บทที่ 7 การแต่งงานของลุงกับผู้หญิงคนนั้น มันคุ้มแล้วใช่ไหมคะ
“มีอะไรกันเหรอครับ” ทัศเทพรีบเดินเข้ามาหา หลังแม่บ้านคนสนิทเข้าไปเคาะประตูเรียกที่ห้องนอนและบอกว่า...เพื่อนรักของบุตรสาวมาขอพบ แต่พอลงมาถึงก็เห็นทุกคนกำลังมีปากเสียงกันอยู่
“หนูขอคุยแบบส่วนตัวกับลุงทัศค่ะ” ชาช่าบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ
“เรื่องสำคัญค่ะ ถ้าช้าคุณอาจจะต้องเสียใจ” รัศมีรีบสมทบตามบุตรสาว
“เชิญที่ห้องทำงานของผมครับ” ทัศเทพผายมือเชิญแขกประจำที่ไปมาหาสู่กันนานนับสิบปี
ปารีณาทำท่าจะออกเดินตาม แต่ก็ถูกชาช่าเอ่ยดักทาง “เธอไม่เข้าใจคำว่าคุยส่วนตัวเหรอ?”
“แต่ฉัน...” ปารีณารู้สึกอยากจะกระชากผมของเด็กสาวปากดีลงมาตบให้หายซ่า แต่ก็ต้องข่มใจ
“คุณจะไปทำอะไรก็ไปเถอะณา นี่แขกของผม ผมดูแลเอง” ทัศเทพบอกก่อนจะเชิญคุณหญิงรัศมีกับบุตรสาวให้เดินตามไปที่ห้องทำงานของตน
ปารีณามองตามสองแม่ลูกอย่างแค้นใจ ‘หึ! รอให้ผ่านงานแต่งไปก่อนเถอะ รับรองว่าฉันจะเอาคืนแกแน่นังเด็กวานซืน’
นาทีต่อมา...หลังจากที่เข้ามาในห้องทำงาน ทัศเทพก็รีบถามเพื่อนรักของบุตรสาวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้ว่าตอนนี้จีอาน่าพักอยู่ที่ไหน “มีอะไรจะบอกลุงเหรอหนูช่า”
“จีอาอยู่ไหนคะ” ชาช่าถามด้วยสีหน้านิ่งๆ ขณะที่น้ำตาเจ้ากรรมเริ่มจะเอ่อล้นออกมาอีกครั้งเมื่อนึกไปถึงข้อความในจดหมาย
“ตั้งแต่วันที่กลับจากอังกฤษ จีอาก็หนีออกจากบ้านไป จนถึงตอนนี้ลุงยังตามหาตัวไม่เจอ” ทัศเทพบอกและถอนหายใจอยากรู้สึกเครียด
“เมื่อชั่วโมงก่อนจีอาส่งข้อความมาหาหนู” ชาช่าเปิดมือถือของตัวเองแล้วส่งไปให้บิดาของเพื่อนดู
“...” ทัศเทพรับมาอ่านดูข้อความ ก็ถึงกับชะงักนิ่งไปทันใด
“หนูรีบโทรกลับไปหา แต่จีอาปิดเครื่องไปแล้ว หนูทนไม่ไหว ก็เลยแอบแกะจดหมายออกมาอ่าน ฮึก...ฮือๆๆ” ชาช่าจดหมายส่งไปให้ แล้วร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ทัศเทพรีบวางมือถือลงบนโต๊ะ แล้วหยิบจดหมายมาเปิดอ่าน
‘ถึงพ่อ...ที่เคยรักและเคารพ
หากพ่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้ โปรดจงรู้ไว้ว่า...หนูไม่ได้ยืนอยู่บนโลกใบเดียวกับพ่ออีกแล้ว
พ่อไม่ต้องร้องไห้! หรือเสียใจใดๆ เพราะผู้หญิงคนใหม่คงจะเติมเต็มชีวิตของพ่อได้ดีอยู่แล้ว ก็เหมือนที่พ่อเคยบอก ชีวิตต้องเดินต่อไป...
