บทที่ 7 ตอนที่7.ความในใจ
“เอย!” คิมหันต์เรียกหญิงสาวเอาไว้ เมื่อเธอเดินออกมาที่ลานจอดรถ เขาถูกคุณอมรไล่ออกมาเพราะเป็นคนนอก แต่เขาทิ้งอรอมลไม่ได้ จึงเลือกที่จะมารอเธออยู่ตรงนี้ เพราะรู้ว่าตอนนี้อรอมลต้องการกำลังใจมากที่สุด
“คิม...” ร่างบางโผเข้าหาอกแกร่ง เมื่อคิมหันต์กางแขนออก เขารู้ว่าอรอมลกำลังเสียใจ และอ้อมกอดของเขาคือกำลังใจที่ดีที่สุด
“เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ผมฟังได้ไหม” มือแกร่งลูบไปบนแผ่นหลังบางเพื่อปลอบโยน เมื่อคนในอ้อมแขนกอดเอวเขาไว้แน่น
“ไว้วันหลังได้ไหม เอยไม่อยากพูดถึงมันอีก” อรอมลปฏิเสธไม่ใช่เธอไม่ไว้ใจเขาแต่เรื่องนี้เธออยากลืมมัน
“อยากร้องไห้ไหม อยากร้องก็ร้องออกมาเถอะนะ”
“ไม่...เอยไม่มีเวลาเสียใจกับเรื่องบ้าบอนี่หรอก ขอบใจมากนะที่อยู่รอเอย”
“เราเป็นเพื่อนกันนะ ใครจะทิ้งเพื่อนได้ลงคอ”
“เอยดีใจนะที่มีคิมอยู่ข้างกายเสมอ คิมคือคนที่เข้าใจเอยที่สุด”
“แล้วจะมีโอกาสเลื่อนเป็นคนรู้ใจบ้างไหมครับ” คำพูดของคิมหันต์ ทำให้ใบหน้าสวยที่ซุกอยู่กับอกเขาเงยขึ้นมามอง คิมหันต์ยิ้มให้เธอเพื่อเป็นการกลบเกลื่อน เพราะไม่อยากทำให้คนในอ้อมแขนไม่สบายใจ
“ผมล้อเล่นน่ะ”
“คิมคือคนที่เอยอยู่ด้วยแล้วมีความสุขที่สุด แบบนี้เรียกว่าคนรู้ใจได้ไหมคะ”
“เอย!” คำพูดของหญิงสาวทำให้หัวใจดวงโตฟูคับอก คิมหันต์ดันเธอออกจากอก เพื่อจะมองหน้าเธอให้เต็มสองตา
“หลังจากเกิดเรื่องวันนี้ เอยรู้แล้วว่าหัวใจเอยอยู่ที่ใคร เอยยังมีโอกาสอยู่ไหมคะ คิมยังต้องการหัวใจของผู้หญิงคนนี้อยู่ไหมคะ” ตากลมโตสบกับดวงตาของชายหนุ่ม เพื่อยืนยันว่าคำพูดนี้มันออกมาจากหัวใจ
“เอย! เอยพูดจริงใช่ไหม เอยไม่ได้หลอกผมใช่ไหม”ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกว้าง ตื่นเต้นจนหัวใจแทบกระดอนออกมานอกอก ในที่สุดเขาก็ได้ฟังคำนี้จากปากของเธอ
“ที่ผ่านมาเอยปิดบังซ่อนเร้น พยายามแช่หัวใจไว้ในน้ำแข็ง อยากให้มันชาจนไม่รู้สึกอะไร เพราะเอยไม่อยากเป็นเหมือนคุณแม่ คิมก็ทราบว่าคุณแม่เอยท่านเสียใจกับความรักจนตรอมใจตาย เอยไม่อยากเป็นแบบท่าน เอยไม่อยากเจ็บเพราะความรัก” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็รื้นหัวตา เธอไม่เคยเห็นแม่มีความสุขสักครั้ง ภายใต้รอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยน เธอรู้ว่าแม่เก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ เพราะพ่อไม่เคยรักแม่เลย
“ผมจะไม่เป็นแบบนั้น ฟังผมนะเอยยังไม่ต้องรักผมวันนี้ก็ได้ ให้เวลาพิสูจน์หัวใจของเรา ผมจะไม่คาดคั้นเอยอีก แค่เอยให้โอกาส ผมก็มีความสุขมากแล้ว ให้ความรักเป็นหนังสือนะครับ ค่อยๆอ่านและเรียนรู้กันไป ผมรอได้เสมอ”
“ขอบคุณนะคะ”
“แล้วนี่เอยจะกลับบ้านเลยไหม ให้ผมขับรถตามไปส่งนะ ผมเป็นห่วงเอย”
“เอยหิวมากเลยค่ะ วันนี้ได้ทานซูชิแค่ไม่กี่คำ คิมเลี้ยงข้าวเอยได้ไหมคะ”
“ยินดีครับ เอยขับนำไปนะเดี๋ยวผมขับตามไป อย่าคิดมากนะครับ”
“ได้ข้าวต้มร้อนๆสักถ้วยเอยคงสบายใจค่ะ”
“หืม...ที่บอกว่าชอบผมนี่เป็นเพราะหิวหรือเปล่า”
“เขาใช้กระเพาะตัดสินความรัก แทนหัวใจแล้วเหรอคะ”
“ฮ่าๆๆ มีความสุขจัง ไปครับผมไปส่งที่รถ” คิมหันต์จูงมืออรอมลเดินไปที่รถยนต์ คืนมือถือที่เขาเก็บไว้ให้เธอ มือหนาขยี้ลงบนศีรษะทุยสวย ก่อนจะปิดประตูให้ เดินกลับมาที่รถแล้วขับตามเธอออกไป
การกระทำของคนทั้งสองอยู่ในสายตาของอัคนีมาตลอด ตกลงสองคนนี้เป็นคนรักกันจริงๆใช่ไหม มิน่าอรอมลถึงได้ไม่สนใจเขา บุหรี่ในมือถูกโยนลงพื้นเมื่ออยู่ๆก็รู้สึกโมโหขึ้นมา คนอย่างเขามีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าใส่ มีอรอมลคนแรกที่วิ่งหนีเขา
“หน้าระรื่นเลยนะ หนูเอย!” กรามแกร่งขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน โมโหอรอมลอย่างไม่มีเหตุผล รสจูบของเธอยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น ยอมรับว่าเขาชักจะติดใจเธอเสียแล้ว มีคู่แข่งแบบนี้ก็ยิ่งสนุก
“ไว้เจอกันนะครับ” พูดกับตัวเองก่อนจะเดินไปที่รถแล้วขับออกไป คำพูดที่เขาพูดกับคุณอมรวันนี้ คงทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยมีต่อกันขาดสะบั้น แต่อัคนีก็ไม่คิดจะสนใจ คุณอมรก็ไม่ได้จริงใจกับเขา ที่ชวนมาเป็นหุ้นส่วนก็เพราะอยากได้ผลประโยชน์จากเขา และวันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เพื่อผลประโยชน์คุณอมรก็ทำได้ทุกอย่างจริงๆ ให้ลูกสาวคนเล็กมาสนิทกับเขา พอรู้ว่าเขากับลูกสาวคนโตมีบางอย่างต่อกัน ก็เปลี่ยนข้างไปอยู่กับอรอมล โดยที่ไม่สนใจจิตใจของอรอุมาเลยสักนิดว่าจะรู้สึกอย่างไร เมื่อคิดมาถึงตรงนี้อัคนีก็อดสงสารอรอุมาไม่ได้ เขาไม่ดีเองที่ไม่ชัดเจน จนทำให้เธอคิดไปไกล ดูจากอาการแล้วเธอคงจะเสียใจมาก ช่วยไม่ได้เรื่องนี้เขาไม่ผิด อรอุมาคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอด เขาไม่เคยพูดสักคำว่าชอบเธอ
รถสปอร์ตคันหรูขับไปด้วยความเร็วสูง เมื่อเจ้าของรู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล ในหัวมีแต่ภาพดวงตากลมโตคู่เศร้าที่มองเขาอย่างเกลียดชัง รอยยิ้มเย้ยหยันที่อรอมลยิ้มให้เขา
เธอไม่ได้แกล้งทำใช่ไหม คุณอมรทำอะไรไว้กับเธอกันนะ เธอถึงได้เกลียดจนฝังใจขนาดนี้ มือแกร่งหักพวงมาลัยรถไปอีกทาง เมื่อไม่มีอารมณ์จะกลับบ้านตอนนี้
