บทที่ 13
ณ เรือนหยูฉวน
ระหว่างที่หนิงอวิ้นหยูวนอนหมดสติ ก็ฝันถึงเรื่องบางอย่าง
ในฝัน นางกลับไปยังยุคปัจจุบัน มองเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างสงบนิ่ง ด้านข้างมีเครื่องมือทางการแพทย์ส่งเสียงดังขึ้นมาเป็นระยะ
คุณแม่นั่งปาดน้ำตาอยู่ข้างเตียงของนาง ส่วนคุณพ่อนั่งสูบบุหรี่ในโถงทางเดินโรงพยาบาลมวนแล้วมวนเล่า
ใบหน้าของทั้งสองต่างเผยความรู้สึกเจ็บปวดเสียใจออกมาไม่ต่างกัน
ตั้งแต่ที่นางโตขึ้นกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว นางก็เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการทำงาน เกือบห้าหกปีแล้วที่ไม่ได้เจอพ่อแม่
คิดไม่ถึงเลยว่า การกลับมาเจอกันอีกครั้งจะเป็นภาพนี้
กรอบตาของนางรื้นไปด้วยน้ำตาอย่างห้ามไม่ได้
นางทำงานหนักมาทั้งชีวิต แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถทดแทนบุญคุณพ่อแม่ได้ สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกผิดสุดซึ้ง
หากฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง นางจะทดแทนบุญคุณพ่อแม่เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกันนั้น นางก็ได้ยินคนเรียกชื่อนางไม่หยุด
ต่อมา ความรู้สึกเจ็บปวดชัดเจนปานใจจะขาดก็เสียดแทงเข้ามาในร่างกาย
ตอนที่นางลืมตา ก็เห็นหยุนเอ๋อร์คุกเข่าอยู่ข้างเตียง ร้องไห้ราวกับเป็นมนุษย์ที่ผลิตน้ำตาได้
"นายหญิง ชีวิตท่านช่างขมขื่นเหลือเกิน ถึงอย่างไรท่านอ๋องกับท่านก็เป็นสามีภรรยากัน เหตุใดเขาถึงได้ลงมือหนักถึงเพียงนี้ ฮือ ๆ ..."
"หยุนเอ๋อร์" ทันทีที่หนิงอวิ้นหยูวเอ่ยปากพูด ก็พบว่าเสียงของตนเองแหบแห้งโรยราเหมือนคนแก่
หยุนเอ๋อร์รีบเดินเข้ามาหา จับมือของหนิงอวิ้นหยูวเอ่ยถามอย่างร้อนใจ "นายหญิง ท่านฟื้นแล้ว เมื่อวานบ่าวเห็นสภาพท่าน ยังคิดว่าท่านจะ....."
พูดมาถึงตรงนี้ น้ำตาของหยุนเอ๋อร์ก็ไหลพราก
หนิงอวิ้นหยูวรู้ว่านางจะพูดอะไร จึงถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ เอ่ยพูดอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า "หยุนเอ๋อร์ น้ำ....ข้าอยากดื่มน้ำ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยุนเอ๋อร์ก็รีบลุกขึ้น เดินไปหยิบเครื่องชาบนโต๊ะด้วยมือไม้พัลวัน แล้วรินชามาให้
"นายหญิง ชาในห้องเย็นหมดแล้ว ท่านดื่มไปพลาง ๆ ก่อน เดี๋ยวบ่าวจะไปต้มมาให้ใหม่"
หนิงอวิ้นหยูวนอนอยู่บนเตียงอย่างโรยแรง รับถ้วยชาที่หยุนเอ๋อร์ส่งมาให้ เมื่อดื่มลงไปคอที่แห้งเป็นเวลานานก็รู้สึกดีขึ้น
นางก้มหน้าลงมองช่วงล่างที่ชวนบาดตา
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยี่สิบไม้นี้แทบพรากชีวิตนางไป เฆี่ยนจนนางรู้สึกเจ็บทุกลมหายใจ
แต่ผลพวงจากการที่นางยกน้ำขึ้นดื่ม ก็ทำให้บนหน้าผากของนางมีเหงื่อผุดซึมขึ้นมาอย่างแน่นหนา
หยุนเอ๋อร์เห็นนางเป็นแบบนั้น ก็พูดกลั้วสะอื้น "นายหญิง บ่าวไม่ได้เรื่องเอง เมื่อคืนบ่าวตั้งใจจะไปหยิบผ้ามาทำแผลให้ท่าน แต่นายหญิงนมหลิวเข้ามาขวางบ่าว บอกว่าไม่อนุญาตให้นายหญิงใช้ของภายในจวน แบบนี้เท่ากับรังแกกันเห็น ๆ มิใช่หรือ? ท่านเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ตามหมอหลวงมา แต่ยังไม่ให้ยาอีก นางมีเจตนาจะให้ท่านตายชัด ๆ …”
บ่าวไพร่เหล่านี้ไปเอาความกล้ามาแต่ไหนกัน
ที่พวกเขากล้ารังแกหนิงอวิ้นหยูวอย่างเปิดเผย คงไม่มีอะไรมากไปกว่าได้รับอนุญาตจากท่านอ๋อง
หนิงอวิ้นหยูวยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ นางยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาบนหน้าให้หยุนเอ๋อร์ เอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่งว่า "ข้ามียาน่า เจ้าแค่ช่วยข้าทายาก็พอ"
"เจ้าค่ะ!" หยุนเอ๋อร์มองมาที่เจ้านายของตนอย่างดีใจ
"เจ้าไปต้มน้ำร้อนมาให้ข้าก่อนไป" คอของหนิงอวิ้นหยูวยังคงแห้งไม่ไหว
หยุนเอ๋อร์พยักหน้า จากนั้นก็ออกไปก่อไฟต้มน้ำร้อน
หนิงอวิ้นหยูวหลับตาลง หยิบผ้าพันแผล ยาแก้อักเสบรวมไปถึงยาแก้ฟกช้ำจากห้องทดลองในห้วงสำนึกออกมา
นางหยิบชาเย็นชืดที่ยังดื่มไม่หมดมาดื่มพร้อมกลืนยาแก้อักเสบลงไป
เมื่อครู่นางสำรวจอย่างละเอียด พบว่าแผลบริเวณเอวและขาสาหัสที่สุด หลังจากนี้คงต้องนอนตะแคงชั่วคราว
ไม่นานหลังจาดนั้น หยุนเอ๋อร์ก็ยกกาน้ำชาเข้ามา
นางรินชาร้อนให้หนิงอวิ้นหยูวอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็มองขวดยาที่วางอยู่ข้างหน้าต่างอย่างสงสับ
"นายหญิง ของเหล่านี้คืออะไรเจ้าคะ? ทำไมรูปทรงของพวกมันถึงได้แปลกยิ่งนัก"
หนิงอวิ้นหยูวยิ้มขำกับคำพูดของนาง สมัยโบราณมีเพียงยาสมุนไพรจีน แทบจะไม่มียาตะวันตก
ไม่แปลกใจที่หยุนเอ๋อร์จะไม่เคยเห็น
"สิ่งของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นยาช่วยชีวิตข้าทั้งนั้น นายหญิงข้าใช้เงินซื้อมาในราคาสูง จ้างหมอเทวดาปรุงให้ นางกลัวว่าข้าแต่งงานแล้วจะไม่เป็นดั่งหวัง ก่อนข้าออกเรือนนางจึงเตรียมยาพวกนี้ไว้ให้" หนิงอวิ้นหยูวแต่งเรื่องพูดไปเรื่อย
หยุนเอ๋อร์ไม่สงสัยกับคำพูดของนางแม้แต่น้อย จึงพยักหน้า "นายหญิง แล้วต้องทำอย่างไรต่อ?"
