากพบด้วย”
ซึ่งเธอพบเขาแล้วในบัดนี้...เธอได้พบเขาแล้ว...บุคคลผู้มีใบหน้าท่าทางเหมือนคนที่เธอเคยรู้จักทุกประการ หากแต่กลับไม่ใช่ตัวตนและวิญญาณของบุคคลที่เธอดั้นด้นมาหา นิตากลืนเก็บคำตอบที่ควรจะบอกลอว์สันไว้ในส่วนที่ลึกสุดลึก
“แล้วนายจะให้เธอเริ่มทำงานเมื่อไหร่” ลอว์สันหันกลับมาถามเพื่อนของเขา
“วันนี้” คลีฟตอบสั้น ๆ แต่ทำให้เพื่อนของเขาเลิกคิ้วด้วยความฉงน
“จริงเหรอ?...ทำไมเร็วจัง”
“พอดีพนักงานที่แผนกรองเท้าบุรุษลาออกไปคนหนึ่ง ที่สำคัญคุณนิต้าเธอพร้อมที่จะทำงานไม่ใช่หรือ ฉันคิดว่าเธอคงอยากทำงานเร็ว ๆ”
นิตาไม่แสดงความเห็น ความตื่นเต้นในตอนแรกดิ่งวูบจนเหลือเพียงความหดหู่ ในลำคอของหญิงสาวแห้งผาก ริมฝีปากเคลือบกลอสสีชมพูก็พลอยดูแห้งผากไปด้วย
