บทที่ 9 ตอนที่9.แบบนี้เรียกว่าโหยหาหรือเปล่า
“ทำไมคะ” ถามพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่ม มาหาเธอยามวิกาลแต่กลับไม่ให้เธอทำเหมือนอย่างที่เคย แบบนี้หมายความว่ายังไง
“ผมไม่มีอารมณ์!” ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนจัด ก่อนจะหยิบเงินในกระเป๋าวางบนโต๊ะ
“พิตาทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่าคะ” โสภิตายังไม่ยอมแพ้ ร่างอวบคลานเข่าเข้ามาชิดขาแกร่ง ดึงผ้าขนหนูออกไปให้พ้นทาง เผยให้เห็นหน้าอกอวบใหญ่เกินขนาดที่ชูชันขึ้นมาท้าทายสายตาของเขา อัคนีมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึก จากที่ตั้งใจมาปลดปล่อย แต่กลับต้องหมดอารมณ์เมื่อกลิ่นน้ำหอมพวกนี้ทำให้กลิ่นหอมอ่อนๆที่ติดมากับเสื้อเขาหายไป
“อย่า” อัคนีกดเสียงต่ำเพื่อปรามคนที่ไม่ฟังคำพูดของเขา
“เดี๋ยวพิตาทำให้คุณมีอารมณ์เองค่ะ”
“บอกว่าไม่ก็ไม่ไง! หลีกไปผมจะกลับ!”
“อะไรกันคะคุณอัค คุณมาหาพิตากลางดึก แต่กลับบอกว่าไม่มีอารมณ์ แล้วจะให้พิตาทำยังไง พิตาต้องการคุณ!”
“แต่ผมไม่ต้องการ พรุ่งนี้ผมจะให้คนโอนเงินให้ ต่อไปอย่าติดต่อผมอีก”
“อะ...อะไรนะ! เกิดอะไรขึ้นคะ พิตาทำอะไรผิด” โสภิตาโวยวายไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อัคนีถึงได้ตัดความสัมพันธ์กับเธอง่ายๆแบบนี้
“ผมไม่ชอบคนที่พูดไม่รู้เรื่อง ลืมแล้วเหรอว่าข้อตกลงของเราคืออะไร”
“พิตาจำได้ค่ะ พิตาขอโทษ พิตาจะไม่งี่เง่าอีก คุณอัคยกโทษให้พิตานะคะ”
“ผมบอกว่าจบก็คือจบ” พูดจบร่างสูงก็หันหลังเดินออกจากห้องของเธอ
“คุณอัค! คุณอัค! พิตาไม่ยอมนะ กรี๊ดดด!!!” โสภิตากรีดร้องเมื่ออัคนีเดินพ้นประตูห้องออกไป อัคนีเหยียดยิ้มให้กับเสียงร้องของเจ้าหล่อน ผู้หญิงก็เป็นเหมือนกันหมด แรกๆก็พูดง่ายเข้าใจทุกอย่าง แต่พอไม่ได้ดังใจก็โวยวาย เรียกร้องเอาแต่ใจสารพัด คิดว่าทำแบบนี้เขาจะหันกลับไปมองเธออย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะคนอย่างนายอัคนี ไม่เคยเสียดายหรือเสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว
รถสปอร์ตคันหรูยังขับไปตามทาง เมื่อเจ้าของไม่รู้ว่าจะไปไหน สถานที่เริงรมย์คืออีกหนึ่งทางเลือก แต่พอเอาเข้าจริงๆ อัคนีก็ได้แต่ขับรถผ่าน ที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ เจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆที่ติดมากับผิวเนื้อและเสื้อของเขา
“อรอมล ยายแม่มดคุณทำเสน่ห์ใส่ผมใช่ไหม” เป็นอีกข้อหาที่อัคนีกล่าวโทษเธอ เพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยรู้สึกกระหายและอยากได้ใครมากมายเท่าเธอ
........................................................................................................................................................
“เมื่อคืนกลับมาตอนไหนคะ ฉันไม่รู้สึกตัวเลย เป็นไงคะตกลงคุณอัคเขารับเลี้ยงนะ...ยายเอยไหม” คำว่านังถูกเปลี่ยนเป็นยายเมื่อคุณอมรตวัดสายตามาที่นาง คุณกัญญารัตน์เบะปากเมื่อสามีหันกลับไปสนใจกับหนังสือพิมพ์ในมือต่อ มันได้เศรษฐีเป็นผัวเข้าหน่อย คุณอมรถึงกับเปลี่ยนพฤติกรรมเลยหรือ เมื่อก่อนก็ไม่เห็นจะอะไรกับอรอมล
“ยายเอยมันโง่!”
“หมายความว่าไงคะ!” ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนสงสัย
“มันปฏิเสธ มันบอกว่าอัคนีเข้าห้องน้ำผิด คุณก็เห็นเหมือนผมใช่ไหมว่าอัคนีกับมันกำลังทำอะไรกัน เด็กคนนี้โง่จริงๆ จะสบายกันอยู่แล้วเชียว” คุณอมรพูดอย่างหัวเสียเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
“เหรอคะ!” คุณกัญญารัตน์ยินดีจนเก็บอาการแทบไม่อยู่ เมื่อรู้ว่าอรอมลปฏิเสธ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ลูกสาวนางก็ยังมีหวัง
“คุณพี่ทราบเรื่องนี้หรือยังคะ” ถึงกระนั้นก็ยังไม่อยากดีใจมากเพราะกลัวจะเสียหน้า
“ผมเล่าให้พี่พรรณฟังแล้ว วันนี้คงมีคำตอบว่าพี่พรรณจะเอายังไง ลองถ้าพี่พรรณไม่ยอมยายเอยก็คงปฏิเสธอะไรไม่ได้ มีอย่างที่ไหนให้เขาลวนลามฟรีๆ!”
“แล้วทางคุณอัคนีละคะ”
“ถามได้ ก็เข้าทางมันนะสิ มันไม่อยากรับผิดชอบอยู่แล้ว คุณรู้ไหมว่ามันพูดอะไรกับผมบ้าง เสียแรงที่ไว้ใจมัน!”
“เอาแบบนี้ไหมคะ เรื่องนี้ให้ฉันกับยายอายจัดการเอง บางทีที่คุณอัคปฏิเสธไม่รับผิดชอบยายเอย เพราะติดที่ยายอายของเรา คุณก็รู้นี่คะว่าคุณอัคเอ็นดูยายอายขนาดไหน”
“ผมกลับไม่คิดแบบคุณ คนอย่างมันจะรักใครจริง”
“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่คะ ยายอายของเราอ่อนหวานน่ารัก ใครอยู่ด้วยก็มีความสุข”
“รอทางพี่พรรณก่อนก็แล้วกัน เผื่อยายเอยจะเปลี่ยนใจ แล้วอายเป็นไงบ้าง ทำไมป่านนี้ยังไม่ลงมา ไม่สบายหรือเปล่า”
“ยายอายเสียใจมากค่ะ ร้องไห้ทั้งคืนเลย ฉันปลอบใจตั้งนานกว่าจะยอมนอน ตั้งแต่เด็กจนโตแกก็เสียสละทุกอย่างให้พี่มาตลอด ครั้งนี้คงเสียใจมากจริงๆ ยายเอยไม่น่าทำน้องเลย รู้ก็รู้ว่าคุณอัคคบอยู่กับน้อง” ได้ทีคุณกัญญารัตน์ก็ใส่ไฟอรอมลชุดใหญ่
“ผมว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยวกับเอยนะ เอยไม่รู้จักกับคุณอัคนีจะรู้ได้ยังไงว่าอายคบกับเขา”
“ฉันก็ขอให้เป็นแบบนั้นค่ะ ยังไงก็พี่น้องกัน ฉันเองก็เอ็นดูยายเอยเหมือนลูก ถ้าเอยไม่ทำร้ายน้อง ครอบครัวเราก็คงไม่เป็นแบบนี้ คุณเข้าใจฉันนะคะ”
“เรื่องมันผ่านมาแล้วอย่าพูดถึงมันอีกเลย ตอนนั้นเอยยังเด็กมาก”
“แกคิดว่าฉันทำให้แม่แกเสียใจ ก็เลยไปลงที่น้อง ดีนะคะที่ยายอายไม่เป็นอะไรมาก ไม่อย่างนั้นเราคงเสียใจมาก” น้ำเสียงที่คุณกัญญารัตน์เอ่ยมาแสนเศร้า ต่างจากสายตาที่มีแต่ความสะใจ
“ผมเองก็เสียใจ” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้น้ำเสียงคุณอมรก็เปลี่ยนไป อรอมลร้ายกาจมาตั้งแต่เด็ก แถมยังขี้อิจฉาเรื่องนี้ใครๆก็รู้ สาเหตุที่เขาต้องแยกลูกออกจากกันก็เพราะอรอมลผลักอรอุมาตกน้ำ ดีที่มีคนช่วยไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นอรอุมาคงเสียชีวิตไปแล้ว เรื่องนี้เขาเองก็ไม่ได้สืบสาวเรื่องราว พอคุณพรรณีย์ขอ
อรอมลไปอยู่ด้วย เขาก็ยกให้ทันที เพราะไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหา
