บทที่ 6 พบกันอีกครั้ง

สามเดือนต่อมา

"ประชุมเสร็จแล้วเข้ามาหาพ่อด้วยนะ" คำสั่งด่วนจากท่านประธาน ทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เวลาปกติพ่อเธอจะใจดีเสมอ แต่ถ้าเป็นเรื่องงานท่านก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน อิงวราไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิดพลาด พ่อถึงเรียกเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวแบบนี้

หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน หลังจากรออยู่พักใหญ่ เลขาหน้าห้องแจ้งว่ามีแขกสำคัญมาขอพบท่าน เธอจึงต้องรออยู่อย่างนั้น แม้แต่ลูกก็ไม่ได้อภิสิทธิ์ใดๆ เพราะเวลาที่อยู่บริษัท เธอก็เป็นแค่พนักงานคนหนึ่ง

"มาแล้วหรืออิง มารู้จักกับคุณราเชนทร์สิลูก

คุณราเชนทร์เป็นหุ้นส่วนที่จะมาร่วมเปิดบริษัทใหม่กับเรา"สิ้นเสียงบิดาร่างบางก็ยืนค้างอยู่กับที่ แข้งขาพากัน

อ่อนแรง เมื่อได้ยินคำว่าราเชนทร์ มือบางกำเข้ากันจนเหงื่อซึมฝ่ามือ เมื่อคนที่นั่งหันหลังให้เธอหันหน้า ตาสองคู่สบกัน คนที่พ่อเธอเรียกว่าราเชนทร์ ค้อมศีรษะให้เธอเป็นการทักทาย

"เป็นอะไรไป มานี่สิลูก" คุณภาคภูมิเรียกลูกสาว เมื่อเห็นอาการหยุดชะงักของเธอ

"คุณราเชนทร์ครับ นี่อิงวราลูกสาวของผม คนที่ผมจะให้บริหารงานที่เราจะร่วมทุนกัน ผมแก่แล้วและมีลูกสาวแค่คนเดียว คงต้องเริ่มวางแผนใหม่ ถ้ายังไงฝากคุณราเชนทร์แนะนำด้วยนะครับ"

"ยินดีครับ" ราเชนทร์ตอบสั้นๆ ตาคู่คมยังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้ารูปไข่ ที่ค่อยๆเปลี่ยนสีจนกลายเป็นซีดเผือด ด้วยสายตาที่อยากจะคาดเดา ตากลมโตกะพริบถี่ๆ เมื่อสติกลับมาอยู่กับตัว ประนมมือไหว้เขาอย่างสวยงาม หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ โลกคงไม่กลมใช่ไหมคนที่ชื่อราเชนทร์มีตั้งมากมาย เขาคนนี้คงไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นหรอก ปลอบใจตัวเองเมื่อต้องฝืนเดินไปหาบิดา เพื่อเผชิญหน้ากับเขา

"พ่อจะให้อิงดูแลบริษัทที่กำลังจะเปิดใหม่ อิงต้องทำงานกับคุณราเชนทร์ ฝากเนื้อฝากตัวกับคุณราเชนทร์ไว้นะ งานนี้อิงต้องลุยเดี่ยว"

"อิงไม่มีความสามารถหรอกค่ะ อิงขอเป็นลูกน้องคุณพ่อแบบนี้ดีกว่าค่ะ" หญิงสาวปฏิเสธอย่างมีมารยาท เพราะไม่อยากทำงานร่วมกับเขา ต่อให้เป็นแค่คนชื่อเหมือนก็เถอะ แต่เธอก็ไม่สบายใจ ภาพเหตุการณ์วันนั้นยังฝังอยู่ในหัว แม่จะผ่านมานานแล้วก็ตาม

ราเชนทร์ยกยิ้มมุมปาก เมื่อคนตรงหน้าปฏิเสธเขาเองก็เป็นแค่คนที่เจ้านายส่งมาเจรจา ไม่ใช่เจ้าของอย่างที่คุณภาคภูมิเข้าใจ เรื่องงานภูดิศมักจะให้เขาออกหน้าเสมอ

