บทที่ 4 4
เธอนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนที่ดวงตาซึ่งประดับด้วยขนตาปลอมยาวหนาเป็นแพจะกระพริบปริบๆ “นี่คุณโกรธเรื่องนั้นงั้นเหรอคะ”
“คิดว่าผมไม่ควรโกรธเหรอไง” ย้อนถามเสียงเย็น เธอนิ่งไปอีกพักหนึ่ง ก่อนจะระเบิดทุกความรู้สึกออกมา
“ฉันเองก็มีหัวใจนะคะ มีความรู้สึกเหมือนกัน ตั้งแต่คบกันมา 5 เดือน คุณไม่เคยแม้แต่จะจับมือฉันด้วยซ้ำ ไม่มีเวลาว่างให้ฉันเลย แทบไม่ได้พบเจอกันเลย เวลาที่มี คุณเอาไปทุ่มให้กับงานหมด ช่วงไหนว่าง คุณก็บอกว่าต้องการพักผ่อน คุณเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอ คุณรู้ไหมว่าก่อนหน้าที่คุณคบกับฉันน่ะ เขาลือถึงคุณว่ายังไง...ใครๆ ก็คิดว่าคุณชอบไม้ป่าเดียวกันหรือเปล่า ถึงได้แข็งกระด้างกับผู้หญิงนัก พอคบกับฉัน ข่าวลือพวกนั้นมันก็หมดไป แต่...แต่ฉันรู้สึกตะขิดตะขวงใจเสมอเวลาที่เพื่อนๆ ถามว่าเคยจูบกับคุณหรือยัง แล้วฉันตอบว่าไม่เคย มันผิดวิสัยของคนรักกัน ฉันก็แค่อยากรู้ว่าคุณเป็นชายแท้แน่นอนหรือเปล่า เลยลองให้กินยาปลุกเซ็กซ์ดู มันก็เท่านั้น แต่ในความคิดคุณ มันกลับเป็นแค่เรื่องปัญญาอ่อนงั้นเหรอ” น้ำตาเม็ดโตร่วงพรูลงอาบพวงแก้ม ปากสั่น สองมือกำแน่นจนเล็บจิกเข้าอุ้งมือ...
“เราต่างก็มีผลประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่นี่ ผมก็รำคาญข่าวลือเรื่องไม้ป่าเดียวกันเหมือนกัน ส่วนคุณก็อยากได้สามีที่จะช่วยให้คุณอยู่ในสถานะไฮโซได้อย่างเชิดหน้าชูตานี่”
“ตะ แต่ว่า...” ดวงตาของเธอสั่นไหว พูดไม่ออก
“การที่คุณทำแบบนี้ ถือเป็นการดูถูกผมมากนะวิมลิน กลับไปซะ...”
“ดะ เดี๋ยวสิ คุณดื่มยาไป ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”
“รู้สึก” เขาตอบพลางแสยะยิ้มมุมปาก “แต่ผมทำกับคนอื่นไปแล้ว”
“หมายความว่า...” หญิงสาวหน้าซีด เหลือบมองพิพัฒน์ที่นั่งคุดคู้บนพื้น “อย่าบอกนะว่า...”
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ต่อให้ได้ยามากกว่านี้สิบเท่า ผมก็ไม่คิดจะขึ้นเตียงกับผู้ชายด้วยกันหรอกนะ”
“ละ แล้ว...แล้วผู้หญิงคนไหนกันคะที่คุณ...”
