บทที่ 1 ตอนที่1
พระเอก
ชื่อจริง จักรภัทร ราชนาโยวงศ์ติชัย ชื่อเล่นเจ้าสัว อายุ32ปี
มาเฟียหนุ่มหล่อมากความสามารถมากฝีมือ หล่อ ฉลาด เก่ง ผู้นำแก๊ง มังกรแดง
หนุ่มใหญ่พูดน้อย เงียบขรึม เสือยิ้มยาก
“มาหาป๋าสิอิหนู”
นางเอก
ชื่อจริงรัชมล กูลสกุล ชื่อเล่นเวียงพิงค์หรือหนูผิง อายุ19ปี
นิสัยดี อ่อนน้อม เรียบร้อย เก่งงานบ้านงานเรือน ขยัน อ่อนแอ
เด็กสาวผู้น่าสงสาร อาศัยอยู่กับพ่อแท้ๆและเเม่เลี้ยงพร้อมกับพี่สาวต่างแม่หนึ่งคน สองคนแม่ลูกลุมกันกลั่นแกล้งเธอเหมือนในการ์ตูนเจ้าหญิงที่เธอชอบดูตอนเป็นเด็กๆ เธอไม่ได้เรียนหนังสือเพราะเธอต้องทำงานบ้านให้พี่สาวและเเม่เลี้ยงของเธอ เธอมีความฝันที่อยากจะเป็นคุณหมอเพราะพ่อของเธอท่านป่วยหนัก เธออยากจะมารักษาท่าน แต่เธอก็ทำตามความฝันของเธอไว้ไม่ได้
“ท่านเจ้าสัวเรียกหนูผิงเหรอคะ?”
“ฉันบอกเธอว่ายังไง”นำ้เสียงทุ่มตำ่กับดวงตาเรียวคมนั้นมองตำ่ลงมาที่ร่างบาง
“ป๋าขาเรียกหนูผิงเหรอคะ?”เด็กสาวรนรานรีบพูดใหม่ตามคำที่เจ้าสัวเคยบอกให้เธอเรียกเขา
ตอนที่1
บ้านหลังน้อยของเวียงพิงค์
เวียงพิงค์....
“อีผิง! แกรีดเสื้อฉันยังไงเนี่ย แกเอาลูกกระตามองรึป่าว!!!”เสียงของพี่แพรวาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจฉันที่กำลังนั่งซักผ้าอยู่ต้องรีบล้างมืออย่างไวและรีบลุกขึ้นยืนวิ่งเข้าไปหาเธอ
“พี่แพรมีอะไรรึป่าวคะ?”ฉันรีบเข้าไปยืนและก้มหัวถามเธอ ในมือของพี่แพรวามีเสื้อนักศึกษาสีขาวตัวเล็กของเธออยู่ที่เสื้อมีรอยไหม้สีนำ้ตาล ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีรอยไหม้บนเสื้อของเธอนั้นได้ยังไง
“หึ ยังจะมีหน้ามาถามฉันอีกเรอะ แกนี้มันโง่ อีโง่ๆๆๆๆๆๆๆๆ”พี่แพรวาว่าฉันพลางจิ้มนิ้วมือของเธอมาบนขมับของฉันเธอจิ้มแรงมาก จนฉันรู้สึกเจ็บ
“ผิงไม่ได้รีดเสื้อพี่แพรไหม้นะคะ ผิงไม่ได้ทำ”ฉันทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพลางยกมือไหว้พูดบอกเธอว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำ
“ถ้าแกไม่ทำ แล้วใครจะทำ ฉันเป็นคนทำเองอย่างนั้นเหรอ!!!”เสียงพี่เเพรวาตะโกนลั่นบ้านทำให้ฉันตัวสั่นด้วยความกลัว
“มีอะไรเหรอจ๊ะลูกแพร?”เสียงคุณน้าพราวมณีพูดขึ้นข้างหลังพี่แพรวา ฉันรีบก้มหน้าหลบสายตาคุณน้าพราวมณีทันที
“ก็นังผิงน่ะสิะคะ มันทำเสื้อแพรไหม้ แล้วที่นี้แพรจะทำยังไงล่ะคะ แม่เอาเงินมาให้แพรเลย แพรจะไปซื้อชุดนักศึกษาใหม่!”พี่แพรวาหันไปบอกคุณน้าพราวมณีพลางแบมือขอเงินเธอ เธอก็มองมาที่ฉันทันทีด้วยสายตาดุดันน่ากลัวฉันก้มหน้าลงหลบสายตาของเธอตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
“อีผิง เงินค่าขนมเมื่อวานที่แกเอาไปขายน่ะอยู่ไหน!!”คุณน้าพราวมณีพูดขึ้น รีบทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเธอทันที เงินค่าขนมที่เธอพูดถึงคือขนมตาลที่ฉันเป็นคนทำเองเพราะฉันไปขอวิธีทำจากคุณยายข้างบ้านมาและฉันก็นำมาทำขายเองและเงินนั้นฉันจะเอาไปเป็นค่าสมัครเรียนน่ะ
“เงินนั้นผิงจะเอาไปเป็นค่าสมัครเรียนนะคะคุณน้า”ฉันเอ่ยบอกคุณน้าพราวมณีไปเธอก็มองฉันด้วยสาสตาไม่พอใจ
“แกจะเอาไปเรียนทำไม โง่ๆๆแบบแกน่ะไปอยู่ในซ่องโน้น ไปนอนขายตัวน่าจะดีกว่าน่ะ!!”คุณน้าพราวมณีเดินเข้ามาหาฉันพลางเอ่ยบอกฉันด้วยนำ้เสียงเสียงดัง ฉันรีบยกมือขึ้นไหว้เธอทันทีด้วยความกลัว
“คุณน้าค่ะ แต่ผิงอยากเรียนจริงๆนะคะ”ฉันพนมมือไหว้เธอ เธอก็มองฉันด้วยสายตาดูถูกแบะเกียจชังที่จริงเธอเป็นน้องสาวของแม่ฉัน แม่ของฉันท่านล้มป่วยเเละเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน คุณน้าพราวมณีเลยย้ายเข้าอยู่ที่บ้านหลังนี้บ้านของคุณแม่ฉันและเธอก็ได้เสียกับคุณพ่อของฉัน
“ไม่ต้องเรียนหรอกแกน่ะ เอาเวลาไปนึ่งขนมขายโน่นไป!!”พี่เเพรวาเอ่ยบอกฉันพลางเดินเข้ามากระชากผมฉันอย่างแรง
“พี่แพรผิงเจ็บ อึก”ฉันร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บพลางยื่นมือขึ้นไปจับมือของเธอให้เอาออกไปจากผมฉัน
“อี๋ๆๆๆแกเอามือสกปรกมาจับมือฉันทำไม!!!”พี่แพรวาโวยวายขึ้นพลางผลักศีรษะของฉันอย่างแรงจนทำให้ศีรของฉันกระแทกกับต้นเสากลางบ้านอย่างแรง
โป๊ก
“พี่แพร”ฉันเอ่ยเรียกชื่อพี่แพรวาทันทีที่เอามือไปจับศรีษะของฉันที่ตอนนี้มีเลือดออกชิบๆแล้ว
“เอ้า มานั่งเรียกฉันอยู่ได้ แกก็ไปทำแผลสิ มานั่งทำหน้าโง่อยู่ได้ อีโง่!!!”พี่แพรวาหันมาว่าฉันพลางเดินจับแขนคุณน้าพราวมณีเดินกลับเข้าไปในบ้าน ฉันเมื่อเห็นว่าเธอสองคนนั้นเดินไปแล้วก็ร้องไห้ออกมาทันที
“แม่จ๋า หนูผิงคิดถึงแม่พอใจจัง แม่จ๋าอึก”
