บทที่ 4 นี่คือสาเหตุที่คุณจะฆ่าตัวตายใช่ไหมจีอา

“จะ...จริงเหรอคะ?” จีอาน่าถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างแล่นขึ้นมาจุกที่ต้นคอ

“จริงสิ” จอมพลรีบส่งมือถือไปให้ดู

{มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ทัศเทพ พิสุทธิ์ธารากรณ์ ประกาศเลื่อนงานแต่งออกไปอย่างไม่มีกำหนด}

จีอาน่าอ่านพาดหัวข้อข่าวใหญ่ แล้วปล่อยโฮออกมาทันใด “ฮือๆๆ”

“นี่คือสาเหตุที่คุณจะฆ่าตัวตายใช่ไหมจีอา” จอมพลถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง พร้อมกับส่งผ้าเช็ดหน้าไปให้อย่างรู้สึกเห็นใจ

“ฮึก...ฮือๆๆ” จีอาน่าพยักหน้ารับเบาๆ ไม่รู้ว่าจะปิดบังอีกฝ่ายไปทำไม เพราะหากเธอจะตาย ก็ควรจะมีใครสักคนได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง

“โอเค! ผมจะไม่ถามอะไรอีกแล้ว เรามากินหมูกระทะกันดีกว่า” จอมพลรีบเบี่ยงเบนความสนใจไปที่เนื้อย่างหอมๆ บนเตา

“ค่ะ” จีอาน่าใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาไหลที่อาบแก้ม แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

“คุณลองชิมนี่ดูสิ! ถ้าคะแนนเต็มสิบคุณจะให้สักเท่าไหร่ดี” จอมพลคีบเนื้อที่สุกกำลังดี วางลงในจานของเจ้าสาวอย่างเอาใจ

คนที่หยุดร้องไห้แล้ว แต่ยังสะอื้นเป็นพักๆ หยิบตะเกียบมาคีบเนื้อย่างจุ่มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มที่อีกฝ่ายส่งมาให้ แล้วทานไปอย่างมึนๆ งงๆ

“ใช้ได้ไหม?”

จีอาน่าเคี้ยวเนื้อนุ่มๆ ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำจิ้มรสเลิศ ก็ถึงกับพูดไม่ออก

“ผมว่าคุณอาจจะยังไม่รู้รสชาติ งั้นลองอีกคำก็แล้วกัน” จอมพลรีบส่งเนื้อย่างชิ้นใหม่ไปจ่อที่ริมฝีปากสวยได้รูปทันที

จีอาน่ากำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่กลิ่นหอมๆ และรสชาติอันแสนอร่อย บวกกับความหิวระดับสิบ เพราะหลายวันที่ผ่านมาแทบไม่มีอะไรตกถึงท้อง ทำให้เธอจำใจหน้าด้านอ้าปากรับเนื้อย่างที่ส่งมา “อื้ม...”

“เป็นไงครับ?” จอมพลเลิกคิ้วถามยิ้มๆ

“อร่อยค่ะ” จีอาน่าบอกอย่างรู้สึกเขินนิดๆ

จอมพลคีบเนื้อย่างมาลองชิม ก่อนจะถามความเห็น “เนื้อหมักจานนี้ ผมให้ 9 นะ คุณให้เท่าไหร่?”

“10 ค่ะ” จีอาน่าตอบยิ้มๆ ‘อร่อยๆ แบบนี้ถ้าให้กินคนเดียวเป็นกิโล เธอคิดว่าเธอกินหมดได้แบบสบายๆ’

จอมพลอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทีของสาวเจ้าเริ่มจะดีขึ้น จึงย่างเนื้อหมักสูตรใหม่ แล้ววางลงในจานให้คนตรงหน้าชิมต่อ “งั้นถ้าเป็นสูตรนี้ล่ะ”

จีอาน่าคีบเนื้อย่างมาแตะที่น้ำจิ้มรสเด็ด แล้วลงมือชิมอย่างไม่รอช้า “อืม...ให้ 10 ค่ะ”