"เจ้าช่วยข้าล้างแผลก่อน" หนิงอวิ้นหยูวหยิบขวดสีน้ำตาลออกมาให้นาง
เนื่องจากบาดแผลกินบริเวณกว้าง หยุนเอ๋อร์จึงใช้เวลาในการล้างแผลค่อนข้างนาน
ไม้ที่ใช้เฆี่ยนตีมีเสี้ยน ตอนที่ฟาดมันลงมาก็ทิ่มแทงเข้าสู่ผิวหนัง
หยุนเอ๋อร์ช่วยดึงออกอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนหนิงอวิ้นหยูวเจ็บจนน้ำตาไหล
นางจดบัญชีแค้นของซือจ้านเหยียนไว้ในใจเงียบ ๆ วางแผนรอยามที่มีโอกาส ต้องให้ซือจ้านเหยียนชดใช้คืนสองเท่า
กว่าจะล้างแผลและทายาเสร็จก็ผ่านไปครู่ใหญ่ หนิงอวิ้นหยูวนอนลงบนเตียง ร่างทั้งร่างแทบออกแรงไม่ได้
ขณะที่นางเตรียมจะหลับสักงีบ มู่หนิงเอ๋อร์ก็พาคนรับใช้กลุ่มหนึ่งมาที่เรือนหยูฉวน
"อุ๊ย ท่านพี่บาดเจ็บถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่มีสาวใช้คอยดูแล หนิงเอ๋อร์ล่ะสงสารจริง ๆ " มู่หนิงเอ๋อร์แสร้งแสดงสีหน้าห่วงใยออกมา
หนิงอวิ้นหยูวขมวดคิ้ว เมื่อมองแม่ดอกบัวขาวแสร้งเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ พลันรู้สึกไม่ชอบใจ
ทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากมู่หนิงเอ๋อร์ทั้งสิ้น นางยังจะวิ่งมาเสแสร้งเป็นคนดีอะไรที่นี่
"เจ้ามาทำอะไรที่นี่?" หนิงอวิ้นหยูวเอ่ยพูดอย่างเย็นชา
"ฮูหยินอุตส่าห์มาเยี่ยมด้วยความหวังดี เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?" สั่วซินสาวใช้ข้างกายมู่หนิงเอ๋อร์เอ่ยพูดอย่างไม่พอใจ
วันนี้ มู่หนิงเอ๋อร์ตั้งใจมาเพื่อหัวเราะเยาะ เมื่อวานหนิงอวิ้นหยูวทำให้นางขายหน้าในงานแต่งงานของนาง พี่เหยียนกลับไม่เฆี่ยนตีหนิงอวิ้นหยูวให้ตาย นางจึงอยากมาดูว่าหนิงอวิ้นหยูวยังเหลือลมหายใจอยู่หรือเปล่า
เมื่อเห็นนางนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง มู่หนิงเอ๋อร์ก็รู้สึกเหมือนได้ระบายโกรธจากก้นบึ้งของหัวใจ
"สั่วซิน ท่านพี่บาดเจ็บหนัก คงอารมณ์ไม่ดีเป็นธรรมดา รีบไปเอายาบำรุงเลือดที่เราเตรียมไว้มาให้ท่านพี่ดื่มเร็ว"
สั่วซินยกถ้วยยาเข้ามา วางไว้บนเตียงหนิงอวิ้นหยูว
แม้จะอยู่ห่าง แต่หนิงอวิ้นหยูวก็ยังรับรู้ได้ว่ายาในถ้วยนั้นมีกลิ่นแปลก ๆ
มู่หนิงเอ๋อร์มองมาที่นางอย่างคาดหวัง เอ่ยพูดเสียงอ่อนนุ่ม "ท่านพี่ ยานี้ข้าสั่งให้คนหามาบำรุงเลือดให้เจ้าโดยเฉพาะเลยนะ เจ้ารีบดื่มตอนที่มันยังร้อนเถอะ แผลจะได้ดีขึ้น"
