บทที่ 9 ตอนที่9
บ้านส่วนตัวของเจ้าสัว
10:00น.
เวียงพิงค์
“นี้เธอ ท่านเจ้าสัวเรียกเธอน่ะ!”ฉันที่กำลังนั่งพับผ้าอยู่ก็ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าพี่สาวคนที่ทำงานอยู่ในบ้านหลังใหญ่นี้ ที่จริงเธอให้ฉันมาช่วยเธอพับผ้าที่เอาไว้เช็ดทำความสะอาดบ้านหลังนี้น่ะ
“อ๋อค่ะ เดี๋ยวหนูผิงจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ^_^”ฉันเอ่ยบอกเธอและเริ่มเก็บผ้าลงใส่ลังพลาสติกและเริ่มลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและค่อยๆเดินออกไปจากห้องเก็บของของที่นี้ มุ่งหน้าไปยังห้องรับแขกที่ฉันคิดว่าท่านเจ้าสัวน่าจะอยู่ที่นั้น บ้านหลังนี้หลังใหญ่มาก มีสองชั้นแหนะ ฉันมาอยู่ที่นี้สองวันแล้วยังเดินไม่รอบบ้านเลย
“ท่านเจ้าสัวเรียกหนูผิงเหรอคะ?”ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมๆกับที่เห็นว่าท่านเจ้าสัวกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารอะไรสักอย่างอยู่ในมือของเขาเขานั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับแขก
“ฉันบอกเธอให้เรียกฉันว่ายังไง?”ดวงตาคบตวัดขึ้นมามองฉันพร้อมๆกับเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงเยือกเย็น ฉันรีบรนรานเรียกเขาใหม่
“ป๋าขาเรียกหนูผิงเหรอคะ?”ฉันเอ่ยขึ้น คำพูดของฉันทำให้ท่านเจ้าสัวอมยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ และเขาก็กระดิกนิ้วชี้เรียกให้ฉันเข้าไปหาเขา ฉันก็พยักหน้าและค่อยๆเดินเข้าไปหาเขา
“หนูอยากเรียกหมอเหรอหนูผิง?”ทันทีที่ฉันเดินเข้าไปใกล้เขา เขาก็จับเอวฉันคว้าเข้าไปโอบกอดทันที ทำให้ฉันเสียหลักลงไปนั่งแนบชิดกับกายของเขา
“ค่ะ”ฉันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบสายตากับเขา ฉันก้มหน้าลงและเอ่ยตอบเขา ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดอยู่ตรงข้างแก้มของฉัน
“ถ้าอยากเรียนหมอและหนูอยากให้ป๋าช่วย หนูต้องทำยังไงหนูผิง”นำ้เสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยกระซิบที่ข้างหูฉัน ทำให้ฉันสยิ้วหดคอแทบไม่ทัน ทำยังไงล่ะ ฉันจะต้องทำยังไง
“หนูต้องทำยังไงเหรอคะ?”ฉันนั่งตัวรีบเอ่ยถามเขาไปด้วยนำ้เสียงสั่นๆ
“ฟอดดดด ฟอดดดดด”สัมผัสหนักกดลงมาบนแก้มฉันทั้งฟอด ทำให้ฉันเบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจที่เขาหอมแก้มฉัน ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“เขินอะไรขนาดนั้นหนูผิง มากกว่านี้ป๋าก็เคยทำมาแล้วน่ะ หนูจำไม่ได้เหรอ?”ท่านเจ้าสัวขยับใบหน้ามามองฉันที่ก้มหน้าหลบสายตาเขา สายตาแวววาวและโครงหน้าหล่อของเขาทำให้ฉันใจเต้นแรงขึ้นมาทันที
“จำได้ไหม ว่าคืนนั้นหนูยั่วป๋ายังไง?”ท่านเจ้าสัวขยับหน้าเข้ามาใกล้แนบชิดฉันมากกว่าเดิมและเอ่ยถามฉันขึ้น ฉันก็กระพริบตาปริบๆไม่กล้าตอบเขา ฉันอายหนิอายมากๆเลย ฉันไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเอายาอะไรให้ฉันกิน มันร้อนรุ่มในร่่างกายฉันไปหมด ฉันทำอะไรก็ไม่รู้ฉันไม่เคยทำแบบนั้นกับตัวเองมาก่อนเลยน่ะ