“หึๆ” จอมพลหัวเราะเบาๆ กับสีหน้าสุดฟินของสาวเจ้า เขาจึงหันไปคีบเนื้อย่างมาลองชิมดูบ้าง “อื้ม...ผมก็ให้ 10 เหมือนกัน”

“คิกๆๆ” จีอาน่าได้ฟังคำตอบก็เผลอหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว

“...” จอมพลได้เห็นรอยยิ้มแรกของสาวเจ้า ถึงกับสตั๊นไปสามวิ

“มะ...มีอะไรเหรอคะ” จีอาน่าเริ่มจะทำตัวไม่ถูก เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็นิ่งไป

“ปะ...เปล่า! คือผมจะให้คุณลองชิมเนื้อหมักอีกจานดูน่ะ” จอมพลที่ได้สติก็รีบดึงความสนใจไปที่เนื้อหมักจานสุดท้าย

จีอาน่าคีบเนื้อในจานที่อีกฝ่ายนำเสนอ ซึ่งมีกลิ่นหอมของน้ำมันงาอ่อนๆ ไปย่างบนเตา พอสุกได้ที่ก็คีบมาแตะน้ำจิ้ม แล้วลิ้มลองรสชาติทันที “อื้ม! อร่อยค่ะ  คุณสั่งมาจากร้านไหนคะเนี่ย?”

“ร้านเพื่อนของผมเองครับ” จอมพลตอบพร้อมกับเตือนตัวเองในใจ  ‘เฮ้อ...แกต้องหยุดมองหน้าของเธอบ้างนะจอม’

“อร่อยค่ะ” คนที่ตอนนี้ละความสนใจจากเรื่องฆ่าตัวตาย มาเป็นสนใจเนื้อย่างบนโต๊ะที่ยิ่งทานก็ยิ่งอร่อย แถมยังมีผักกิมจิ ผักเบบี้คอสและใบงาเกาหลีให้ทานคู่ มันเป็นอะไรที่เธอโหยหามานาน

“อร่อยก็ทานเยอะๆ ครับ” จอมพลบอกพลางจ้องมองใบหน้างาม ที่ไร้การแต่งแต้มเครื่องประทินโฉมใดๆ ‘ให้ตายสิ! ทั้งสวย ทั้งน่ารักแบบนี้ เขาไม่มีวันปล่อยให้เธอทำเรื่องโง่ๆ เด็ดขาด ถึงแม้ว่าเธอออกจะต๊องๆ ไปสักหน่อยก็ตาม’

ชั่วโมงต่อมา...

หลังจากที่กินหมูกระทะจนอิ่ม จอมพลก็ลุกไปหยิบกระปุกทัพเพอร์แวร์    3-4 อันออกมาใส่เนื้อย่างสูตรต่างๆ ที่ยังเหลือเก็บใส่ในตู้เย็น แต่พอหันกลับมา     อีกครั้ง ก็เห็นสาวเจ้ากำลังจะยกถ้วยกับจานที่วางซ้อนอยู่ในกระบะพลาสติกขึ้น เขาถึงกับตกใจเพราะน้ำหนักของจานกระเบื้องนั้นค่อนข้างจะหนักอยู่พอสมควร

“ผมยกเอง” จอมพลรีบเดินเข้าไปช้อนยกต่อ

“เอ่อ...ค่ะ” จีอาน่าเริ่มทำตัวไม่ถูก

“นี่ที่มีเครื่องล้างจาน คุณใช้เป็นใช่ไหม?” จอมพลถามก่อนจะออกเดินนำ

“ค่ะ” จีอาน่าฉีกยิ้ม แล้วรีบเดินตามคนตัวโตเข้าไปในห้องครัวที่สะอาดสะอ้าน พอหันไปมองรอบๆ ก็เห็นเครื่องครัววางเรียงอยู่ครบครัน พลัน! ความคิดหนึ่งก็แทรกเข้ามาในหัว ‘บ้าจริง! เขาต้องมีเมียอยู่แล้วแน่ๆ ผู้ชายที่ไหนจะชอบเข้าครัวทำอาหารเอง?’

“คะ...คุณอยู่กับใครเหรอคะ” เธอถามอย่างรู้สึกใจคอไม่ดี

“ผมอยู่คนเดียว นี่เป็นบ้านพักท้ายไร่ของผมน่ะ” จอมพลหันไปตอบ

“คุณมีบ้านอีกหลังเหรอคะ?”

“ใช่! บ้านของแม่ผม หลังใหญ่กว่านี้นิดหน่อย”

“แล้วคุณพ่อของคุณล่ะคะ”

“เอ่อ...ท่านจากไปหลายปีแล้วครับ” จอมพลบอกก่อนจะหันไปหยิบจานใส่ลงไปในเครื่องล้าง

“ฉัน...เสียใจด้วยค่ะ” จีอาน่าบอกด้วยสีหน้าเศร้าๆ

“ครับ แล้วคุณล่ะ” จอมพลเปลี่ยนไปถามกลับบ้าง

“ก็...อย่างที่คุณเห็นในข่าว แม่ของฉันตายเมื่อสองปีก่อน ฉันเสียสูญไปพักใหญ่ พอเรียนจบก็รีบกลับมาไทย แล้วก็ได้รู้ว่าพ่อกำลังจะแต่งงานใหม่ ซึ่งมันตรงกับวันครบรอบการจากไปของแม่พอดี” จีอาน่าบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกอึดอัดนิดๆ ที่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่ไม่อยากจะเอ่ย

“คุณก็เลยออกอาการเฮิร์ตหนัก” จอมพลสรุป

“ก็ทำนองนั้นค่ะ” จีอาน่าพยักหน้ารับเบาๆ

“ผมขอพูดอะไรสักอย่างได้ไหม?”

“ค่ะ”

“อย่าคิดทำเรื่องโง่ๆ แบบเมื่อคืนอีก ถ้าตอนนี้แม่ของคุณดูอยู่ ท่านจะรู้สึกยังไงที่ลูกสาวสุดที่รัก คิดฆ่าตัวตาย” จอมพลบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

“...” จีอาน่าได้ฟังก็ถึงกับบ่อน้ำตาแตก ตั้งแต่วันที่ทะเลาะกับบิดา เธอไม่เคยได้ระบายความในใจให้ใครฟัง แม้กระทั่งเพื่อนรักอย่างชาช่า เพราะมันเจ็บเกินกว่าจะเอ่ยถึงคลิปที่เป็นต้นเหตุทำให้มารดาจากไป

“หากสิ่งไหนที่มันทำให้คุณเจ็บ...คุณก็แค่ถอยห่างออกมาตั้งหลักก่อน ชีวิตของคุณมันเพิ่งจะต้น ยังมีเรื่องดีๆ ให้คุณไปพบไปเจออีกมากมาย อย่าเอามาแลกเพียงเพราะความสะใจชั่ววูบเลย มันไม่คุ้มหรอก!” คนที่เคยก้าวผ่านจุดที่ย่ำแย่มาก่อน เอ่ยให้กำลังใจ

“ฮึก...” จีอาน่าซบหน้าลงกับผ่ามือแล้วสะอื้นไห้จนตัวสั่น

จอมพลเดินเข้าไปดึงสาวเจ้าเข้ามากอดปลอบ พร้อมกับขอคำมั่น “มองหน้าผมสิ...แล้วบอกว่าคุณจะไม่ทำมันอีก”

“ฮึก...” จีอาน่าจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหล่าของชายหนุ่มอย่างค้นหา ไม่เข้าใจว่าเหตุใด เขาถึงต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้

“จีอา ได้โปรด...คุณไม่อยากเป็นผีอยู่เฝ้าสะพานนั้นหรอก ชีวิตหลังความตายน่ะ มันทรมานเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้” จอมพลบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“ฮึก...ฉันจะไม่ทำมันอีกค่ะ” จีอาน่าให้คำมั่น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป