บทที่ 7 ภวังค์ (3) จบตอน
“เฮ้ย!!” พวกมันวงแตกทันที ลุกขึ้นชี้หน้าด่าผมที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ในขณะที่ไอ้พันเองก็เหมือนรู้กันเพราะเรานั่งเงียบทุกอย่างเลยชัดขึ้น ผมเป็นพวกไม่ยุ่งเกี่ยวกับการใช้กำลัง เพราะก่อนหน้านั้นผมทำเพื่อชูใจมาตลอด อดทนตลอด ผมยอมทิ้งสันดานหยาบเพื่อเธอ “มึงทำเหี้ยไรวะไอ้สัส!!”
ผมพยายามเป็นคนดีมีการศึกษาไม่เข้ากับลุคเพื่อเธอ แต่ถ้าสุดท้ายเธอไม่เอา ไอ้คำว่าคนดีที่ผมทำมาทั้งปีโดนเขี่ยทิ้ง ผมแม่งก็จะไม่เป็นคนดีเหี้ยไรให้เธอทั้งนั้น
กูก็แค่จะเป็นคนชั่วที่รักเธอเท่าชีวิต
“ถ้าพวกมึงแตะชูใจแม้แต่ปลายเล็บ” ผมถ่มน้ำลายลงพื้น เส้นเลือดที่คอขึ้นเป็นริ้ว
“...”
“กูเอาเลือดหัวพวกมึงออกแน่”
“เฮ้ย ไอ้เด็กติดยามันพูดงี้ว่ะ” พวกมันหันไปยิ้มเยาะให้กัน ผมจ้องพวกมันนิ่ง ก่อนที่คนที่พูดที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจกของอีกฝั่งจะเดินมากระชากคอเสื้อผม “มึงอย่าห้าวให้มากไอ้เด็กเวร พวกกูมีถึงสี่แต่มึงมีสอง รู้อยู่ว่าใครเหนือ”
“...”
“มึง แม่งไม่ตอบว่ะ” มันหันไปพูดกัน ก่อนที่จะหันมาฉีกยิ้มให้ผม “แน่นักเหรอมึง สักทีมั้ย แล้วที่ไปยุ่งกับหญิงพี่กูมึงคิดว่ามึงเป็นใครไอ้สัส”
“...”
“ถามก็ตอบดิวะ”
พลั่ก!!
ไม่รอให้มันได้หยามผมเป็นครั้งที่สอง ผมสวนหมัดเข้าหน้ามันทันทีจนแม่งล้มลงไปกองกับพื้น คนในร้านบางส่วนกรี๊ดอย่างตกใจที่มีเหตุปะทะ ผมตั้งหมัด จ้องหน้าพวกมันอย่างอาฆาต
“ไอ้โจ!” พวกมันเรียกชื่อคนที่ล้มลงไปก่อนที่จะกรูกันเข้ามาเพื่อจะรุมผมคนเดียว ผมส่งสายตาให้ไอ้พัน มันตั้งหลักแล้วต่อยคนที่อยู่ทางซ้ายจนร่วง
ฉายาเก่าผมกับมันที่เป็นเพื่อนคู่เดือดกันมาหลายปี
ชายหมัดหนัก
ผมกระแทกศอกเข้าคางอีกคนในขณะที่ไอ้พันจัดการอีกคน ก่อนที่ผมจะใช้เท้าถีบมันจนกระเด็น คนที่ผมจัดการล้มไปชนโต๊ะจนมันกระจายลงพื้น ผมพ่นลมหายใจ คายความเดือดออกมาพร้อมกับเดินไปหามัน
ผมนั่งยองๆ ต่อหน้ามัน กระชากคอเสื้อมันมาจนชิดหน้า
“พวกมึงได้ส่งใครตามชูใจไปมั้ย” เมื่อผมไม่แน่ใจผมเลยถาม มือผมสั่นแต่พยายามกำหมัดไว้ไม่ให้มันสั่นมากกว่านี้ ใจผมตอนนี้คิดถึงแค่ชูใจคนเดียว
“... อึก”
“ตอบดิ”
“...”
“มึงเอาใครตามชูใจไป กูถาม!!” คราวนี้ผมตะคอกใส่หน้ามัน ไอ้ตัวสูงที่เป็นแค่ลูกไก่ในกำมือผมได้แต่หน้าซีด เพราะผมต่อยมวย ผมรู้วิธีเตะเข้าจุดที่ให้ไม่สามารถขยับตัวได้อีก มันทำไรผมไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้แต่แรงยังไม่มี
“นะ... นี่มึงเป็นผัวอีนั่นจริงๆ เหรอ”
ผมฟาดหน้ามันไปแรงๆ ด้วยหลังมือ
“กูถาม ตอบให้ตรงคำถาม”
“อะ... ไอ้โอห์ม! มันให้พวกกูดูทางมึงไว้ แล้วมันจะส่งเด็กไปขืนผู้หญิงให้ยอมเป็นเมียมัน” มันยอมตอบแต่โดยดี ผมเบิกตากว้าง เส้นเลือดขึ้นที่กรามเป็นริ้ว ผมกระชากคอมันเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น ก่อนที่จะหันไปบอกไอ้พันอย่างร้อนรน
“พัน มึงจัดการที่เหลือ กูจะไปหาชูใจ!”
“เออได้ รีบไป!”
ผมพยักหน้าให้มันแล้ววิ่งสี่คูณร้อยไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันเก๋าของตัวเอง ก่อนที่จะขับออกไปในขณะที่โทรหาชูใจไปด้วย
แต่ไม่มีใครรับสาย ใจผมแม่งยิ่งร้อน
ผมบิดรถไปจนสุดแฮนด์ ขับปาดรถคันนู้นคันนี้เพื่อไปหาชูใจให้เร็วที่สุด
ถ้าไม่ทันแล้วเธอเป็นอะไรไป ผมจะจำไปจนวันตายว่าผมมันไร้น้ำยา!!
[จบพาร์ท : โหน]
ยี่สิบนาทีที่แล้ว
ฉันพยายามเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ฉันไม่ได้ร้องไห้หนัก แต่ใจฉันตอนนี้มันดูเหมือนจะผิดหวัง ที่สุดท้ายแล้วโหนก็ไม่ต่างกับผู้ชายคนอื่น เขาฉวยโอกาสตอนที่ฉันเมา ฉันไม่รู้ว่าเขาทำอะไรไปบ้าง ไม่อยากฟัง เลยตัดพ้อเขาแล้วสาวเท้าออกมาจากตรงนั้น
ฉันเม้มริมฝีปากแน่นตอนเดินออกมาพ้นจากร้านเหล้า รู้สึกช็อกที่รู้ว่าโหนแอบรักฉันมานานแล้ว เพราะที่ผ่านมาเขาเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมาตลอด
นั่นมันคือการเสแสร้งทำเป็นดีเหรอ? ใช่รึเปล่านะ
“คบกับเราได้มั้ยวะ”
“...”
“เชื่อเรา เราจะเป็นผู้ชายธรรมดาคนนึงที่รักเธอมากกว่าผู้ชายคนอื่นเป็นล้านเท่า”
ฉันนึกถึงคำพูดของโหน แล้วได้แต่กัดปากตัวเอง
เพื่อนที่แสนดีของฉันตอนนี้ ฉันมองเขาเป็นผู้ชายคนนึงไปแล้ว
ฉันเดินไปเรื่อยๆ ในขณะที่คิดไม่ตกกับคำสารภาพของโหน คิดอยู่อย่างนั้นจนมาถึงหน้าหอพักตัวเอง
ฉันชะงักไปเมื่อเห็นว่าพี่โอห์มยืนดักรออยู่หน้าตึก
ฉันสบตาเขา ก่อนที่จะหันหน้าหนีแล้วทำท่าจะเดินผ่านไป แต่พี่โอห์มก็คว้าแขนฉันไว้ได้ก่อน
“จะไปไหนคะชูใจ” เขาเรียกชื่อฉันห้วนๆ มือหนาเลื่อนลงมาเปลี่ยนเป็นโอบเอวฉันอย่างน่าเกลียด “พี่ว่าเราต้องคุยกันหน่อย หนูหนีหน้าพี่ทำไมคะ”
ฉันมองเขาอย่างหวาดหวั่น เพราะพี่โอห์มไม่ได้มาคนเดียว เขามีเพื่อนมาด้วยอีกสองคน ท่าทางน่ากลัวจนฉันต้องพูดออกไปเสียงแผ่ว
“พี่โอห์ม ชูใจไม่ได้อยากคบกับพี่โอห์มต่อ ชูใจบอกไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนะคะ”
“พี่ไม่ได้ให้ชูใจเป็นคนตัดสินใจนะคะ พี่จะตัดสินเองว่าเราควรคบกันต่อรึเปล่า” เขาฉีกยิ้ม ก่อนที่จะยื้อเอวฉันให้เดินไปกับเขาพร้อมกับส่งสัญญาณให้เพื่อนของเขาตามมาด้วย
ที่หอนี้คนเข้าออกได้ทั้งหญิงทั้งชาย ก็คล้ายๆ คอนโด ฉันเลยไม่สามารถไล่เขาได้ ฉันไม่กล้าจริงๆ เพราะเพื่อนของเขายืนคุมเชิงอยู่ด้านหลัง
ในใจฉันตอนนี้นึกถึงใครบางคน
คนที่ฉันเรียกเขาว่า ‘เพื่อน’ มาตลอด คนที่ฉันนึกถึงคนแรกเวลามีปัญหา
... โหน
[พาร์ท : โหน]
ผมบึ่งรถไปถึงหอชูใจภายในเวลาไม่กี่นาที ใจแม่งร้อนรนไปหมด
ผมมีคีย์การ์ดสำรองห้องของเธอ จำได้ปะ ตอนนี้ผมแทบไม่คิดเหี้ยไรทั้งนั้น สาวเท้าขึ้นไปในขณะที่มือกำคีย์การ์ดแน่นจนมันแทบแหลกคามือ
ผมไม่อยากคิดว่าผมมาช้าไป เพราะนี่คือโคตรรีบที่สุดในชีวิต
ผมขึ้นลิฟต์ กระดิกตีนอย่างอยู่ไม่สุขในนั้น ความเครียดก่อตัว ผมกัดฟันแน่นตอนที่ประตูลิฟต์เปิดเพราะห้องชูใจอยู่ชั้นที่ไม่สูงมาก เหงื่อผมแตก รีบวิ่งไปหน้าประตูห้องของเธอ กดคีย์การ์ดแล้วเปิดประตูเข้าไป
พลั่ก!
แต่ทันทีที่เปิดประตูออกมา ผมก็โดนผู้ชายคนนึงในห้องชูใจเอาไม้หน้าสามฟาดที่หน้าจนเซล้มลงไปกองกับพื้น
“ลากมันเข้ามา” เสียงที่ผมคุ้นว่าเป็นไอ้เหี้ยโอห์มดังขึ้นในห้อง ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนมันสองคนเดินมาล็อกตัวผมแล้วลากเข้าไปข้างใน ผมรู้สึกปวดหัวหนึบๆ เหมือนหัวจะแตก
เลือดลงหัวว่ะ
“กูคิดแล้วว่ามึงต้องมา” มันเปรยเสียงเหี้ยม ส่งสัญญาณให้เพื่อนมันดันผมให้นั่งยองๆ ที่พื้นห้อง ผมเงยหน้าขึ้นมา เห็นชูใจที่นั่งอยู่บนโซฟา มือเธอถูกมัด ปากเธอถูกปิดด้วยผ้าผืนหนา ร่างเล็กเห็นผมแล้วดิ้นไปมา พยายามจะเรียกชื่อผมให้ช่วยแต่ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงอู้อี้ของเธอ
น้ำตาเธอคลอเบ้า ผมเบิกตากว้าง
“มึงแม่งระยำ!!” ผมตวาดเสียงดัง ตะโกนสุดเสียงให้มันพุ่งเป้ามาที่ผมแทนชูใจ “มึงทำผู้หญิงไม่มีทางสู้ลงได้ไงวะ ไอ้สันขวาน!”
“ทำให้มันพูดไม่ได้ไปชั่วคราวหน่อยดิ๊” ไอ้โอห์มพูดกับเพื่อนมัน ไม่สะทกสะท้านในสิ่งที่ผมก่นด่า หลังจากนั้นผมก็ถูกเพื่อนมันคนนึงล็อกตัวไว้ให้ลุกขึ้นยืน ส่วนอีกคนง้างหมัดต่อยปากผมเต็มแรง
พลั่ก!!
“... อั่ก!” ผมทรุด แต่ก็โดนล็อกให้ลุกขึ้นมาใหม่
“ปากดีนักนะมึง ทีนี้รู้ฤทธิ์กูรึยัง น้องชูใจเขาเป็นเมียกู ไม่ใช่ไอ้ขี้ก้างติดยาแบบมึง หัดสำเหนียกตัวเองหน่อยก็ดีว่ะ”
“เฮ้ย ไอ้โอห์ม กูชักรอนานละ เมื่อไหร่จะได้ลงแขกน้องชูใจของมึงวะ กูจะได้กดถ่ายคลิป” เพื่อนที่เป็นคนต่อยผมเงยหน้าพูดกับแม่ง ไอ้เหี้ยโอห์มหัวเราะ ก่อนที่มันจะเดินไปนั่งข้างๆ ชูใจที่โดนมัดอยู่บนโซฟา ก่อนที่จะผลักเธอนอนแล้วขึ้นคร่อมทันที
“อื้อๆๆๆ!” ชูใจดิ้นครวญครางอย่างหวาดกลัวสุดชีวิต ผมถ่มเลือดลงพื้น พยายามจะพุ่งไปหาไอ้เหี้ยโอห์มแต่โดนล็อกคอไว้จนล้มไปกับเพื่อนมัน
“ไอ้เหี้ย หยุดนะ อย่าทำชูใจ!!!” ผมตะโกนลั่น หน้าแดงก่ำไปด้วยความเจ็บใจ
ทำไมชูใจแม่งต้องมาเจอไรแบบนี้ด้วยวะ ถ้าจะผิดแม่งก็คงเป็นผมเอง ผมไม่ตามชูใจไป ผิดที่ผมไม่สารภาพรักกับเธอเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ผิดที่ผมไม่กันเธอจากมันให้เด็ดขาด
ผมไม่โทษใครเลย นอกจากตัวเอง
“นิ่งๆ หน่อยน้องชูใจ พี่จะสัมผัสหนูเบาๆ แน่ ทำตัวเป็นเด็กดีหน่อย” ไอ้เหี้ยโอห์มพูดกับชูใจ สายตาที่พร่ามัวเพราะเลือดที่หล่นมาปรกหน้าเห็นเป็นภาพมันกำลังพยายามปลดกระดุมชุดนักศึกษาของชูใจ
พอแม่งปลดไม่ทันมือ ไอ้เหี้ยนั่นก็ฉีกชุดเธอจนขาดยับ ชูใจร้องไห้ออกมา น้ำตาเธอไหลเป็นสาย เธอถูกมัดไว้เลยไม่สามารถปกปิดเสื้อกล้ามตัวบางกับชั้นในที่เผยเรือนร่างเธอได้
นาทีนั้นผมคิดเหี้ยไรไม่ออกนอกจากต้องคว้าของใกล้มือมา แล้วฟาดหัวพวกมันให้ตาย
สิ่งที่ผมคว้าได้คือไม้หน้าสามที่ตกบนพื้นตอนที่ผมกับเพื่อนไอ้เวรนั่นตะลุมบอนจนล้มลงไปกองกับพื้น ไม้หน้าสามอันเดียวกับที่มันใช้ฟาดหัวผม
“เฮ้ย!”
พลั่ก!!
ไม่ทันที่มันจะได้ตกใจจบ ผมหันกลับไปหวดไม้หน้าสามเข้าหน้าไอ้คนที่ล็อกหลังผมเต็มแรงจนมันล้มลงไปกองกับพื้น เพื่อนอีกคนที่ตั้งท่าถ่ายคลิปชูใจหันมาจะฟาดโทรศัพท์ที่ยังกดถ่ายคลิปอยู่ฟาดหน้าผม แต่ผมคว้าข้อมือมันไว้ได้ด้วยทักษะมวยที่เรียนมา กำแน่นจนแทบแหลกตอนที่เหวี่ยงไม้หน้าสามฟาดหัวมันอีกคน
มันล้มลงไปนอนโอดโอยอยู่บนพื้น ผมหอบหายใจ ก่อนที่จะใช้เท้ากระทืบหน้าเมื่ออีกคนพยายามลุกขึ้นมาสวนผม
สายตาผมมันไม่ใช่ไอ้โหน เพื่อนที่แสนดีของชูใจอีกแล้ว
กูจะฆ่ามัน
ฆ่ามันให้ตายคามือกู
“มึง อย่าเข้ามา” ไอ้เหี้ยโอห์มพอไม่มีพรรคพวกก็เหมือนหมา มันผุดลุกขึ้นจากร่างชูใจที่นอนร้องไห้ ในขณะที่ผมกำไม้หน้าสามแน่น เส้นเลือดที่แขนขึ้นจนปูด “อย่าเข้ามา กูไม่ได้ตั้งใจมายุ่งกับเมียของมึง”
“ง่ายดีนี่” ผมแค่นหัวเราะ เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อมันที่ถอยหลังหนีไม่ทันมาชิดหน้า “มึงพวกเยอะไม่ใช่เหรอ เรียกมาสิไอ้เวร”
“...”
“เงียบทำไม ทีงี้มึงสงบปากเลย? ทีตอนมีพวกข่มกูจัง” ผมกัดฟันพูดเสียงเย็น ก่อนที่จะตบหน้ามันไปสุดแรงจนฟันมันหลุดออกมาซี่นึง กระเด็นหลุดลงไปที่พื้นห้อง เลือดที่มุมปากสาดกระจาย “ดอกแรก ให้กับความเหี้ยของมึง”
ผมตบหน้ามันไปอีกที คราวนี้เน้นๆ จนเลือดกบปาก
“ดอกที่สอง ที่มายุ่งกับผู้หญิงของกู”
“... อั่ก”
ผมนิ่งไปเมื่อนึกไรออก ผลักมันลงไปนอนกับพื้นในขณะที่หันไปทางชูใจ สายตาของผมเปลี่ยนไป แกะผ้าปิดปากเธอออก ในขณะที่จะฉุดแขนเธอขึ้นมาเพื่อปลดเชือกที่มัดแขนเธอไว้
“ฮึก... โหน” ชูใจมองผมทั้งน้ำตา ผมจ้องหน้าเธอ ก่อนที่จะดึงชายเสื้อตัวเองมาเช็ดน้ำตาให้เธอลวกๆ
“ไม่ต้องกลัว”
“...”
“เราอยู่นี่แล้วว่ะ ชูใจ”