"พูดอะไรอย่างนั้นล่ะลูก อิงเป็นรองประธาน

อีกหน่อยก็ต้องรับช่วงต่อจากพ่อ มานั่งนี่ลูกมาคุยรายละเอียดกับคุณราเชนทร์ ปรึกษากันไว้ก่อน เวลามีปัญหาจะได้ช่วยกันแก้ไข"คุณภาคภูมิกวักมือเรียกลูกสาวให้มานั่งข้างๆ โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของลูกเลยสักนิด อิงวราสูดลมหายใจเข้าปอด เมื่อต้องไปนั่งร่วมวงกับเขา พ่อเธอตั้งใจเรียกเธอมาคุยกับเขา เพราะท่านไม่ชอบยุทธนา นี่คงเป็นอีกวิธีที่พ่อคิดจะแยกเธอกับคนรักออกจากกัน อดทนเอาไว้ถ้ามีโอกาสเธอจะชิ่งหนีทันที เอาเรื่องงานมาอ้างพ่อคงเข้าใจ

ราเชนทร์ลอบมองคนที่นั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ไม่เจอกันหลายเดือน อิงวราสวยขึ้นเป็นกอง เสียดายแทนภูดิศที่ไม่กลับมากินซ้ำ ถ้ามาเห็นตอนนี้ บางทีเจ้านายเขาจะเปลี่ยนใจก็ได้

ไม่นานคุณภาคภูมิก็ขอตัวออกไปข้างนอก เพราะมีประชุมด่วนเข้ามา ทิ้งให้หนุ่มสาวอยู่กันตามลำพัง อิงวรานั่งเกร็งเหงื่อซึมฝ่ามือ ในขณะที่ราเชนทร์ก็เอาแต่นั่งมองหน้าเธอนิ่งๆ หลายครั้งที่ตากลมโตมองใบหน้าของเขา คืนนั้นถึงแม้จะมืดสลัวและมึนเมาจนไม่มีสติ แต่เธอก็พอจำลักษณะของผู้ชายคนนั้นได้ เขาเป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ ฝ่ามือหนานิ้วเรียวยาว เธอจำสัดส่วนเหล่านี้ได้แม่นยำ เพราะเขาใช้มันสำรวจเธอ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ใบหน้าสวยก็เห่อร้อน ช่องท้องขมวดเกร็งอย่างไม่มีสาเหตุ มือบางที่จับกันไว้จิกฝ่ามือตัวเอง ที่คิดเตลิดไปไกล เธอไม่ควรรู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ในคืนนั้นทั้งสิ้น เพราะเธอถูกข่มขืน

"เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ" ราเชนทร์ถามและเป็นคำถามที่อิงวราตอบเขาไม่ได้ ถ้าผู้ชายคนนี้คือคนในคืนนั้นจริงๆ เธอจะทำอย่างไร

"คำถามของผมยากไปเหรอครับ" ราเชนทร์ถามคำถามที่สอง เมื่อเธอยังไม่ตอบโต้หรือพูดคุยกับเขา

"ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะรื้อฟื้นความทรงจำให้

เผื่อคุณจะจำอะไรได้บ้าง" ไม่พูดเปล่าราเชนทร์ยังโน้มหน้าเข้ามาใกล้กับใบหน้าของเธอ ไอร้อนจากลมหายใจของเขา เป่ารดแก้มและลำคอขาวเนียน จนอิงวราต้องย่นคอหนี

"มะ...ไม่ต้อง เราไม่เคยเจอกันมาก่อนค่ะ" ตอบรัวเร็วพร้อมกับเบี่ยงตัวหลบ เมื่อราเชนทร์ยังไมยอมถอยออกไป

"เหรอครับ แปลกนะทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นหน้า

คุณจัง"

"นะ...แน่ใจค่ะ คุณจะคุยเรื่องงานไม่ใช่เหรอคะ"พูดจบแฟ้มงานบนโต๊ะก็ถูกยื่นมาที่หน้าเขา คนตัวเล็กถอยหนีไปจนแผ่นหลังชิดกับพนักเก้าอี้ ราเชนทร์อมยิ้มเมื่อแฟ้มมากมายมากองอยู่ตรงหน้า เพราะอิงวราต้องการใช้มันดึงความสนใจของเขาออกจากเธอ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเป็นคำถาม เมื่อมองกองแฟ้ม

"จะให้ผมอ่านหมดนี่เลยเหรอครับ" คำถามของเขาช่วยดึงสติของเธอให้กลับคืนมา ถึงแม้จะใกล้ชิดและสัมผัสลมหายใจของกันและกัน แต่อิงวราก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นเขา เพราะน้ำหอมที่ระเหยออกมาจากตัวเขา เป็นคนละกลิ่นกับที่เธอได้กลิ่นในคืนนั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป