บทที่ 2 คุณช่วยฉัน?
จีอาน่ามองคลิปที่อีกฝ่ายส่งมามือไม้สั่น อยากจะรู้ว่าวารินเก็บงำความลับอะไรเอาไว้จึงกดเข้าไปดู เธอถึงกับชาวาบไปทั้งตัวที่เห็นปารีณาเข้าไปสวมกอดบิดาจากด้านหลัง
{ณา! อย่า เดี๋ยวคุณหญิงมาเห็นเข้า} ทัดเทพพยายามแกะมือของหญิงสาวออกจากตัว
{คุณหญิงออกไปแล้วค่ะ ตอนนี้เหลือแค่ท่านกับหนูเท่านั้น} ปารีณากระซิบอ้อน
{แต่มัน...}
{ณาคิดถึงท่านค่ะ อยากจะนอนกอดท่านทุกคืนๆ แต่ก็ทำไม่ได้}
{ณา! ไม่ใช่ที่นี่} ทัดเทพบอกอย่างเป็นกังวล เพราะนี่คือห้องพักของตนกับภรรยา
{ครั้งนี้ท่านสั่งณาไม่ได้ค่ะ} ปารีณาบอกพร้อมกับถอดชุดเดรสที่สวมออก แล้วดึงหนุ่มใหญ่ไฟแรงสูงเข้ามาจูบเปิดเกมรักที่เร่าร้อน
{ฮึก...ฮึก...}
จีอาน่าได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของแม่ แม้จะไม่เห็นหน้า แต่เธอก็เห็นทุกก้าวที่แม่เดิน เห็นพนักงาน และผู้คนที่เดินผ่านไปมา รวมไปถึงวารินที่วิ่งตรงดิ่งเข้ามาหา
{กะ...เกิดอะไรขึ้นคะคุณฮาน่า}
{เธอไปพักเถอะวา}
{แต่...} วารินรีบเดินตามไปอย่างรู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่เคยเห็นบุคคลที่รักและเคารพดุจมารดา ร้องไห้แบบนี้มาก่อน
{ฉันอยากจะอยู่คนเดียว} ฮาน่าหันไปบอก ก่อนจะเดินตรงไปยังรถส่วนตัว แล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
จีอาน่าน้ำตาไหลเป็นทาง ได้ยินเสียงร้องไห้ของมารดาดังขึ้นอยู่ตลอด จนกระทั่งรถของท่านเสียหลักพุ่งเข้าชนกับรถอีกคันที่อยู่บนสะพานเสียงดังสนั่น จากนั้น...ภาพทุกอย่างก็ตัดไป
“กรี๊ดดดด แม่! แม่! ฮือๆๆๆ” จีอาน่ากรีดร้องสุดเสียง และทุบพวงมาลัยอย่างบ้าคลั่ง
คมสันที่ขับรถตามมาแล้วเห็นรถของบุตรสาวเจ้านายจอดอยู่ข้างทาง จึงสั่งให้ลูกน้องจอดรถ แล้วรีบวิ่งเข้าไปดู เขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังเล็ดลอดออกมาจากด้านใน จึงล้วงรีโมทกุญแจสำรองมาปลดล็อคประตูรถ แล้วดึงร่างบางที่สั่นเทาเข้ามากอดปลอบ “คุณหนูครับ ผมอยู่นี่แล้ว”
“ฮือๆๆ อาคม แม่...แม่...” จีอาน่ากอดซบร่างสูงของคนสนิทได้เพียงครู่ ก็วูบหมดสติไป
“ศร! มาขับรถคุณหนูเอาไปจอดทิ้งไว้ใกล้ๆ กับสนามบิน แล้วเช็ดรอยนิ้วมือของตัวออกให้หมด อ้อ! ไม่ต้องบอกใครนะว่าเจอคุณหนูที่นี่” คมสันสั่งการเสร็จ ก็อุ้มบุตรสาวของเจ้านายเข้าไปในรถตู้ จากนั้นก็ขับตรงไปยังบ้านพักตากอากาศของตัวเองที่อยู่นอกเมือง
เช้าวันต่อมา...(ปัจจุบัน) ไร่สิรางประกรณ์
คนที่กระโดดสะพานแม่น้ำปิง เพื่อจะจบชีวิตอันแสนเจ็บปวด ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง ไปรอบๆ ห้องสีขาว แล้วจ้องมองโซฟาตัวใหญ่สีเทาอ่อนกับภาพวาดสีน้ำ แสนสวยอย่างมึนงง
“ไม่อยากจะเชื่อ! สวรรค์หน้าตาเป็นแบบนี้หรอกเหรอเนี่ย” เธอเอ่ยพึมพำเบาๆ อย่างรู้สึกสับสน ไม่คิดว่าชีวิตหลังความตายจะสวยงามถึงเพียงนี้ แถมยังได้นอนบนเตียงนุ่มๆ ในห้องที่ดูสะอาดตา
“อะฮึ่ม! อะไรทำให้คิดว่าการฆ่าตัวตายจะทำให้คุณได้ขึ้นสวรรค์” จอมพลเอ่ยถามหญิงสาวที่ตนกระโดดน้ำลงไปช่วยอย่างรู้สึกโมโหขึ้นมานิดๆ เมื่อคืน! ถ้าเขาไม่แวะเข้าไปดูร้านที่เพิ่งจะแต่งเสร็จ ป่านนี้ร่างของเธอคงจะลอยขึ้นอืดอยู่ในแม่น้ำปิง
“คะ...คุณเป็นใคร?” จีอาน่าขยับตัวลุกนั่งอย่างตกใจ ‘แม่เจ้า! นี่คงจะเป็น ผู้คุมวิญญาณสินะ? แต่ทำไมถึงใส่แค่เสื้อกล้ามกับกางเกงบ็อกเซอร์ล่ะ?’
“หึ! ผมเป็นเจ้าชายที่ขี่ม้าขาวไปช่วยคุณเอาไว้เมื่อคืนน่ะสิ” จอมพลกลอกตาเมื่อเห็นสาวเจ้าเอาแต่จ้องใบหน้าของตนด้วยสายตาแปลกๆ ‘ให้ตาย!ยัยเด็กนี่ เต็มหรือเปล่าวะ’
“คะ...คุณช่วยฉัน?” จีอาน่ารู้สึกชาตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ได้ยินคำบอกเมื่อครู่ ‘นี่แปลว่าเรายังไม่ตายงั้นเหรอ?’
“ก็ไม่ได้อยากจะช่วยหรอกนะ แต่กลัวศพของคุณจะขึ้นอืดบริเวณร้านอาหารของผม” จอมพลบังคับสายตาให้มองไปทางอื่น เพราะเมื่อคืนเขาใส่แต่ เสื้อยืดให้สาวตรงหน้าแค่ตัวเดียวเท่านั้น และดูเหมือนเธอจะไม่รู้ตัวว่าท่านั่งในตอนนี้ มันกำลังยั่วยวนสายตาของเขาขนาดไหน
“กรี๊ดดดดด” จีอาน่ากรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เมื่อรู้ว่าแผนที่วางไว้ ได้พังลงเพราะหนุ่มตรงหน้า
คนที่กำลังเคลิ้มนิดๆ หลังจ้องมองบริเวณต้นขาอ่อนของสาวเจ้า แต่พอได้ยินเสียงกรี๊ดเท่านั้น เส้นเลือดฝอยในสมองก็แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เสียให้ได้
“รู้ไหมว่าการที่จะทำอะไรแบบนั้นมันต้องใช้ความกล้าขนาดไหน ฮือๆๆ แม่ง! เสียเที่ยวจริงๆ” จีอาน่าร้องไห้และสบถออกมาอย่างรู้สึกเจ็บใจ คิดว่าป่านนี้บิดาคงจะเข้าพิธีแต่งงานกับปารีณาไปแล้ว
“เสียเที่ยว?” จอมพลทวนคำอย่างไม่อยากจะเชื่อหู ‘พ่อแก้วแม่แก้ว! เกิดมาเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนสบถคำว่า ‘แม่ง’ ได้เจ็บขนาดนี้มาก่อน’
