บทที่ 4 บทที่ 3

บทที่ 3

“วันนี้ต้องเข้าไปประชุมที่กาสิโนนะครับ” เธอพยักหน้ารับ...เธอจะบินไปไทยอยู่รอมร่อ ยังจะใช้งานเธอจนวินาทีสุดท้ายจริง ๆ

หญิงสาวที่สวมเสื้อยืดสีขาวด้านใน สวมทับด้วยแจ็กเกตหนังสีดำ กางเกงยีนขายาวสีเข้ม รองเท้าบูตดำ สวมแว่นกันแดดปิดบังใบหน้า ก้าวลงจากรถท่ามกลางการ์ดที่ล้อมนับสิบคน

ประตูกาสิโนถูกเปิดออกพร้อมกับคนที่มายืนต้อนรับ...เธอหันไปมองหน้าริค

“ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องมา...” เธอไม่สนใจคำทักทายและก้าวขายาวหนีเพื่อเข้าไปด้านในพื้นที่ส่วนตัว

กลิ่นบุหรี่คละคลุ้งปะทะใบหน้าสวยทันทีที่ประตูห้องทำงานเธอเปิดออก...เธอหันหน้ามองริคที่ทำหน้านิ่งใส่ และตวัดสายตากลับไปมองผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามพ่อเธอ

“..........” เธอทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามและยกขาขึ้นวางบนโต๊ะอย่างถือดี

“มีนา...เอาขาลงจากโต๊ะ”

“Sorry!” เธอยกขาออกจากโต๊ะ ความยาวของขาเกือบจะฟาดหน้าผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามเธอ

“อเล็กซ์ครับ...” คนไทย...เธอกวาดสายตามองเขาไปทั่วร่าง จากท่านั่งคงสูงน่าดู...หน้าตาก็ไม่ได้แย่ แต่คล้ำไปหน่อย...

“หนูไม่ค่อยถูกใจเท่าไร…พ่อก็รู้ว่าหนูชอบผู้ชายขาว” เธอพ่นอังกฤษออกมาอย่างไม่ไว้หน้า ผู้ชายคนนั้นยกยิ้มและค้อมหัวให้

“..........” ไมเคิลส่ายหัวให้กับกิริยาที่ลูกสาวแสดงออกต่อหน้าแขก...เธอมันเด็กดื้อ

“ผมเป็นเลขาคุณ ‘วาเลน’ ครับ...” ไม่ใช่เขาอย่างนั้นเหรอ?

“แล้วไง?”

“มีนา...” เธอถอนหายใจออกมาเพราะพ่อเอาแต่ปรามเธอ!

“คุณวาเลนท่านติดธุระมาพบคุณตามนัดไม่ได้...” เธอที่ทำหน้าเยาะเย้ยมองผู้เป็นพ่อ ที่เป็นคนจัดการเสร็จสรรพ แล้วเป็นไง...ผู้ชายเขาเชิดหนีซะนี่!

“มาหรือไม่มาแล้วใครสน?” ภาษาไทยเสียงหวานเอ่ยออกจากปากบาง ทำให้ผู้เป็นพ่อขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจว่าลูกสาวเขาพูดอะไร

“ท่านยุ่งมากจริง ๆ ครับ” เธอยักไหล่ใส่และหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อ

“แค่วันแรกยังมาตามนัดไม่ได้...พ่อจะฝากชีวิตลูกสาวสุดที่รัก ที่พ่อภูมิใจนักหนาไว้กับเขาหรือคะ!”

“..........” สายตาคมสีเทาจ้องเธอนิ่ง เธอสบตากลับและยิ้มหวานให้ ก่อนจะขยับตัวโผเข้ากอดเอวผู้เป็นพ่อไว้หลวม ๆ

“โอเคค่ะ...มัน เอ้ย! เขาอาจจะติดธุระจริง ๆ ก็ได้!” มือหยาบกร้านลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่ ถึงเธอจะดื้อไปหน่อย...แต่เธอก็ไม่เคยต้องทำให้เขาผิดหวัง

“พรุ่งนี้ออกเดินทางไปพร้อมคุณอเล็กซ์เลยนะ” เธอชะงักนิ่ง แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป...นี่พ่อกะจะจับเธอใส่พานไปเกยเลยอย่างนั้นสิ!!

“ค่ะ งั้นหนูไปเตรียมตัวก่อน...ว่าจะใส่ชุดไหนเข้าหอดี!” ร่างบางระหงลุกขึ้น และหมุนตัวเดินนวยนาดออกไป

ชายสองคนในห้องสบตามองกัน...เสียงหัวเราะในลำคอที่ดังจากสปีกเกอร์โฟน โทรศัพท์มือถือราคาแพงที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะที่เธอยกขาขึ้นมาวางไว้เมื่อกี้

“เธอน่าสนใจดีนะครับ” เสียงนุ่มทุ้มดังออกมาจากโทรศัพท์ ไมเคิลขยับตัวเล็กน้อยอ่านเอกสารในมืออีกครั้งอย่างตั้งใจ

“เธออาจจะซนไปบ้าง...อย่าถือสาหาความเธอเลยนะวาเลน” เสียงหัวเราะร่วนดังสวนออกมา

“ผมว่าผมอาจจะเจอศึกหนักแล้วละครับ...” ไมเคิลใช้ปากคาบปากกาและเปิดปลอก ก่อนจะตวัดลายเซ็นและประทับลายนิ้วมือลงไปอย่างเร่งรีบ เพราะกลัวว่าคนในสายจะเปลี่ยนใจ

“ผมเซ็นแล้ว...คุณคงเปลี่ยนใจไม่ทันแล้ว!”

“ผมต้องขอเช็กสภาพของหน่อยนะ...ว่าดีและคุ้มราคาตามที่คุณพูดหรือเปล่า”

“เธอไม่เคยมีแฟน...คุณไม่ต้องกังวลใจเรื่องนั้น” คนในสายถึงกับแสยะยิ้มและมองคนในโทรศัพท์อย่างสมเพช

“ของถึงไทยเมื่อไหร่...ผมจะบอกว่าใบสุดท้ายผมจะเซ็นไหม?” คำพูดของเด็กเมื่อวานซืนอย่างเขา ทำให้ไมเคิล ดาเรล ผู้ไม่เคยเป็นรองใครถึงกับกำมือแน่นด้วยความโมโห

“อย่าโมโหไปเลยครับ...สิ่งที่คุณได้กลับไปมันคุ้มกว่าสิ่งที่คุณเสียไปแน่นอน!”

‘ท่องไว้! น่านน้ำไทย!! แกจะขนอะไรก็ได้โดยไม่ต้องผ่านใครอีกแล้ว!!’ ไมเคิลหอบหายใจถี่และพยายามระงับอารมณ์โกรธอย่างมากที่สุด!! มีนา! เธอคงจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง!!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป