บทที่ 7 7
น้ำตาหยดหนึ่งไหลร่นลงมาบนแก้มของหญิงสาว เศษเสี้ยวเวลาในชีวิตของ เขา คงถูกกลืนจมหายไปพร้อมกระแสเวลาที่พาพัด เวลาที่เธอเคยมีเขา นิตายังนึกถึงชายผู้นั้นไม่เสื่อมคลาย เขาเป็นชายชาวอเมริกันที่เธอได้พบและรู้จักที่เมืองไทย เป็นเวลาก่อนหน้านี้ประมาณเกือบสามปี
แกรก...
เสียงลูกบิดที่บานประตูด้านนอกทำให้นิตาต้องเรียกสติที่กำลังลอยล่องกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมาอีกหลายหยดก่อนจะปิดล็อคเก็ตเอาไว้และลุกจากเก้าอี้นวมตัวใหญ่ ร่างแน่งน้อยต้องหยุดนิ่งเมื่อบานประตูห้องค่อย ๆ เปิดออกและเกือบจะลืมหายใจเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“คลีฟ!”
ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง สิ่งที่เธอเห็นนั้นไม่ใช่ความฝัน ร่างสูงสง่าของบุรุษผู้นั้นยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องชุด คลีฟ เวสเนอร์...เขายังอยู่ในชุดสูท ทว่าใบหน้าคร้ามคมกลับยังดูนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง ชายหนุ่มก้าวเข้ามาขณะที่หญิงสาวเป็นฝ่ายยืนนิ่ง มือเท้าของเธอเริ่มเย็นและบอกตัวเองไม่ได้ว่าจะยิ้มหรือทำสีหน้าอย่างไรต่อหน้าประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์ กรุ๊ป
คลีฟดึงบานประตูห้องให้ปิดลงและก้าวเข้ามาด้วยท่าทีสง่างาม นิตายังนึกเห็นภาพบุรุษผู้นี้ตอนอยู่ในชุดลำลองและเขามักเข้ามาใกล้เพื่อยีผมเธอเล่น บางครั้งเขาก็หลอกให้เธอตกใจเหมือนเด็กเล็ก ๆ ทว่าบัดนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว เขาคงลืมเรื่องราวเหล่านั้นที่เคยเกิดขึ้นที่เมืองไทยหมดสิ้นกระมัง
“นีน่า...”
ประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากหยักหนาได้รูปทำให้นิตาถึงกับนิ่งงัน หญิงสาวกลั้นน้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วและมันกำลังจะไหลลงมาอีกเอาไว้ เธอกัดปากตัวเองเบา ๆ และคลี่รอยยิ้มให้เขาเหมือนตอนพบกันที่ห้างเวสเนอร์
“คุณ...เรียกฉันผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันชื่อนิตา...ลอว์เรียกฉันว่า...”
“นีน่า...ยังไงผมก็ยังยืนยันที่จะเรียกคุณว่านีน่า”
น้ำเสียงห้าวลึกของเขาดูเอาจริงเอาจัง แต่สำหรับนิตามันเหมือนการเล่นละครไม่มีสิ้นสุดของศิลปินที่หาจุดจบของตัวเองไม่เจอ รอยยิ้มของหญิงสาวเจือจางลงอีกครั้ง
“เรียกผมว่าคลีฟนะ...ผมเรียกคุณว่านีน่าได้มั้ย?”
เสียงนั้นยังแจ่มชัดในหัวใจของนิตาเสมอ ทว่าบัดนี้น้ำเสียงที่เรียกเธอเปลี่ยนไป มันเย็นชาปราศจากความหวานซึ้ง และการมาครั้งนี้มันทำให้หญิงสาวฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้
บทที่ 3 The obscure ตัวตนในเงามืด
“ขอโทษทีนะคะ คุณคงจะมาตรวจดูความเรียบร้อยของห้องนี้...ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ฉันตั้งใจไว้แล้วที่จะบอกลอว์ว่าพรุ่งนี้ฉันจะย้ายออกจากที่นี่แล้วไปหาห้องเช่าใหม่”
“ใครอนุญาตให้คุณออกจากห้องนี้ นีน่า!”
เสียงของคลีฟเข้มขึ้นกว่าเดิม นิตาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวมองหน้าเขา วันนี้ที่ห้างเวสเนอร์เขาทำเหมือนไม่เคยรู้จักเธอ แต่ตอนนี้กลับจดจำสิ่งที่เกี่ยวกับเธอได้ อย่างน้อยก็คือชื่อเรียกที่เขาและเธอต่างคุ้นเคยระหว่างกันและกันดี
“ท่านประธานคะ...ขอโทษนะคะ...ฉัน...”
เสียงของนิตาขาดหายไปเมื่อร่างสูงใหญ่สืบเท้าเข้ามาหา เขาเว้นระยะห่างที่ยืนระหว่างเธอ ใบหน้าของเขาบึ้งตึง เขาไม่ยอมแม้แต่จะจับมือของเธอ บอกเธอว่าคิดถึงหลังจากที่หายหน้าไปจากชีวิตของเธอเป็นเวลาถึงสองปี
“นีน่า...ผมไม่อนุญาตให้คุณออกไปเช่าที่อยู่ใหม่”
“เหตุผลล่ะคะ?”
น้ำเสียงในคำถามนั้นเริ่มสั่นเครือ ทุกคำพูดของบุรุษตรงหน้าเหมือนเหล็กแหลมทิ่มแทงลงไปในความรู้สึกของหญิงสาว ตอนนี้เธอกับเขาเหมือนเริ่มต้นทำความรู้จักกันใหม่ ทั้งที่เวลาเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงแต่มันได้ผ่านพ้นไปกว่าสองปี แต่...เขาจะระลึกมันไม่ได้แม้เพียงเศษเสี้ยวของความทรงจำเลยเชียวหรือ
“เพราะ...ตอนนี้คุณอยู่ภายใต้สัญญาการเป็นลูกจ้าง...ของผม” เขากล่าวออกมาเสียงแผ่วต่ำ หญิงสาวเลิกคิ้ว
“เหรอคะ...แล้วถ้าฉันไม่ใช่ลูกจ้างของคุณฉันก็คงออกไปหาที่เช่าอยู่ใหม่ได้อย่างนั้นซีนะคะ”
“นีน่า...บอกแล้วยังไงว่าผมไม่ให้คุณไปไหน!”
เสียงตะคอกที่ดังขึ้นในฉับพลันและมือหนาหนักที่คว้ามือเรียวบางข้างหนึ่งของหญิงสาวที่กำลังจะหันหลังให้ไปกุมไว้แน่นทำให้เธอตกใจตัวสั่นเหมือนลูกนก นัยน์ตาสีน้ำเงินเป็นประกายดุจแซฟไฟร์คู่นั้นกำลังสะท้อนบางอย่างที่หญิงสาวไม่เข้าใจ
“คลีฟ...”
