บทที่ 3 อย่ามาฆ่าตัวตายในบ้านของผมล่ะ

“เดี๋ยวก่อน!” จีอาน่ารีบขืนตัวไว้ ‘บ้าจริง! ถ้าเราตายในสภาพที่ไม่ได้ใส่กางเกงแบบนี้ ตำรวจอาจจะลงประเด็นการตายผิด แล้วทุกๆอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ก็คงจะสูญเปล่า’

“ไปขึ้นรถ ผมจะพาไปคุณโดดให้มันจบๆ ไปซะ” จอมพลบอกด้วยสีหน้าติดรำคาญนิดๆ

“นี่คุณ! ฉันไม่ได้ใส่กางเกงนะ” จีอาน่าน้ำตาคลอหน่อยขึ้นมาอีกครั้ง     ไม่อยากจะคิดว่าศพของตัวเองจะอนาถขนาดไหน แถมนักข่าวคงจะเขียนเมาท์กันสนุกปากว่าถูกข่มขืน หรือไม่ก็เมายาแล้วโดดน้ำตาย

“แล้วไง?” จอมพลเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้ากวนๆ

“คุณพอจะมีกางเกงเก่าๆ ให้ยืมสักตัวไหม?” จีอาน่าขอความเห็นใจ

“ไม่!” จอมพลรีบส่ายหน้าปฏิเสธ

“ทำไมล่ะ”

“ก็ผมกลัวตอนที่คุณเอามาคืนน่ะสิ อีกอย่าง! ถ้าเกิดตำรวจรู้ว่ากางเกงที่คุณใส่เป็นของผม ผมก็อาจจะซวยถูกจับโยงการตายของคุณ ดีไม่ดีอาจจะติดคุกฟรีอีกด้วย”

“ฮึก...ก็แล้วใจคอคุณจะให้ฉันตายทั้งที่ไม่ได้ใส่กางเกงเนี่ยนะ” เธอตัดพ้อทั้งน้ำตานองหน้า

“เฮ้อ...จะตายทั้งที ทำไมต้องสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นด้วยนะ”     จอมพลถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยกับความยุ่งยากมากเรื่องมากราวของสาวตรงหน้า

“ฮือๆๆ ก็ใครใช้ให้คุณมาช่วยฉันล่ะ”

“เอางี้! บอกเหตุผลกับผมหน่อยว่าทำไมคุณถึงอยากจะตาย แล้วผมสัญญาว่าคุณจะได้ตายสมใจแน่นอน” จอมพลยื่นข้อเสนอ

“ฮึก...” จีอาน่าเงยหน้าขึ้นมองหนุ่มหล่อล่ำครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี

“โดนผู้ชายทิ้ง” จอมพลโยนเหรียญถามทาง

“...” จีอาน่าส่ายหน้าปฏิเสธ

“ท้อง?” จอมพลกัดฟันถามต่อ

“...” เธอหันกลับไปส่งค้อนวงใหญ่ให้อย่างเคืองๆ

“เฮ้อ...ถูกข่มขืนมาสินะ” จอมพลกลอกตาอย่างเซ็งๆ เมื่อหญิงสาวไม่ยอมเปิดปากบอกสาเหตุ

“ไอ้คนบ้า ฮือๆๆๆ” จีอาน่าปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บใจกับแต่ละคำถามที่ อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยออกมา

“งั้นก็ช่วยบอกเหตุผลมาสักทีสิ เวลาตำรวจเขาหาสาเหตุการตาย จะได้ไม่ต้องมานั่งเดาสุ่มสี่สุ่มห้า แค่เห็นศพคุณขึ้นอืดพวกเขาก็คงจะกินข้าวไม่ลงไปเป็นเดือนแล้ว” จอมพลบอกด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“ฮือๆๆ” จีอาน่าร้องไห้หนักกว่าเดิม เกิดมาไม่เคยรู้สึกเกลียดใครเท่ากับหนุ่มตรงหน้ามาก่อน

“นี่คุณ! ลีลาอยู่นั่นแหละ ผมหิวข้าวนะ นี่ก็จะเที่ยงแล้ว ยังไม่มีข้าวตกถึงท้องผมเลยสักเม็ด” จอมพลต่อว่าด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

จีอาน่าหยุดร้องไห้แล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเป็นทางทิ้ง พยายามตั้งสติ เรียบเรียงประโยคต่างๆ เพื่อจะบอกเล่าถึงที่ไปที่มาให้อีกฝ่ายฟัง แต่อยู่ๆ ก็มีเสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ที่ดังจนแสบแก้วหู แล่นเข้ามาจอด ตามด้วยเสียงฝีเท้าหนักๆ ที่เดินขึ้นบันไดมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้อง

“นายครับ! ของที่สั่งผมวางไว้ที่หน้าประตูนะครับ” สมชายบอกด้วยน้ำเสียงที่ปนหอบนิดๆ

“ขอบใจมาก ไปดูงานในไร่ต่อเถอะ” จอมพลตะโกนบอกลูกน้องคนสนิท    ที่วานให้ไปซื้อของใช้เมื่อสองชั่วโมงก่อน

“ครับ” สมชายขานรับก่อนจะเดินลงบันไดกลับลงไปที่ชั้นล่าง

จอมพลลุกเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก้มลงหยิบถุงกระดาษที่วางอยู่บนพื้น มาส่งให้กับหญิงสาว “อ๊ะ! คุณน่าพอจะใส่ได้”

“อะไรคะ?” จีอาน่ารับถุงกระดาษมา แล้วหยิบของที่อยู่ข้างในออกมาดู

“ก็ผ้าถุงไง” จอมพลอมยิ้มอย่างขำๆ ที่ลูกน้องคนสนิทซื้อของมาให้ตรงตามที่บอกเป๊ะ! จีอาน่าจ้องมองผ้าซิ่นสีแดง อันเต็มไปด้วยลวดลายของดอกไม้อย่างมึนงง

“ใส่ๆ ไปเถอะน่าคุณ” จอมพลแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุๆ

“ขะ...ขอบคุณค่ะ” จีอาน่ากลั้นใจบอกอย่างเสียไม่ได้

“โอเค! คุณไปใส่เสื้อผ้า หรือจะอาบน้ำก่อนก็ได้นะ แล้วค่อยลงไปกินข้าวกับผม”

“ฉันไม่...”