“ไม่จำเป็นต้องรู้ รู้ไว้แค่ว่าไม่ใช่คุณก็พอ”
“ดะ ดะ ได้ไงกัน”
“แล้วรู้ไว้ซะด้วยนะ” ใบหน้าคมสันยื่นเข้ามาใกล้หูเธอแล้วกระซิบ “ที่ผมไม่แตะคุณ เป็นเพราะคุณไม่มีเสน่ห์หรือเปล่า ทำไมไม่คิดในมุมนี้บ้างล่ะ”
หญิงสาวหน้าร้อนวาบ ตะลึงจนเบิกตาโต
“กลับไปได้แล้วครับ” เขาไล่ตรงๆ อีกครั้งโดยไม่คิดจะรักษาน้ำใจสักนิด
วิมลินสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อระงับสติ ก่อนจะพยักหน้า “โอเคค่ะ ตอนนี้คุณกำลังโมโห ไว้ค่อยคุยกันก็ได้ วิขอตัวกลับก่อน” พูดจบก็หมุนตัวเดินทิ้งห่างจากไป
นนทิวรรธน์ปรายตามองร่างที่นั่งก้มหน้า บีบมือแน่นอยู่ตรงพื้นแทบเท้า
“ผู้หญิงคนเมื่อกี้...เป็นนักข่าวงั้นเหรอ”
“ใช่ครับ”
“ชื่ออะไรนะ”
“เทียนหอมครับ”
“งั้นเหรอ มาจากนิวสตาร์ใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“โอเค...เข้าใจล่ะ ส่วนคุณ...” เขากลับเข้าห้องแล้วออกมาอีกครั้งพร้อมเช็คในมือ “รับไปซะ เงินสด 1 แสน คงพอจะช่วยให้ภรรยาของคุณได้รับการรักษาที่ดีขึ้นได้ แต่นับจากวันพรุ่งนี้ไปไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ ผมไล่คุณออก”
พิพัฒน์แทบทรุด แก้วหูอื้ออึง อะไรกัน นี่เขาตกงานกะทันหันอย่างนั้นหรือ ถึงจะได้เงินชดเชยมาเป็นแสน แต่ถ้าต้องมาตกงานตอนนี้ เขาก็คงจะลำบากมาก
นนทิวรรธน์...คนที่ดูเหมือนจะมีน้ำใจ แต่จริงๆ แล้ว เขาคือคนเลือดเย็นและเฉียบขาดที่สุด แถมยังไร้หัวใจด้วย !
หลังจากฟังเพื่อนปรับทุกข์จนจบแล้ว อิงฟ้าก็เป็นเดือดเป็นร้อน ถึงกับส่งเสียงดัง ทั้งที่ปกติแล้วเป็นคนเงียบๆ และเรียบร้อย
“หน็อย ! อีตานนท์อะไรนั่น กล้าดียังไงมาทำแบบนี้ เขาไม่ให้เกียรติเธอเลย แจ้งความเลยเทียน”
“ไม่ล่ะ” เทียนหอมส่ายหน้า เธอนั่งอยู่ตรงกลางเตียง กอดหมอนใบใหญ่ โดยมีอิงฟ้านั่งอยู่ใกล้ๆ
“ทำไมล่ะ ฉันว่าน่าจะแจ้งตำรวจนะ”
“เขาเป็นเศรษฐีหมื่นล้านนะ ใครจะเชื่อว่าเจอหน้านักข่าวปอนๆ อย่างฉัน เขาจะตะครุบเข้าหาฉันเลย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คงจะมีสาวๆ สวยๆ มากมายรุมล้อมเขาอยู่ และที่สำคัญ...ฉันเผลอ เอ่อ... ลืมตัวไปกับเขาด้วยเหมือนกัน” ท้ายๆ ประโยคเสียงเบา พูดอ้อมแอ้ม พลางกระแอมกระไอเหมือนมีก้างติดคอ
“นั่นเพราะเธอไม่เคยมีแฟนน่ะสิเทียน ผู้หญิงใสซื่ออย่างเธอไม่เคยโดนมือผู้ชายมาก่อน ถึงเคลิบเคลิ้มง่ายๆ ”
“อือ ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ เพราะงี้ไง ฉันถึงไม่กล้าแจ้งความ ตอนแรกฉันสติแทบแตกตอนที่รู้ตัวว่าเสียสาวไปแล้ว แต่ตอนนี้เริ่มใจเย็นล่ะ...” กำมือแน่น ดวงตาเป็นประกาย “สมัยนี้คุณค่าของคนไม่ได้อยู่ที่พรหมจรรย์สักหน่อย จริงไหม”
“ไม่เป็นไรแน่นะเทียน”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันเริ่มตั้งสติได้แล้ว ขอบใจนะที่รีบมาหาน่ะ”
“อือ โรสเองก็ร้อนใจที่รู้ว่าเธอมีปัญหา”
“ฉันโชคดีจริงๆ ที่มีเพื่อนดีๆ ถึงสองคน” เทียนหอมยิ้มยิงฟัน...เธอต้องมองโลกในแง่บวกสิ ใช่แล้ว ทำใจดีๆ ไว้ แล้วลืมเรื่องที่เกิดขึ้นซะ แม้ว่ามันจะลืมยากมาก เพราะนั่นเป็นครั้งแรกของเธอ แต่ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เทียนหอมคว้าเครื่องมือสื่อสารที่วางใกล้ๆ มาดูหน้าจอ พอเห็นเป็นเจ้านายก็รีบกดรับทันที
