บทที่ 4 4

“ไม่เป็นไรนะครับคุณแม่ เชื่อผมสิ” พันไมล์ดึงร่างของมารดามากอดปลอบ เขาไม่มียอมวันให้มารดาต้องทุกข์ใจแบบนี้ไปตลอดชีวิตแน่ ๆ เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

หลังจากพันไมล์รับปากมารดา เขาก็คอยตามดูพฤติกรรมของบิดาอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะไปไหนทำอะไร นั่นทำให้เขาได้รู้ได้เห็นว่าบิดานั้นนอกใจมารดาจริงๆ

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ การเห็นคนรักของเขาสนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้น แถมยังไปรับไปส่งกันอีกด้วย

เขาคบกับโมรินเพียงไม่นาน จึงไม่ได้รับรู้เรื่องราวของเธอโดยละเอียด

สิ่งที่จะทำให้เขาได้รับรู้เรื่องราวของเธออย่างละเอียดก็คือเพื่อนสนิทของโมริน

วารีเป็นเพื่อนของโมริน อีกทั้งยังเป็นบุตรสาวของเพื่อนรักมารดาของเขา จริงๆ แล้วมารดาของเขากับมารดาของวารีนั้นหมายมั่นปั้นมืออยากที่จะให้เขากับหล่อนได้ลงเอยกัน

แต่เขาไม่ชอบวิธีการจับลูก ๆ คลุมถุงชนให้แต่งงานกัน ยิ่งไม่ชอบที่พ่อแม่คิดว่าเป็นเพื่อนกัน ลูกจะต้องรักกัน เรือล่มในหนองทองจะไปไหนเสีย เขากับเธอจึงเป็นได้แค่เพียงพี่น้องที่นับถือกันเท่านั้น

“พี่มีเรื่องสำคัญจะถามน้องรีหน่อยครับ” พันไมล์ไม่อ้อมค้อม เขานัดเจอเธอเพื่อคุยเรื่องสำคัญ เจอหน้ากันก็เอ่ยถามในทันที

“พี่พันมีเรื่องจะถามอะไรรีเหรอคะ ถามมาได้เลยค่ะ” วารีขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นความว้าวุ่นใจของชายหนุ่มตรงหน้า

“เรื่องของโมรินกับน้าของเขาน่ะครับ”

“น้าของโมรินทำไมเหรอคะ พี่พันรู้จักน้ารัตน์แล้วเหรอคะ ไหนบอกว่าไปส่งโมทีไรไม่เคยเจอกับน้ารัตน์เลยไงคะ” วารีเอ่ยถาม ก่อนจะดื่มน้ำส้มเย็นๆ แก้กระหาย

“พี่ไม่เคยเจอน้าของโมริน แต่ตอนนี้พี่รู้แล้วว่าเลขาของพ่อนั่นแหละคือน้าของโมริน และเธอยังเป็นเมียน้อยของพ่อพี่ด้วย”

“จริงเหรอคะนี่” วารีมีสีหน้าตกอกตกใจไม่น้อย

“พี่ตามสืบ สะกดรอยตามคุณพ่ออยู่สักระยะหนึ่งแล้ว จึงได้รู้ได้เห็นว่าพ่อพาผู้หญิงคนนั้นไปไหนต่อไหน แถมยังพาเข้าโรงแรมด้วยกันหลายครั้ง”

“โมรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่าคะ” วารีถามตรงประเด็น เพราะเอาจริงๆ โมรินกับพันไมล์รู้จักกันเพราะเธอ โมรินเป็นเพื่อนของเธอ ทั้งสองเคยเจอกันด้วยความบังเอิญ เพราะเดินชนกัน โมรินทำกระเป๋าสตางค์ตกเอาไว้ พันไมล์เลยพยายามจะนำไปคืน แล้วเขาก็ได้เจอเพื่อนของเธอที่บ้านของเธอนี่แหละ

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงก่อเกิดขึ้นหลังจากวันนั้น คล้ายกับว่าพันไมล์จะให้เธอเป็นแม่สื่อแม่ชักเพื่อจีบโมริน

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่นาน แต่พันไมล์ยังไม่ได้พาโมรินไปเจอกับบิดามารดา อาจเพราะคุณพิมพ์ประภา มารดาของพันไมล์อยากจะให้เธอเป็นลูกสะใภ้ นั่นทำให้พันไมล์เองก็ยังไม่กล้าพาคนรักไปเจอกับบิดามารดา เพราะกลัวจะมีปัญหา เลยต้องมาคิดกันว่าจะให้โมรินพิสูจน์ตัวเองยังไงให้พ่อแม่ของพันไมล์ยอมรับ ซึ่งเธอรู้ปัญหาข้อนี้ดี และคอยรับฟังอยู่ห่างๆ

คุณพิมพ์ประภาเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง และไม่ชอบให้ลูกเต้าคบหากับคนที่มีฐานะต้อยกว่า

“พี่อยากให้น้องรีไปสืบให้พี่หน่อย” เพราะโมรินเองก็ไม่ได้รู้จักบิดามารดาของเขา เหตุนี้หากเธอรู้เห็นเป็นใจกับน้าสาวให้จับผู้ชายรวยๆ เขาก็จะได้เห็นธาตุแท้ของเธอเสียที เพราะตอนนี้มารดาของเขาเสียใจมาก และท่านก็กำลังล้มป่วย ไม่เป็นอันกินอันนอน

“รีจะสืบยังไงล่ะคะ” วารีเอ่ยถาม

“น้องรีสนิทกับโมริน น่าจะคุยกันได้ทุกๆ เรื่อง ลองถามดูสิ”

“ก็ได้ค่ะ แต่ทำไมพี่พันไม่ถามเองล่ะคะ”

“ถ้าพี่ถามเขาจะยอมพูดความจริงเหรอ”

“พี่พันก็คบอยู่กับโมนี่คะ น่าจะคุยกันได้ทุกเรื่อง” วารีมองหน้าชายหนุ่ม

“พี่เพิ่งรู้จักกับเขาไม่ถึงสามเดือนด้วยซ้ำ แต่สำหรับน้องรีพี่รู้จักมานานเป็นสิบปีแล้ว พี่ย่อมไว้ใจน้องรีมากกว่า”

“เหรอคะ”

“บางทีพี่ก็คิดว่ายังไม่รู้จักเขาดี” อาจเพราะความหวาดระแวงจึงทำให้พันไมล์คิดเช่นนั้น แต่ถ้ามีหลักฐานว่าเธอมีส่วนรู้เห็น เขาก็จะไม่เอาเธอกับน้าของเธอไว้แน่

“รีจะพยายามดูนะคะ” วารีรับปาก ยิ้มปลอบใจพันไมล์กลับไป ไม่ว่าเขาต้องการอะไร เธอก็จะช่วยเหลือเขาทุกทาง เพราะเธอแอบรักเขามานานแล้ว รักเขามาก่อนโมรินเสียอีก

“อย่าให้เขารู้ว่าพี่ให้น้องรีไปสืบนะครับ” พันไมล์รีบกำชับ

“รีเข้าใจค่ะ จะสืบให้อย่างเนียนๆ เดี๋ยวจะหลอกถามให้ด้วยนะคะ แต่รับรองว่าเขาจะไม่รู้ว่าลุงพงศ์เป็นพ่อของพี่แน่นอนค่ะ” อาจเพราะโมรินอยู่ในสังคมคนละชั้นกับเธอและพันไมล์ ทำให้โมรินไม่ได้รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการธุรกิจหรือเศรษฐีร่ำรวยที่ไหน ชีวิตของโมรินคือการเรียนและทำงานพิเศษงกๆ เพื่อหาเงินส่งเสียตัวเองเรียน

โมรินพูดเสมอว่าไม่อยากรบกวนดวงรัตน์ผู้เป็นน้าสาวเพราะเกรงใจ อีกทั้งโมรินเป็นคนสวยจึงมีงานอีเว้นติดต่อให้เธอไปทำอยู่เนืองๆ รายได้ก็ถือว่าโอเคอยู่

บทก่อนหน้า
บทถัดไป