“ทำไมไม่ตอบล่ะ หรือว่าหนูผิงไม่อยากเรียนเเล้ว”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นและเขาก็ขยับหน้าเขาออกห่างไป ฉันตกใจรีบหันกลับไปจ้องหน้าเขาทันที
“อยากค่ะ หนูผิงอยากเรียน”ฉันพูดอย่างรัวเร็ว ท่านเจ้าสัวหัวเราะหึๆอยู่ในลำคอ และยื่นมือลูบแก้มฉัน
“สาวน้อยของป๋า งั้นหนูก็ต้องทำอะไรให้ป๋าพึงพอใจ ป๋าถึงจะให้หนูเรียนหมอ”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้น ฉันดวงตาเบิกโตขึ้นด้วยความดีใจ สายตาของท่านเจ้าสัวมองตำ่ลงไปที่หน้าอกของฉัน
“ลีลาเธอคืนนั้น ยังทำให้ฉันติดใจไม่หายเลย วันนี้ฉันมีเวลาแค่สองชั่วโมงในการอยู่ที่นี้ เธอก็ไปคิดหาวิธีที่จะทำให้ฉันยอมให้เธอเรียนก็แล้วกัน”
“หนูผิงต้องทำยังไงเหรอคะป๋า ป๋าช่วยบอกหนูผิงหน่อยได้ไหมค่ะ?”ฉันพูดขึ้น ฉันไม่รู้จริงๆหนิ ว่าคนอย่างฉันจะไปทำอะไรให้ท่านเจ้าสัวพึงพอใจ ท่านเจ้าสัวยักคิ้วให้ฉันข้างหนึ่งและยิ้มมุมปาก
พรึบ
“ทำแบบที่เราทำกันวันนั้น”ท่านเจ้าสัวพูดขึ้นในขณะที่เขายกร่างของฉันขึ้นมานั่งบนตักเขา ฉันกลัวตกจึงยื่นมือไปกุมชายเสื้อสูทสีดำของเขาไว้ทันที สายตาของฉันเหลือบไปเห็นสัญลักษณ์มังกรที่ถูกปักด้วยด้ายสีแดงที่หน้าอกข้างซ้ายบนเสื้อสูงของท่านเจ้าสัว นี้มันสัญลักษณ์อะไรน่ะ
“มองหน้าป๋าอิหนู”เสียงทุ่มตำ่ของท่านเจ้าสัวทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างไว
“ป๋าไม่เคยเกิดอารมณ์กับผู้หญิงคนไหน เพราะฉะนั้นป๋าอยากจะทดสอบความสามารของหนูผิง”ท่านเจ้าสัวพูดขึ้นทั้งๆที่ริมฝีปากของเขาคลอเคลียอยู่ตรงริมฝีปากของฉัน
“จุ๊ฟ”ฉันเบิกตาโตขึ้นเมื่อท่านเจ้าสัวกดริมฝีปากของเขามาแนบชิดกับริมฝีปากของฉันอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากของเขาช่างนุ่มนิ่มอะไรอย่างนี้น่ะ
“ป๋าจะไปรอหนูที่ห้องทำงานน่ะ เพราะป๋ามีงานเยอะมาก หนูไปหาป๋าที่นั้นน่ะ ป๋าให้เวลาหนูผิงสิบนาที เตรียมท่าเด็ดๆไปมัดใจป๋าให้ได้น่ะครับ^_^”ท่านเจ้าสัวอุ้มร่างฉันและเขาก็ลุกขึ้นยืน ฉันรีบโอบแขนกอดคอท่านเจ้าสัวอย่างไวเพราะกลัวตก
“อึบ ลงได้ล่ะครับ อิหนู ทานข้าวเยอะๆมาดามน่ะทำอาหารอร่อย”ท่านเจ้าสัวปล่อยฉันลงบนพื้นให้ฉันยืนเอง
“ค่ะ”ฉันที่ยังตกใจไม่หายที่เขาอุ้มฉันได้อย่างสบายๆ ตัวฉันเบาขนาดนั้นเลยเหรอ
“ป๋าคะ!”ฉันที่เพิ่งจะนึกได้ว่าฉันจะถามอะไรเขา ก็เอ่ยเรียกเขาที่กำลังเดินหันหลังออกจากห้องนี้ไป
“มีอะไรหนูผิง?”ท่านเจ้าสัวหันหน้ากลับมาคุยกับฉัน
“คือหนูผิงจะถามป๋าว่า พ่อของหนูผิงเป็นยังไงบ้างคะ”ฉันถามเขาไป เพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงพ่อเหลือเกิน ท่านจะได้ทานข้าวรึยัง ท่านจะเป็นห่วงฉันไหม
“พ่อของเธอน่ะเหรอ อืมมมม จะตอบอะไรดีล่ะ”ท่านเจ้าสัวยกมือขึ้นมาลูบปลายคางตัวเองพลางทำหน้านึกคิด ฉันยิ่งร้อนรนเดินเข้าไปหาเขา
