บทที่ 8 ตอนที่8

“หนูผิงทานได้เหรอคะ?”

“อืม ปากเธอว่างป่ะล่ะ ถ้าปากเธอว่างก็ทานได้^_^”ท่านเจ้าสัวพูดขึ้นด้วยนำ้เสียงกวนๆฉันจึงแอบย่นจมูกใส่เขาและหันกลับไปมองอาหารตรงหน้าของฉันต่อ ท่านเจ้าสัวก็เริ่มลงมือทานข้าว มาดามแอบมองฉันฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองเธอและส่งยิ้มให้เธอผิดกับเธอที่มองฉันด้วยสายตาดุๆ ฉันจึงก้มหน้าลงและค่อยๆตักอาหารทีละน้อยๆเพื่อให้ดูดีนิดนึงเดี๋ยวใครๆเขาจะหาว่าฉันตะกระน่ะ และฉันก็แอบชำเรืองท่าทางที่สุภาพเวลาทานข้าวของท่านเจ้าสัวที่เรียบร้อยดังถูกอบรมมาดี นี้แหละเนอะคนรวยเขาก็ต้องเป็นแบบนี้ทุกคนไม่ได้อดมื้อกินมื้อเหมือนคนจนๆแบบพวกฉัน

“ท่านคะ”เสียงมาดามเอ่ยขึ้นในขณะที่ท่านเจ้าสัวกำลังจะเดินออกไปจากประตูบ้านหลังนี้โดยมีฉันเดินก้มหน้าก้มตาเดินตามหลังท่านเจ้าสัวมาเพราะเขาบอกให้ฉันเดินไปส่งเขา

“มีอะไรมาดาม?”ท่านเจ้าสัวหยุดเดินและหันมาถามมาดาม ฉันเบรกเท้าแทบไม่ทันเมื่อท่านเจ้าสัวคิดจะหยุดก็หยุดซะงั้น

“ท่านจะมาที่เรือนหลังเล็กนี้อีกเมื่อใดคะ?”นำ้เสียงสุภาพของมาดามเอ่ยขึ้น ฉันจึงรีบก้มหน้าหลบสายตาท่านเจ้าสัวที่มองมาที่ฉันแทบจะทันที

“หึ ช่วงนี้ฉันจะมาบ่อยน่ะ เผลอๆอาจจะมาค้างบ้าง ต้องดูงานและดูคุณหญิงก่อนน่ะ ฉันวานมาดามช่วยดูแลหนูผิงด้วยน่ะ ดูแลเธอเหมือนที่ดูแลฉัน เข้าใจไหม”ตรงประโยคสุดท้ายท่านเจ้าสัวชายตามองไปที่ผู้หญิงสองคนนั้น พวกเธอรีบก้มหน้าลงทันที

“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”มาดามพูดขึ้นและก้มหังรับคำสั่งท่านเจ้าสัว

“ฉันขอบใจมาดามมาก”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นและเขาก็คว้าแขนฉันให้เดินตามเขาไปอย่างไว

พรึบ

“อ่ะ ท่านคะ!”ฉันร้องขึ้นด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆท่านเจ้าสัวก็พลักร่างฉันให้แนบชิดไปกับรถสปอร์ตคันสีดำของเขาและเขาก็ใช้แขนทั้งสองข้างยันกับรถไว้เพื่อไม่ให้ฉันขยับหนีเขา

“อยู่บ้านฉันอย่าดื้อ อย่าซน อ่านรายละเอีอดงานที่เธอจะต้องทำให้ฉันและทำตามทุกข้อเข้าใจไหมเวียงพิงค์”ท่านเจ้าสัวยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนปลายจมูกของเราแตะกัน

“ขะเข้าใจค่ะ”ฉันพยักหน้ารัวๆท่านเจ้าสัวอมยิ้ม

“ไม่เห็นยั่วยวนเหมือนเมื่อคืนนี้เลย”นำ้เสียงสบายของท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้น แต่กลับทำให้ฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความเขินอาย

“แต่ไม่เป็นไร ไปศึกษาข้อมูลมาปรนนิบัติฉันก็แล้วกันและวันมะรืนฉันจะเข้ามาทดสอบงานกับเธอ เข้าใจไหม สาวน้อย งั๊บ”ท่านเจ้าสัวพูดเสร็จก็กัดปลายติ่งหูฉันเบาๆ ฉันรีบหลับตาปี๋และหดคอลงอย่างไว

“เหอะ ลูกเจี๊ยบเวียงพิงค์ของฉันช่างน่ารัก น่าขยำ้อะไรอย่างนี้น่ะ”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นและยันตัวเอาแขนทั้งสองข้างของเขาออกไปจากฉันและกลับไปยืนตรวดังเดิม

“ฉันต้องไปแหละเวียงพิงค์ หมดเวลาเมียเก็บอย่างเธอแล้ว^_^”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นและผลักไหล่ฉันเบาๆให้ถอยออกไปจากรถสปอร์ตคันหรูของเขา ฉันทำตาปริบๆงงกับสิ่งที่เขาพูด ผิดกับเขาที่เดินอ้อมไปฝั่งคนขับและขับรถสปอร์ตออกไปอย่างไว จนสายลมพัดเข้ากระทบกับร่างกายฉัน

“เมียเก็บกับเมียน้อยก็ไม่ต่างกันหรอก เด็กๆแบบพวกเธอน่ะมันก็เป็นได้แค่นี้แหละย่ะ!!”นำ้เสียงดูถูกเหยียดหยามของผู้หญิงที่ทำงานรับใช้อยู่ที่บ้านของท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นจากทางข้างฉัน ฉันจึงหันขวับกลับไปมองพวกเธอทันที ฉันนึกว่าพวกเธอจะเป็นมิตรกับฉันซะอีก ฉันคิดผิดไปอย่างนั้นเหรอ

“ไร้ยางอาย!”

“หน้าด้าน!!”

“ไม่มีจิตสำนึก!!”

“อึก ฮืฮ”ฉันยืนร้องไห้เมื่อฟังคำที่พวกเธอว่าฉัน ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อยานะฉันไม่อยากแย่งสามีของใคร ไหนพวกเธอบอกว่าท่านเจ้าสัวยังไม่ได้แต่งงานยังไงล่ะ

“เวียงพิงค์ เข้าบ้านได้แล้ว หมดเวลาอยู่ข้างนอกของเธอแล้ว!!!”เสียงมาดามเอ่ยเรียกฉันจากทางหน้าประตูบ้าน ทำให้ฉันรีบเอามือปาดนำ้ตาและมองไปที่มาดาม

“ค่ะ”ฉันขานรับเธอและหันกลับไปมองที่ผู้หญิงสองคนนั้นแต่ก็ไม่พบพวกเธอแล้ว ฉันจึงรีบเดินเข้าไปหามาดาม

“ขึ้นห้องนอนซ่ะ!!”เสียงมาดามสั่ง ฉันจึงพยักหน้าและก้มหัวให้เธอและเดินขึ้นบันไดไปอย่างไว มาดามก็ปิดประตูบ้านทันที ทำไมน่ะ ทำไมพวกเขาต้องขังฉันไว้แบบนี้ด้วยล่ะ ทำไมกันน่ะ

“แม่คะ พ่อคะ หนูอยู่ที่ไหนเหรอคะ ชีวิตของหนูต่อจากนี้ไปจะเป็นยังไงเหรอคะ?”ฉันเอ่ยขึ้นทันทีที่เปิดประตูห้องนอนขนาดใหญ่ที่ทีเฟอร์นิเจอร์ครบครันทุกอย่างในห้องนี้ ฉันเดินไปยังบนที่นอนนุ่มนิ่มขนาดใหญ่และก้มหน้านอนร้องไห้กับหมอนใบใหญ่ ทำไมชีวิตของฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้กันน่ะ เมื่อไรฉันจะได้ใช้ชีวิตอิสระแบบคนอื่นๆเขาสักที

บทก่อนหน้า
บทถัดไป