บทที่ 8
เมื่อหยุนเอ๋อร์ได้ยินคำพูดนี้ ก็กระทืบเท้าอย่างกรุ่นโกรธอยู่ภายในห้อง
ด้านหนิงอวิ้นหยูวกลับนั่งบนเตียงอย่างสงบนิ่ง เหลือบมองบ่าวชราที่เดินเตร่ไปเตร่มานอกหน้าต่างอย่างเย็นชาราวกับว่าตนเองไม่ได้กำลังถูกพูดถึงอย่างไรอย่างนั้น
นางมองแวบแรกก็จำได้ในทันทีว่าคนที่กำลังพูดอยู่นั้นคือแม่นมหลิว
นางจะจดบัญชีแค้นในวันนี้เอาไว้ในใจก่อน
วันเวลายังอีกยาวไกล กับแม่นมน่ะ ค่อยมาคิดบัญชีทีหลังก็ได้!
ณ พิธีแต่งงาน
หลังจากที่หนิงอวิ้นหยูวเดินออกไปแล้ว ซือจ้านเหยียนก็โอบมู่หนิงเอ๋อร์เดินกลับไปอย่างระมัดระวังต่อหน้าธารกำนัลทุกคน
มู่หนิงเอ๋อร์อิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของเขา สะอึกสะอื้นเสียงเล็กเสียงน้อย "ท่านพี่นาง.... เข้าใจอะไรข้าผิดไปหรือเปล่า เหตุใดวันนี้นางต้องเหยียดหยามข้าถึงเพียงนี้?"
"หนิงเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องไปสนใจนางหรอก เจ้าจะเป็นหนึ่งเดียวในใจของข้าตลอดไป" ซือจ้านเหยียนโอบกอดนางไว้ พร้อมกับตบหลังปลอบประโลนเบา ๆ เอ่ยพูดเสียงอ่อนโยนว่า "หลังจากนี้ เจ้าต่างหากคือนายหญิงที่แท้จริงของจวนแห่งนี้"
มู่หนิงเอ๋อร์หยุดร้องไห้อย่างได้จังหวะ นางเงยหน้าขึ้นเอ่ยถามอย่างเอียงอายว่า "จริงหรือ?"
ซือจ้านเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง
"พี่เหยียน ข้าเจ็บขามากเลย เจ้าว่าข้าจะยังเดินได้อยู่ไหม?" มู่หนิงเอ๋อร์ลูบขาตัวเอง แค่คิดถึงเรื่องในวันนี้ นางก็แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่รอมร่อ
ซือจ้านเหยียนหยิบยาที่เตรียมไว้ออกมาราวกับเสกได้ จากนั้นก็เลิกกระโปรงของมู่หนิงเอ๋อร์ขึ้นอย่างระวังแล้วทำการทายาให้นาง
เมื่อเห็นแผลที่มีทั้งลึกและตื้นบนขาของนาง สายตาของมู่จ้านเหยียนพลันแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนอย่างหาที่เปรียบมิได้
เขาเอ่ยพูดกับมู่หนิงเอ๋อร์เสียงนุ่ม "หนิงเอ๋อร์ ต่อไปนี้ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี จะไม่ให้เจ้าถูกกระทำอีกแล้ว"
ในตอนนี้เอง มู่หนิงเอ๋อร์ก็เอนซบซือจ้านเหยียนด้วยใบหน้าเขินอาย
"พี่เหยียน ข้าเชื่อใจเจ้า"
นางลุ่มหลงอยู่ในสายตาอันรักใคร่ของซือจ้านเหยียน ทันใดนั้นในหัวของนางก็มีภาพที่หนิงอวิ้นหยูวกับซือจ้านเหยียนสบตากัน และภาพใบหน้างามล่มเมืองของหนิงอวิ้นหยูวปรากฏขึ้นมา
ชั่วขณะ นางพลันรู้สึกคันยิบ ๆ ในใจ
"พี่เหยียน ข้าได้ยินมาว่าท่านพี่หน้าตาอัปลักษณ์หาใดเปรียบ แต่พอได้เจอวันนี้ ไม่คิดเลยว่านางจะงดงามปานนั้น!"
“สามวันก่อน นางยังน่าเกลียดจนพาลทำให้ไม่เจริญอาหารอยู่เลย ไม่รู้จู่ ๆ ทำไมวันนี้ถึงได้สวยขึ้นขนาดนี้" ซือจ้านเหยียนเอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่ง
จู่ ๆ ก็สวยขึ้น?
มู่หนิงเอ๋อร์สงสัยเป็นอย่างมาก นางอยากจะรู้จริง ๆ ว่าบนโลกนี้มียาวิเศษที่ทำให้คนเราสวยขึ้นได้จริง ๆ หรือ?
แต่ที่น่าเป็นห่วงมากไปกว่านั้นก็คือบุรุษตรงหน้า
นางกอดเอวซือจ้านเหยียนเอ่ยออดอ้อนว่า "ท่านพี่สวยขึ้นแล้ว เจ้าจะหันไปชอบนาง แล้วเลิกชอบข้าหรือไม่?"
"แน่นอนว่าไม่มีทาง!" ซือจ้านเหยียนเอ่ยพูดอย่างมั่นใจ
"พี่เหยียน เจ้าคือสามีของข้ากับท่านพี่ ถึงเจ้าจะชอบนาง ข้าก็ไม่ควรพูดอะไรมาก หนิงเอ๋อร์เกิดมามีสถานะต่ำต้อย ได้แต่งงานกับเจ้าก็ถือเป็นเรื่องโชคดีอันใหญ่หลวงแล้ว หนิงเอ๋อร์รู้ตัวเองดีว่าไม่ควรหวังอะไรมากมาย..." มู่หนิงเอ๋อร์พูดมาถึงตรงนี้ นัยน์ตาฉ่ำน้ำก็วาววับไปด้วยหยาดน้ำตา
เมื่อผู้เป็นที่รักร้องไห้ ซือจ้านเหยียนก็เจ็บหัวใจเป็นอย่างมาก
เขายื่นมือออกไปกอดมู่หนิงเอ๋อร์ ใบหน้าด้านข้างดูแข็งแกร่งเต็มไปด้วยประกายอ่อนโยน
"หนิงเอ๋อร์ ในสายตาของข้าเจ้าเปรียบเสมือนสิ่งล้ำค่าที่ตีราคามิได้ เจ้าห้ามต่อว่าตนเองเช่นนี้เด็ดขาด" ซือจ้านเหยียนเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างเชื่องช้า "ข้าจะชอบหรือไม่ชอบนาง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์หน้าตาของนาง หนิงเฟิงพ่อของนางร้ายกาจ วางแผนทำร้ายครอบครัวเสด็จแม่ของข้าจนดับสิ้น ทั้งยังบีบให้เสด็จแม่ของข้าอับจนหนทาง
ข้าเกลียดเขาเข้าขั้นสุด แต่เขาก็ยังมีหน้ามาบังคับให้ข้าแต่งงานกับลูกสาวของเขาอีก! "
พูดมาถึงตรงนี้ ซือจ้านเหยียนก็ยิ้มเยาะออกมา
เขาไม่รู้ว่าหนิงเฟิงโง่จริง ๆ หรือว่าแกล้งโง่กันแน่ รู้ทั้งรู้ว่าจวนจ้านอ๋องคือบ่อไฟ แต่ก็ยังกล้าส่งลูกสาวเข้ามาข้างในนี้
เมื่อมู่หนิงเอ๋อร์ได้ยินถ้อยคำนี้ หัวใจที่เหมือนถูกแขวนไว้พลันผ่อนคลายลง
นางยื่นมือออกไปโอบรอบลำคอของซือจ้านเหยียนไว้อย่างออดอ้อนออเซาะ "แค้นพ่อแต่ไปลงกับลูก แบบนี้ไม่ยุติธรรมกับท่านพี่เลย ถึงอย่างไรนางก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย"
ประโยคนี้ถูกกล่าวออกมาอย่างหยั่งเชิง
นางแทบอยากให้หนิงอวิ้นหยูวถูกทรมานจนตาย ๆ ไปซะ แบบนี้นางจะได้นั่งตำแหน่งหวางเฟยเร็ว ๆ นางพูดเข้าข้างอีกฝ่ายจริง ๆ ซะที่ไหน
แต่นางก็กลัวว่าซือจ้านเหยียนจะใจอ่อนให้หนิงอวิ้นหยูว
ซือจ้านเหยียนปฏิเสธทันควัน "หนิงเฟิงส่งนางมา ก็เพราะว่ามีจุดประสงค์อะไรแน่ ๆ ไม่มีทางที่นางจะไม่ทำอะไรเลยระหว่างอยู่ในจวนจ้านอ๋อง ตราบใดที่นางเผยพิรุธออกมา ข้าก็จะไม่ปล่อยนางไปเด็ดขาด!"
ความเกลียดชังที่เผยผ่านแววตาของเขา ทำให้มีแสงบางอย่างวาบเข้ามาในหัวของมู่หนิงเอ๋อร์
ในหัวของนางมีสารพัดวิธีเล่นงานหนิงอวิ้นหยูวให้ตายอย่างหาที่มาที่ไปไม่ได้ผุดขึ้นมาไม่หยุด
รอแค่จังหวะเวลาที่เหมาะสม ตำแหน่งจ้านหวางเฟย ก็ต้องตกมาเป็นของนางในสักวัน
คิดมาถึงตรงนี้ นางก็อิงแอบแนบชิดซือจ้านเหยียนอย่างเอียงอาย พร้อมกับประทับริมฝีปากแดงระเรื่อของตนเองลงไป
ซือจ้านเหยียนก้มมอง ก็เห็นการกระทำเย้ายวนของคนรัก พลันก่อเกิดความเสน่หาและต้องการขึ้นมาในแววตา
เขากระชับกอดเอวมู่หนิงเอ๋อร์แน่น ขณะที่กำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป มู่หนิงเอ๋อร์ก็ส่งเสียงออกมาเบา ๆ ว่า "เจ็บ....."
นางขมวดคิ้ว มองขาที่เต็มไปด้วยบาดแผลของตนเอง
เมื่อครู่ซือจ้านเหยียนลืมตัว จนเผลอไปโดนแผลของนางเข้า
ซึ่งเมื่อซือจ้านเหยียนสังเกตเห็นแผลเหล่านี้ นัยน์ตาลุ่มลึกของเขาก็วาวโรจน์ไปด้วยประกายอันตราย
เขาเอ่ยพูดอย่างเย็นชาว่า "ในเมื่อนางทำให้เจ้าได้แผล ข้าก็จะให้นางมาเป็นคนรับใช้ให้เจ้า จนกว่าแผลเจ้าจะหายดี!"
มู่หนิงเอ๋อร์ไม่ได้ขาดแคลนบ่าวรับใช้ ที่นางต้องการคือตำแหน่งจ้านหวางเฟยต่างหาก
แต่ในเมื่อมีโอกาสได้เหยียบย่ำหนิงอวิ้นหยูว นางก็ต้องคว้าเอาไว้อยู่แล้ว
แต่นางก็ยังแสร้งทำหน้าตกใจแล้วเอ่ยว่า "ท่านพี่เป็นถึงหวางเฟย จะให้มารับใช้ข้าได้เยี่ยงไร? ท่านอ๋อง หากนางเอาไปฟ้องฝ่าบาทหรือจวนอัครมหาเสนาบดีเข้าล่ะ..."
"ถ้านางอยากอยู่ในจวนจ้านอ๋องต่อไป นางก็ไม่คิดที่จะปากสว่างเอาไปพูดข้างนอกหรอก" ซือจ้านเหยียนพูดออกมาอย่างมั่นใจ
"ใครก็ได้ ไปเชิญตัวหวางเฟยมาปรนนิบัติรับใช้หนิงเอ๋อร์นับแต่นี้เป็นต้นไป!"