“ใช่!” จีอาน่ามองค้อนคนที่ทำลายแผนการของเธออย่างรู้สึกโกรธ
“งั้นไปกระโดดอีกรอบไหมล่ะ สาบานเลยว่ารอบนี้จะแค่ยืนดูเฉยๆ เท่านั้น” คนที่อุตส่าห์กระโดดว่ายน้ำลงไปช่วย เริ่มจะโมโหขึ้นมานิดๆ
“ขอบคุณ!” ด้านคนที่ยังตั้งมั่นในอุดมการณ์พยักหน้ารับทันใด แม้ว่าตอนนี้อารมณ์กล้าบ้าบิ่นจะไม่เต็มร้อยเหมือนเมื่อคืน แต่เดี๋ยวเธอไปบิ้วเอาที่หน้างานได้
“งั้นก็ลุกขึ้นเลยสิ” จอมพลบอกอย่างเหลืออด เมื่อเห็นสาวตรงหน้ายังมีความคิดบ้าๆ อยู่ในหัว
“...” จีอาน่าขยับลงจากเตียง เตรียมจะเดินไปที่ประตูห้อง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายรั้งแขนเอาไว้
“เดี๋ยว!”
“มะ...มีอะไร?” เธอถามพร้อมกับแกะมือหนาออกอย่างรู้สึกรังเกียจ แม้ว่าคนตรงหน้าเธอจะหล่อโคตรๆ ขนาดไหน แต่วินาทีนี้เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นอกจากการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
“จะตายสภาพนี้จริงๆ เหรอ” จอมพลถามพลางจ้องมองสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ทะ...ทำไม?” คนที่เพิ่งจะรู้สึกเย็นๆ บริเวณช่วงล่าง คล้ายๆ กับว่าไม่ได้...
“ตอนนี้คุณใส่แต่เสื้อยืดตัวเดียว ลองนึกภาพตอนกู้ภัยไปเก็บศพดูสิ คุณไม่อายเขาเหรอ?” จอมพลปล่อยหมัดเด็ดใส่หญิงสาวอย่างรู้สึกหมั่นไส้
“ละ...แล้วเสื้อผ้าของฉันอยู่ไหน?” จีอาน่าหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีทันใด โชคดีที่เสื้อยืดตัวที่ใส่อยู่ยาวเกือบถึงเข่า
“กองอยู่ในห้องน้ำ” จอมพลชี้ยังประตูที่อยู่ตรงมุมห้อง
จีอาน่ารีบเดินไปดูก็พบเสื้อผ้าของเธอใส่กองอยู่ที่อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ และพอหยิบขึ้นมาก็ถึงกับตกใจ “คุณตัดเสื้อกับกางเกงของฉันทำไม”
“ที่ต้องตัดก็เพราะว่าผมถอดมันออกไม่ได้น่ะสิ” จอมพลกลอกตาอย่างรู้สึกเซ็งๆ เธอไม่รู้หรอกว่ากว่าที่เขาจะก้าวจะผ่านเมื่อคืนมาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
“แล้วฉันจะใส่อะไรล่ะ?” เธอหันไปถามราวกับต้องการให้คนตรงหน้ารับผิดชอบ เพราะเธอตั้งใจจะฝากแผลเป็นให้บิดาได้จดจำไปตลอดชีวิตว่าวันแต่งงานครั้งใหม่ คือวันตายของเธอกับแม่ แต่ผู้ชายตรงหน้าก็ทำลายแผนของเธอพังจนยับเยิน
“ผมว่าช่างมันเถอะ! ไหนๆ คุณก็จะตายแล้ว จะแคร์ทำไม” จอมพลบอกพร้อมกับเข้าไปดึงแขนของสาวเจ้าให้ออกเดิน














