บทที่ 6 ตอนที่6.ข้อกล่าวหา

อรอมลถอยออกมาจากแผ่นหลังกว้าง เมื่อประตูปิดลง ถอดเสื้อคลุมเขาออกแล้วจัดการเสื้อผ้าของตัวเอง ใบหน้าสวยเห่อร้อน เมื่อสบตากับเขาผ่านกระจก

“คุณนี่ก็ฉลาดนะ” คำพูดของเขาทำให้คนที่กำลังเก็บผมที่หลุดลุ่ยลงมาต้องหยุดชะงัก เพราะไม่เข้าใจว่าเขาพูดเรื่องอะไร

“หมายความว่าไงคะ”

“คุณวางแผนเรื่องนี้ไว้ใช่ไหม”

“วางแผน! แผนอะไรของคุณฉันไม่รู้เรื่อง!”

“เลิกแสดงได้แล้ว คุณก็เหมือนน้องของคุณนั่นแหละอยากได้ผมจนตัวสั่น!”

เพียะ!

ฝ่ามือหนักๆฟาดลงบนใบหน้าชายหนุ่ม เมื่อเขากล่าวหาเธอ อัคนีใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม เจ็บจนหน้าชาเห็นตัวบางๆแบบนี้แต่มือหนักจริงๆ เธอเห็นหน้าเขาเป็นอะไรถึงได้ตบเอาตบเอา

“อย่ามาดูถูกฉัน! แล้วก็อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับอรอุมา!” อรอมลพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด เธอไม่รู้ว่าอรอุมาทำอะไรเอาไว้ แต่เธอไม่เหมือนอรอุมาแน่นอน

“ผมพูดเรื่องจริง คุณวางแผนเรื่องนี้ไว้ใช่ไหม” อัคนียังไม่ยอมแพ้

“วางแผน!”

“ใช่!”

“คุณว่าที่ฉันมาอยู่ในห้องน้ำ เพราะต้องการมารอคุณ เพราะรู้ว่าคุณจะพาผู้หญิงมามั่วในนี้”

“ใช่! คุณวางแผนกับพ่อคุณ ให้พ่อคุณเข้ามาเห็นจะได้จับผม!” อรอมลตกตะลึงกับข้อกล่าวหาของเขา เขาเอาอะไรมาคิดว่าเธอวางแผนจับเขา

“ทุเรศที่สุด ฉันไม่คิดเลยนะว่าโลกใบนี้ จะมีคนทุเรศแบบคุณเหลืออยู่ เชิญคุณคิดไปเถอะค่ะ ฉันจะอธิบายเรื่องนี้ให้คุณพ่อเข้าใจเอง” พูดจบอรอมลก็หันหลังเดินออกไป

“เดี๋ยว!” อัคนีเรียกหญิงสาวเอาไว้

“มีอะไรคะ” ร่างบางหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ตาสองคู่สบกันอย่างที่ไม่มีใครยอมใคร

“คุณคงไม่รู้สินะว่าอมรพันธ์กำลังจะเจ๊ง จะเป็นไงนะถ้าพ่อคุณถูกฟ้องล้มละลาย ไหนจะหนี้สินที่กู้ยืมผมไปอีก เสือเฒ่าที่เคยหยิ่งผยองเมื่อถึงเวลาที่ต้องตกต่ำ จะมีสภาพไหนนะ” อรอมลตัวชากับข้อมูลใหม่ที่ได้รับรู้ หญิงสาวตั้งสติ ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้เขา

“ขอบคุณนะคะที่คุณบอกเรื่องนี้ให้ฉันรู้ ฉันมีความสุขมากเลยค่ะที่จะได้เห็นอมรพันธ์ล่มสลาย เห็นคุณพ่อเจ็บปวด เห็นแม่เลี้ยงและน้องของฉันดิ้นเหมือนหมาบ้า ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือคุณใช่ไหมคะ ขอบคุณนะคะฉันมีความสุขมากจริงๆ” พูดจบอรอมลก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป อัคนีมองตามหลังหญิงสาวไปจนลับตา ไม่น่าเชื่อว่าอรอมลจะพูดแบบนี้กับเขา เขาคิดว่าเธอจะร้องขอให้เขาเมตตา ให้เขาช่วยพ่อของเธอแต่มันกลับตรงกันข้าม เขาเห็นแววตาสะใจในดวงตากลมโต ยามเมื่อเอ่ยคำว่าล่มสลายของอมรพันธ์ คำพูดของคุณพิมพ์แขคงเป็นเรื่องจริง เธอคงเกลียดคุณอมรเข้ากระดูกดำ

“หมายความว่ายังไง!” คุณอมรตวาดลั่นเมื่ออรอมลบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับอัคนีเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน อัคนีก็แค่เข้าห้องน้ำผิด

“พ่อเห็นกับตาว่าแกกับเขา...”

“เอยบอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีค่ะ คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าทำไมถึงได้พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาให้เอย”

“พ่อก็แค่เป็นห่วงแก”

“เป็นห่วงเหรอคะ เอยดีใจนะคะที่ได้ยินคำนี้ คุณพ่ออย่าห่วงเลยค่ะ ระหว่างเอยกับเขาไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น แค่นี้ใช่ไหมคะที่คุณพ่ออยากจะคุยกับเอย ถ้าไม่มีอะไรแล้วเอยขอตัว”

“พ่อจะให้เขารับผิดชอบแก!” คุณอมรตะโกนตามหลัง เมื่อลูกสาวไม่ได้ดังใจ

“เพื่ออะไรคะ เอยบอกว่าไม่ก็คือไม่ อย่าพยายามดึงเอยเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เอยไม่เคยรับรู้เลยค่ะ เอยโตแล้วมีชีวิตเป็นของตัวเอง พ่อคงเข้าใจเอยนะคะ”

“เอย! เอย!” คุณอมรตะโกนลั่น เมื่อลูกสาวเดินจากไปอย่างไม่ใยดี

“นังลูกไม่รักดี! กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว หลงชมว่าฉลาดที่แท้ก็ทั้งโง่ทั้งหยิ่ง โธ่โว้ย!” มือหนาฟาดลงบนกำแพง เมื่อไม่ได้ดังใจ การกระทำและถ้อยคำสนทนาระหว่างอรอมลกับบิดา อยู่ในสายตาของอัคนีทั้งสิ้น เขาแน่ใจแล้วว่าอรอมลไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ เขาเองก็ใส่ร้ายเธอเกินไป ใครจะรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะพาผู้หญิงเข้าไปในนั้น

“ไงครับ โมโหที่ลูกสาวไม่เล่นด้วยเหรอครับ” อัคนีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย นึกตลกกับอาการของเสือเฒ่าที่ดิ้นเหมือนถูกน้ำร้อนลวก

“คุณอัค!”

“ครับผมเอง”

“เรื่องที่เกิดขึ้น ผมหวังว่าคุณจะรับผิดชอบนะ คนเห็นกันทั้งงานลูกสาวผมคงไม่มีหน้าไปพบใครอีก”

“แน่ใจเหรอครับว่าเธอต้องการให้ผมรับผิดชอบ”

“ยายเอยเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี ผมคิดว่า...”

“เรื่องระหว่างผมกับลูกสาวคุณมันไม่มีอะไรเกินเลยหรอกครับ อย่าพยายามยัดเยียดเธอให้ผมเลย”

“หมายความว่าคุณจะไม่รับผิดชอบ!”

“ก็เธอเป็นคนพูดเองนี่ว่าไม่ต้องการ”

“ผมมองคนผิดมาตลอดจริงๆ ผมคิดว่าคุณคือเพื่อนคือคนที่จริงใจกับผมมาตลอด”

“วงการธุรกิจครับ บางครั้งก็ต้องแยกแยะบ้างว่าอันไหนมิตรแท้ หรือศัตรูถาวร!”

“อัคนี!”

“ผมบอกคุณแล้วนี่ครับว่าความสัมพันธ์ของเรา อยู่ในขอบเขตของคำว่าธุรกิจและผลประโยชน์ ตรงไหนที่มีผลประโยชน์ผมก็อยู่ตรงนั้น” พูดจบร่างสูงก็เดินจากไป เขายอมรับว่าพอใจอรอมลระดับหนึ่ง แต่ถ้าพ่อเธอจะเอาเธอมาเป็นตัวต่อรองเรื่องผลประโยชน์ เขาก็ไม่ยอมเช่นกัน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป