บทที่ 5
“หนิงอวิ้นหยูว!” ใบหน้าของซือจ้านเหยียนดำมืด
“พี่เหยียน...” มู่หนิงเอ๋อร์หันกลับมา ดวงตาคู่สวยของนางเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา นางพูดเสียงกลั้วสะอื้นว่า "ท่านอ๋อง อย่าโทษท่านพี่เลยเจ้าค่ะ ข้าผิดเอง... ท่านพี่เตือนด้วยความหวังดี ข้าก็สมควรทำตาม"
เมื่อเห็นนางเสแสร้งแกล้งทำเป็นรู้ความ หนิงอวิ้นหยูวก็แทบอยากปรบมือให้อย่างอดไม่ได้
ในเวลานี้เอง สาตาแข็งกร้าวก็ทอดมองมาที่หนิงอวิ้นหยูว
เมื่อนางหันหน้าไป ก็เห็นสายตาคาดโทษของซือจ้านเหยียน
หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ป่านนี้หนิงอวิ้นหยูวคงตายไปตั้งกี่รอบแล้วก็ไม่รู้
น่าเสียดาย นางไม่เพียงแต่มีชีวิตอยู่ดี แต่หลังจากนี้ยังเตรียมหาเรื่องยุ่งยากรอมู่หนิงเอ๋อร์ไว้แล้ว
นางโบกมือ หยุนเอ๋อร์ที่อยู่ข้างหลังก็รีบเอาชุดแต่งงานสีชมพูดส่งให้มู่หนิงเอ๋อร์
นิ้วมือของมู่หนิงเอ๋อร์จิกที่ฝ่ามือแน่น จากนั้นนางก็เดินตามสาวใช้ไปที่หลังเรือนเพื่อเปลี่ยนชุดอย่างไม่เต็มใจ
หนิงอวิ้นหยูวมองสีหน้าจำยอมของนางอย่างพึงพอใจ ในใจรู้สึกสะใจเป็นไหน ๆ
ซือจ้านเหยียนไม่รู้ว่านางกำลังวางแผนอะไร จึงเอ่ยพูดอย่างไม่พอใจว่า "สนุกพอหรือยัง? ถ้าสนุกพอแล้วก็กลับเรือนเจ้าไป"
"จะมาบอกว่าสนุกได้อย่างไร? " หนิงอวิ้นหยูวแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นางเอ่ยพูดด้วยใบหน้าที่แสร้งทำเป็นเศร้า "เจ้ากับข้าเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่กี่วัน ไม่ทันไรเจ้าก็แต่งงานกับสตรีคนใหม่เสียแล้ว ทิ้งภรรยาเช่นข้าไว้ข้างหลัง แล้วยังห้ามไม่ให้ข้ามาร่วมแสดงความยินดีอีกหรือ?"
นางจงใจเน้นคำว่า "ภรรยา" เพื่อย้ำเตือนกับทุกคน ว่านางต่างหากคือประมุขหญิงที่แท้จริงของจวนแห่งนี้
ต่อให้มู่หนิงเอ๋อร์ดีแค่ไหน ก็เป็นได้แค่อนุภรรยาที่แต่งเข้ามาเท่านั้น
พูดมาถึงตรงนี้ นางก็เดินไปยังโถงใหญ่ เชิญตนเองมานั่งลงบนตำแหน่งที่นั่งที่สะดุดตาที่สุด
ละครสนุก ๆ ยังไม่เริ่มเลย คิดจะไล่นางแล้วหรือ?
ไม่มีทางเสียหรอก!
ซือจ้านเหยียนมองมาที่นางอย่างพยายามข่มความโกรธ ไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งบอกไปหยก ๆ ว่าหากหนิงเอ๋อร์แต่งเข้ามา จะมีสถานะเทียบเท่ากับนาง ผ่านไปไม่ทันไร หนิงอวิ้นหยูวก็ลืมทุกอย่างไปจนหมดสิ้นแล้วหรือ?
ในตอนนี้เอง มู่หนิงเอ๋อร์เปลี่ยนชุดเสร็จก็ออกมา นางเดินเข้าไปหาซือจ้านเหยียนด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ผู้ดูแลฝั่งเจ้าสาวเอ่ยเร่งรัด "ใกล้จะพลาดฤกษ์แล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวรีบมาไหว้ฟ้าดินได้แล้ว"
หนิงอวิ้นหยูวเหลือบมองคนทั้งสองเดินเข้าไปในจวนอย่างสนิทชิดใกล้ด้วยสายตาเย็นชา
พวกเขาเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ กราบไหว้ฟ้าดินกลายเป็นสามีภรรยาเต็มตัวท่ามกลางสายตารอคอยของทุกคน
แต่ในพิธีแต่งงานของนาง ขั้นตอนกราบไหว้ฟ้าดินถูกตัดทิ้ง แม้แต่คนมาร่วมยินดีก็ไม่มี สิ้นพิธีก็ถูกส่งตัวไปที่ห้องหอแล้ว
ต้องใช้ชีวิตอย่างถูกทอดทิ้งและถูกลืมเลือนนับตั้งแต่นั้นมา
คิดมาถึงตรงนี้ นางก็ยิ่งสงสารเจ้าของร่างเดิม
ตามกฎของบรรพบุรุษ หลังจากนางสนมเช่นมู่หนิงเอ๋อร์กราบไหว้ฟ้าดินเสร็จ จะต้องยกน้ำชาทำความเคารพแด่ผู้เป็นพระชายาเฉกเช่นหนิงอวิ้นหยูว
ขั้นตอนก่อนหน้ามู่หนิงเอ๋อร์พลาดท่ามาตลอด แต่คราวนี้ นางกลับฉลาด เรียกสาวใช้ข้างกายให้ยกน้ำชาร้อน ๆ มาให้ แล้วเดินไปข้างหน้า คุกเข่าลงทำความเคารพหนิงอวิ้นหยูว
ผู้ดูแลฝั่งเจ้าสาวตะโกนกู่ก้อง "เจ้าสาวทำพิธียกน้ำชาแด่พระชายาหลวง"
"ท่านพี่ เชิญดื่มชา" มู่หนิงเอ๋อร์ใช้สองมือยกถ้วยน้ำชา มองมาที่หนิงอวิ้นหยูวด้วยใบหน้าจริงใจ
ถ้วยชาใบนี้นางสั่งให้คนทำจากดินเผาโดยเฉพาะ ประสิทธิภาพในการกันความร้อนจึงได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้น้ำข้างในร้อนเพียงใดก็ไม่รู้สึกถึงความร้อน
ซึ่งเท่านี้ยังไม่พอ นางยังก้มหน้าเคาะยาจากเล็บลงไปด้วย
ยาที่นางใส่ลงไปเป็นยาระบายที่ได้ผลดีเกินคาด แค่ใส่ลงไปในปริมาณน้อยนิด ก็ทำให้ท้องเสีย ไม่ได้หลับนอนกันสามวันสามคืนเลยทีเดียว
'หนิงอวิ้นหยูว เจ้าอยากออกมาแสดงตัวนักใช่ไหม? คราวนี้แหละข้าจะทำให้เจ้าได้ออกมาจนพอใจ!'
คิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของมู่หนิงเอ๋อร์ก็เผยรอยยิ้มบางเบาอย่างมีเลศนัยออกมา นางแทบอดรนทนรอเห็นหนิงอวิ้นหยูวขายหน้าไม่ไหว
เมื่อเห็นมู่หนิงเอ๋อร์เชื่อฟังเช่นนี้ กลับทำให้หนิงอวิ้นหยูวรู้สึกไม่สบายใจ
ลางสังหรณ์ของนางสังเกตได้ว่าชาถ้วยนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ ห้ามดื่มมันเข้าไปเด็ดขาด!
เมื่อเห็นหนิงอวิ้นหยูวไม่ไหวติง นัยน์ตาของมู่หนิงเอ๋อร์ก็เอ่อคลอไปด้วยไอน้ำ นางเอ่ยถามอย่างน้อยใจว่า "ท่านพี่ ไม่อยากดื่มชาของข้าหรือ?"
"ดื่มสิ ต้องดื่มอยู่แล้ว!" หนิงอวิ้นหยูวยื่นมือออกไปแตะถ้วยชา แต่ก็ปล่อยมือออกอย่างรวดเร็ว
ถ้วยน้ำชาเอนเอียง จนน้ำชาร้อน ๆ สาดกระเด็นใส่มือบอบบางของมู่หนิงเอ๋อร์
"อ๊ะ!" นางร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
ซือจ้านเหยียนตกใจ รีบเข้าไปคว้าตัวมู่หนิงเอ๋อร์มาหลบข้างหลัง จับมือของนางขึ้นมาดูอย่างละเอียดด้วยความเป็นห่วง จึงพบว่ามือขาวผ่องไร้ที่ติของนางถูกน้ำร้อนลวกจนบวมแดง
คราวนี้ซือจ้านเหยียนโกรธขึ้นมาแล้วจริง ๆ เขาหันไปตะคอกใส่หนิงอวิ้นหยูวว่า "หนิงอวิ้นหยูว ชักจะมากเกินไปแล้วนะ!"
"มากเกินไป?" หนิงอวิ้นหยูวยิ้มอย่างไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น "หากไม่ใช่เพราะนางยกชาร้อน ๆ มาให้ข้าดื่ม ข้าก็คงไม่ร้อนมือ จนทำชากระเด็นใส่นางหรอก"
มู่หนิงเอ๋อร์สะดุ้งกับคำพูดนี้ของนาง พลันเผยสีหน้าท่าทางไม่รู้เรื่องออกมา
"ท่านพี่ ข้าไม่ระวังเอง ข้าจะรินให้เจ้าใหม่เดี๋ยวนี้" ขณะที่มู่หนิงเอ๋อร์พูด สาวใช้ข้างกายก็บรรจงรินชาอีกครั้ง
แต่ซือจ้านเหยียนเข้ามายืนบังหน้านางไว้ ตะคอกใส่หนิงอวิ้นหยูวด้วยสีหน้าไม่ปราณี "นางรินชาให้เจ้าแล้ว เป็นเจ้าเองที่ไม่ยินยอมดื่ม"
ขณะนี้เอง แขกเหรื่อที่มาเข้าร่วมพิธีต่างก็ชี้หน้าตำหนิหนิงอวิ้นหยูว
"พระชายาหลวงผู้นี้เป็นถึงกุลสตรีจากตระกูลใหญ่ เหตุใดจึงโหดร้ายกับผู้อื่นเช่นนี้ คนงามอันดับหนึ่งของแคว้นหนานแต่งเข้าจวนวันแรกก็ถูกรังแกเสียแล้ว!"
"ช่างเป็นคนอัปลักษณ์ที่ชอบสร้างปัญหาเสียจริง นางคงอิจฉาริษยาในความงามของแม่นางมู่ อิจฉาที่ตนเองไม่ได้ใจของสามี คงทนเก็บเพลิงโกรธมานาน ถึงได้ระบายออกมาแบบนี้!"
"ท่านอ๋องไม่เข้าข้างนางเลยสักนิด แต่นางก็ยังย้ำอยู่นั่นว่าตนเองคือหวางเฟย! ช่างหน้าหนาเสียยิ่งกว่ากำแพงเมืองเสียอีก!"
ท่ามกลางฝูงคน เริ่มมีคนทนดูต่อไปไม่ไหว จึงพุ่งเข้ามาชี้หน้าด่าทอหนิงอวิ้นหยูว
"หนิงอวิ้นหยูว เจ้ามาถึงก็เอาแต่พูดจาไร้สาระ ทั้งยังขี้อิจฉาทำตัวก้าวร้าว ทำร้ายได้แม้กระทั่งคนไม่มีทางสู้ เจ้าจะไปคู่ควรกับตำแหน่งจ้านหวางเฟยได้อย่างไร?"