พออ่านได้ไม่กี่บรรทัด ทัศเทพก็แทบจะกระอัก เพราะถูกย้อนศรด้วยประโยคที่ตนได้เอื้อนเอ่ยออกไปในวันนั้น
ตอนที่รู้ว่าแม่ตาย...หัวใจของหนูเหมือนแหลกสลายไปครึ่งดวง มันทั้งเจ็บ ทั้งเหน็บหนาว ทั้งว้าเหว่ จนรู้สึกอยากจะตายตามแม่ไปเสียให้ได้ แต่เฮ้! หนูยังมีพ่ออยู่อีกคนนะ หนูบอกตัวเองแบบนี้ แล้วก็ลุกขึ้นมาสู้ใหม่อีกครั้ง เพื่อจะเอาความสำเร็จกลับไปฝากพ่อ และตะโกนบอกดวงวิญญาณของแม่ได้ให้รับรู้ว่า...ลูกสาวคนนี้คว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาฝาก แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดไว้’
คนที่เพิ่งจะรู้ว่าบุตรสาวได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง น้ำตาไหลเป็นทาง หลังจากที่อดีตภรรยาจากไป จีอาก็มีอาการซึมเศร้าจนต้องเข้าการรักษาอยู่พักหนึ่ง เขาจึงคิดว่าจะทำเรื่องดรอปเรียนเอาไว้ก่อนเพราะกลัวบุตรสาวจะมีอาการดิ่งจนทำร้ายตัวเอง แต่แล้วอยู่ๆ จีอาก็กลับมาเป็นปกติ แถมยังตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนทำคะแนนได้ดีอย่างคาดไม่ถึง
สุดท้ายนี้...หนูอยากให้พ่อนึกย้อนกลับไปในวันที่แม่ตาย ช่วงเวลานั้น พ่อทำอะไรอยู่? ความลับที่ปิดบังไว้ มันไม่ได้ตายไปพร้อมกับแม่
จีอาน่า ’
ทัศเทพหน้าถอดสี เจ็บจี๊ดเข้าไปถึงขั้วหัวใจ เพราะช่วงเวลาที่ฮาน่าเสียชีวิต ตนได้เริงรักอยู่กับปารีณาในห้องพักของโรงแรม
ความรู้สึกผิดที่แอบปกปิดเอาไว้มานาน เพราะคิดว่าไม่มีใครรู้เรื่องในวันนั้น ก็ทำให้เริ่มกระสับกระส่าย และโกรธเกลียดในการกระทำของตัวเอง จนอยากจะเดินไปหยิบปืนที่อยู่ในลิ้นชักของโต๊ะทำงานมาเป่าสมองของตัวเองให้ตายตามฮาน่าไป
“ฮึก...การแต่งงานของลุงกับผู้หญิงคนนั้น มันคุ้มแล้วใช่ไหมคะ ที่ต้องแลกด้วยชีวิตของจีอา” ชาช่าถามทั้งน้ำตา หลังเห็นบิดาของเพื่อนอ่านจดหมายจบ
“ลุง...”
“กลับกันเถอะแม่ จีอาคงรู้คำตอบแล้ว ถึงได้เลือกวิธีนี้” ชาช่าขยี้ด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบก่อนจะหันไปชวนมารดา
“มีไม่กี่คนที่จะสามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยดัง มาครองได้ น่าเสียดายนะคะที่คุณไม่มีโอกาสได้ชื่นชมและเอ่ยคำยินดีกับลูกสาว เป็นฉันคงจะปิดโรงแรมจัดงานเลี้ยงต้อนรับใหญ่โตไปแล้ว” รัศมีบอกจบก็รีบเดินออกจากห้องไปกับบุตรสาวทันที
ทัศเทพจ้องมองจดหมายที่เป็นลายมือของบุตรสาวทั้งน้ำตานองหน้า ไม่คิดว่าทุกอย่างจะร้ายแรงถึงขั้นนี้
“ท่านครับ! ทะ...ทำไมคุณชาช่าถึง...” คมสันที่เพิ่งจะกลับมาถึง แล้วเดินสวนกับคุณหญิงรัศมีและบุตรสาว ซึ่งร้องไห้จนตาบวม ก็รีบเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาหาผู้เป็นนายอย่างร้อนใจ กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับจีอาน่า
“เจอจีอาหรือยัง” ทัศเทพหันไปถามคนสนิท
“ยะ...ยังครับ” คมสันตอบเสียงสั่น
“ฮึก...ลูกสาวของฉันกำลังจะฆ่าตัวตาย” ทัศเทพบอกคนสนิทด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“คะ...คุณหนู” คมสันหัวใจหล่นวูบไปกองอยู่ที่ข้อเท้า เพราะวันนั้นตนแอบพาจีอาน่าที่หมดสติไปหลบอยู่ที่บ้านพักนอกเมืองกับภรรยา โดยตั้งใจว่าจะรอให้ใจเย็นลงก่อน แล้วค่อยช่วยกันคิดแผนเขี่ยปารีณาให้หลุดจากตำแหน่งนายหญิง พิสุทธิ์ธารากรณ์ แต่ทว่า...พอกลับไปถึงบ้านอีกครั้ง ภรรยาของเขาก็เอาแต่ร้องไห้พร้อมกับยื่นจดหมายที่จีอาน่าเขียนขอบคุณสั้นๆ ทิ้งเอาไว้ก่อนจะหนีไป ‘ขออย่าได้ทำอะไรโง่ๆ นะคุณหนู ไม่งั้นไอ้คมจะไม่ขออยู่เป็นคนแน่’
“ประกาศเลื่อนงานแต่งออกไป ลูกสาวฉันจะต้องได้เห็นข่าวนี้” ทัศเทพบอกก่อนจะยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเป็นทางทิ้งลวกๆ
“ครับ” คมสันขานรับอย่างดีใจ ที่ในที่สุดผู้เป็นนายก็ตัดสินใจเลือกบุตรสาว
“นี่ท่านพูดเล่นใช่ไหมคะ ทุกอย่างถูกเตรียมเอาไว้หมดแล้ว อยู่ๆ จะมายกเลิกเพราะจดหมายขู่บ้าๆ นี่ไม่ได้” คนที่แอบฟังการสนทนาทั้งหมด รีบเดินเข้ามาต่อว่าอย่างรู้สึกโกรธ
“ลูกสาวผมไม่เคยขู่ แล้วถ้าคุณรอไม่ได้ ก็ช่างหัวคุณเถอะณา” ทัศเทพตอกกลับอย่างไม่แคร์ วินาทีนี้เขาพร้อมจะแลกทุกอย่างที่มี ขอแค่ให้ได้กอดบุตรสาว อีกครั้ง
“ทะ...ท่าน” ปารีณามองคนที่รักเธอ หลงเธอ จนชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ว่าอีกฝ่ายจะขึ้นเสียงใส่
“ไปกันเถอะคม” ทัศเทพเดินตรงออกจากห้องไปโดยไม่หันมองหน้า ว่าที่เจ้าสาว
“ครับท่าน” คมสันรขานรับแล้วรีบเดินตามผู้เป็นนายไปติดๆ
“กรี๊ดดดดด” ปารีณากรีดร้องออกมาสุดเสียงทันทีที่ประตูห้องปิดลง เธอเตรียมจะใส่ชุดเจ้าสาวในเช้าของวันใหม่ แต่ทุกอย่างก็ต้องมาพังลงไม่เป็นท่า เพราะ อีเด็กเปรตนั่นแกล้งขู่จะฆ่าตัวตาย
“หึ! ยังไงฉันก็ต้องเป็นนายหญิงของพิสุทธิ์ธารากรณ์ให้ได้ แกคอยดูนะนัง จีอา สุดท้ายแกจะต้องเรียกฉันว่าแม่” ปารีณากัดปากแน่นก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานใหญ่ ตรงไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยสีหน้าเครียดแค้น