“ไม่หิวก็ต้องกิน เดี๋ยวตายไปแล้วจะไปหากินที่ไหนได้ ปลาในแม่น้ำน่ะ มันไม่ได้จับง่ายๆ นะ อ้อ! แล้วก็อย่ามาฆ่าตัวตายในบ้านของผมล่ะ ไม่งั้นผมจะให้หมอผีมาสะกดวิญญาณคุณ แล้วจุดธูปเรียกมาข่มขืนทุกคืนเลยคอยดู” จอมพลขู่เสร็จก็เดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

“ไอ้คนบ้า!” จีอาน่าสบถด่าตามหลังอย่างรู้สึกขุ่นเคืองใจกับประโยคในตอนท้ายของอีกฝ่ายที่บอกว่าจะจุดธูปเรียกวิญญาณของเธอมาข่มขืน แม่เจ้า! เกิดมาเธอไม่เจอะเจอผู้ชายคนไหน ปากคอเราะร้ายขนาดนี้มาก่อน

หญิงสาวพยายามข่มอารมรณ์เดือดๆ ให้เย็นลง แล้วเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ

สิบนาทีต่อมา...

“อ้าว! เข้ามาสิคุณ จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?” จอมพลมองใบหน้า    อันงดงามของสาวเจ้า ที่แม้ว่าจะสวมผ้าถุงสีแดงผูกมัดตรงเอวจนเป็นปมหนา ตามด้วยเสื้อคอกระเช้าสีเหลืองอ่อน แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังชวนมองกว่าสาวๆ คนไหนที่เขาเคยพบเจอ ‘หึ! ใส่ชุดนี้แล้วยังกล้าไปโดดน้ำตายอีก พี่ก็นับถือหัวใจน้องสุดๆ ละ’

“เอ่อ...ฉันว่า...” จีอาน่ามองค้อนคนที่ส่งสายตาเหมือนจะเยาะเย้ยมาให้อย่างขุ่นเคือง

“มานั่งเร็วๆ สิ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วผมจะได้ขับรถไปส่งคุณ” จอมพลเอ่ยเร่งคนที่ยืนทำหน้าเก้ๆ กังๆ ให้เข้ามานั่งร่วมโต๊ะ

“ค่ะ” จีอาน่าขานรับก่อนจะเข้าไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับอีกฝ่าย

“อะ! กินเยอะๆ ผมอุตส่าห์ย่างรอเลยนะเนี่ย” จอมพลบอกพร้อมกับส่งถ้วยที่มีเนื้อย่างหอมๆ ไปให้

“ขอบคุณค่ะ” จีอาน่ารับมาวางตรงหน้าอย่างเสียไม่ได้

“ชื่ออะไร?” จอมพลเอ่ยถามอย่างเป็นทางการ

“จีอาค่ะ” เธอบอกไม่เต็มเสียง

“ชื่อจริงกับนามสกุล”

“...” จีอาน่ามองหนุ่มตรงหน้าอย่างชั่งใจ

“ขอร้องล่ะ ผมอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้คุยกับคุณ ฉะนั้นได้โปรด...”   จอมพลให้เหตุผล

“จีอาน่า พิสุทธิ์ธารากรณ์” เธอกลั้นใจบอกไปตามตรง

“นี่อย่าบอกนะว่าคุณเป็นลูกสาวของ ทัศเทพ พิสุทธิ์ธารากรณ์” คนที่บังเอิญได้อ่านข้อความลับที่บิดาของขุนพัน ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงเช่นเดียวกับบิดาของตน ส่งผิดเข้ามาในแชตไลน์เมื่อห้านาทีก่อน เป็นข้อความขอความช่วยเหลือให้ช่วยตามหาตัวหญิงสาวคนหนึ่ง พอเปิดดูรูปที่ส่งตามมา เขาถึงกับช็อกที่รู้ว่า    หญิงสาวที่ได้ช่วยชีวิตเอาไว้ คือทายาทคนเดียวของพิสุทธิ์ธารากรณ์ มหาเศรษฐี      ที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ด้วยความอยากรู้...เขาจึงรีบกดเข้าไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Google ก็เห็นข่าวประกาศการยกเลิกงานแต่งอย่างกระทันหันของ     ทัศเทพ ก็ทำให้เดาสาเหตุที่หญิงสาวตรงหน้าคิดจะทำเรื่องบ้าๆ เมื่อคืนได้ทันที

“ค่ะ” เธอตอบพร้อมกับถอนหายใจ ไม่รู้ว่าป่านนี้พิธีแต่งงานของบิดากับ    ปารีณาดำเนินไปถึงไหนแล้ว

“งั้นคุณก็ควรจะรู้ไว้นะว่าพ่อของคุณเลื่อนแต่งงานออกไปแบบไม่มีกำหนด” จอมพลบอกสิ่งที่สาวตรงหน้าควรจะรู้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป