บทที่ 7 7
พันไมล์สงบสติอารมณ์ได้แล้วก็เดินทางไปหาคนรัก แม้จะรังเกียจเธอจับจิตจับใจ แต่เขาก็จะไม่ปล่อยให้คนที่ทำลายครอบครัวของเขาต้องลอยนวลแน่นอน
วารีมองตามไปแล้วหัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุข เธอรู้ว่าโมรินไม่รู้จักบิดามารดาของพันไมล์ เพื่อนของเธอหน้าโง่จะตายไป จะให้ไปนั่งหาประวัติของแฟนว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร รวยแค่ไหน โมรินไม่ทำเพราะหยิ่งในศักดิ์ศรี คิดว่าไม่ได้เกาะผู้ชายกิน วันๆ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานงกๆ นี่คือจุดอ่อนของโมรินที่ทั้งโง่และซื่อบื้อ ทำให้เธอสามารถใช้วิธีนี้เล่นงานอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย เธอพร้อมที่จะเขี่ยนังเพื่อนเลวทิ้งด้วยฝ่าเท้าของเธอนี่แหละ
พันไมล์กดโทร. หาโมรินด้วยหมายเลขที่เขาจำได้ขึ้นใจ โทรศัพท์ราคาแพงเครื่องนี้เขาเป็นคนซื้อให้เธอ เพราะเครื่องเก่ามันพัง
เธอปฏิเสธไม่อยากรับ แต่ในที่สุดก็รับ คงแกล้งปฏิเสธไปแบบนั้นเอง ตอนนี้เขาเห็นธาตุแท้ของเธอแล้ว นึกย้อนไปถึงเรื่องราวมากมายที่ผ่านมาไม่กี่เดือน เธอมักปฏิเสธเสื้อผ้าข้าวของที่เขาซื้อให้ ซึ่งแท้ที่จริงมันเป็นแผนการของเธอเท่านั้นเอง
ทำเป็นไม่อยากได้ ทั้ง ๆ ที่อยากได้จนตัวสั่น เลวทั้งน้าทั้งหลาน คงคิดจะจับเขาด้วยล่ะสิ
“สวัสดีค่ะพี่พัน” เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นขณะรับสายทำให้พันไมล์เหยียดริมฝีปากอย่างรังเกียจ กิริยาอ่อนหวานเอาอกเอาใจที่เธอทำกับเขา มันคือมารยาที่เธอเสแสร้งแกล้งทำว่าตนเองเป็นคนดีหนักหนา เขาเห็นธาตุแท้ของเธออย่างแจ่มแจ้ง และจะไม่หลงเชื่อเธออีกแล้ว
“สวัสดีครับ ทำอะไรอยู่ครับ คิดถึงจัง พี่อยากจะรับโมมาที่แกลอรี่ครับ พี่เพิ่งวาดภาพใหม่เสร็จ อยากให้น้องโมได้เห็นเป็นคนแรก” พันไมล์เอ่ยกลับไป แผนร้ายในใจผุดขึ้นมาในทันที
“กำลังทำขนมอยู่ค่ะ โมอยากให้พี่พันได้ชิมขนมของโมอยู่พอดีเลย” เธอชอบทำอาหารและขนม เขาเคยได้ลองชิมอยู่หลายครั้ง ถือว่าฝีมือดี คงฝึกเอาไว้มัดใจผู้ชายสินะ พันไมล์เหยียดยิ้มเมื่อคิดว่าตัวเองรู้ทันเธอ
“งั้นพี่ไปรับนะครับ อยากชิมฝีมือของโมจังเลยครับ คิดถึงโมด้วย อยากเห็นหน้าใจจะขาด”
เขาพูดก่อนจะกดวางสาย รีบขับรถยนต์คันหรูราคาแพงลิ่วมุ่งหน้าไปยังบ้านพักของเธอ
พันไมล์เป็นทายาทเจ้าของโชว์รูมรถนำเข้าที่ร่ำรวยติดอันดับของประเทศ อีกทั้งธุรกิจในเครืออีกมากมาย เขาจึงมีรถให้ขับไม่ซ้ำในแต่ละวัน เพราะต้องการโปรโมทรถหรูของตัวเองไปในตัว
พันไมล์ขับรถมารับโมรินที่หน้าบ้านของหล่อน เธออยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานแหวว ในมือถือตะกร้าขนมที่แพ็กใส่กล่องอย่างสวยงาม เขาเดินลงไปเปิดประตูรถให้เธอ ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับเธอเสมอต้นเสมอปลาย
วันนี้พันไมล์มองโมรินเปลี่ยนไป แต่หญิงสาวไม่มีโอกาสได้เห็น เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเหยียดยิ้มด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ เกลียดชังไปถึงน้าสาวของเธอด้วย
“ขนมหน้าตาน่ากินจังเลยครับ” พันไมล์เอ่ยบอกหญิงสาวข้างกาย เหลือบมองขนมในตะกร้าที่เธอวางเอาไว้บนตักด้วยรอยยิ้ม
“น่ากินก็ต้องกินเยอะๆ นะคะ โมทำให้พี่พันโดยเฉพาะเลยค่ะ”
“ดีจัง” เขาพูดแล้วยิ้มหวานให้เธอ
“โมทำไม่หวานจนเกิดไปเพราะรู้ว่าพี่พันไม่ชอบกินหวาน” เธอยิ้มตอบกลับไป
“ขนมอะไรครับ” พันไมล์แกล้งเอ่ยถามคล้ายสนใจ แต่เขาสนใจอย่างอื่นในตัวของเธอมากกว่า
“เป็นคุกกี้ธัญพืชค่ะ ให้ประโยชน์กับร่างกายด้วยนะคะ” เธอตอบอย่างภาคภูมิใจเพราะคิดสูตรขึ้นมาใหม่ ดัดแปลงจากสูตรที่เคยมีคนทำมาแล้ว ผสมน้ำผึ้งแทนน้ำตาล ทำให้มีรสหวานแต่ให้ประโยชน์มากกว่า
“พี่ว่าวางตะกร้าไว้ด้านหลังเบาะรถดีกว่าครับ พี่จะได้รัดเข็มขัดนิรภัยให้” เขาจัดการหยิบตะกร้าบนตักของเธอไปวางเอาไว้ทางด้านหลัง ก่อนที่จะขยับเข้าไปหาและจัดการรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ลมหายใจร้อนๆ ของเขาที่เป่ารดอยู่ตรงพวงแก้มสาว ทำให้โมรินถึงกับเขินอาย เขาขยับเข้าไปใกล้ ทำท่าจะจูบเธอ แต่เธอก็เบี่ยงหลบทำให้เขาหอมแก้มเธอแทน
“อุ๊ย!” เธอยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเอง รู้สึกเขินอายเป็นอันมาก
“แก้มหอมจริง แฟนใคร”
“พี่พันน่ะ ปากหวานนะคะนี่”
“ไปกันเถอะครับ พี่หิวแล้ว จะมารับไปทำอาหารให้พี่กินด้วย” เขามีบ้านพักอีกหลังตรงชานเมือง ซึ่งที่นั่นเป็นแกลอรี่วาดภาพ พันไมล์มีความสามารถด้านการวาดภาพ เขามีพรสวรรค์ตั้งแต่เกิด นอกจากการดูแลธุรกิจของครอบครัวแล้ว เขายังขายภาพวาดจากฝีมือของตัวเองให้เศรษฐีมีเงินอีกด้วย ชื่อเสียงของเขาโด่งดังและเป็นที่รู้จักในแวดวงศิลปะ หากภาพวาดนั้นมีลายเซ็นของเขาเขียนเอาไว้จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บางครั้งประมูลได้หลักสิบล้านบาท
“พี่พันอยากกินอะไรคะ” โมรินเอ่ยถาม ไม่ได้เห็นสายตาร้ายกาจของแฟนหนุ่มข้างกายเลยสักนิด
“อยากกินโมจะได้ไหมครับ” เขาขยับใบหน้าเข้าหาพลางเอ่ยถาม มองเธอตาหวานหยด คำพูดทีเล่นทีจริงนั้นทำให้โมรินใจสั่น
“อุ๊ย! พี่พันน่ะ” เธอเขินอายหน้าแดง ก่อนที่พันไมล์จะหันไปสนใจกับการขับรถ มุ่งหน้าไปยังบ้านพักนอกเมืองของเขาอย่างหมายมาด
