บทที่ 2 โรงพยาบาล เซนต์ ร็อฟเวลล์
“เยี่ยมเลย กำลังคิดถึงพี่คิมอยู่พอดี” แพรณาราบอกอย่างเห็นด้วย หลายเดือนที่ผ่านมา เธอไม่มีโอกาสได้เจอกับคามินเลย เพราะเอาแต่หลบๆ ซ่อนๆ คาทอร์กับแขไข และเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่อีกนับครั้งไม่ถ้วน เลยทำให้ขาดการติดต่อไป
“งั้นแค่นี้ก่อนนะมิกิ” ฟ้ารดาบอกพลางมองหาพี่ชายที่บอกว่าจะมารับ แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
“อืม...อีกสองชั่วโมงเจอกันจ้ะ” แพรณาราบอก
“จ้า แล้วเจอกัน” ฟ้ารดากดวางสายเสร็จ ก็รีบต่อสายหาพี่ชาย แต่จู่ๆ ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาชนเธออย่างจัง จนทำให้มือถือหล่นกระแทกลงพื้น
เคล้ง!
ฟ้ารดาจ้องมองเศษโทรศัพท์มือถือชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณอย่างอึ้ง พอหันไปมองตัวต้นเหตุ อีกฝ่ายก็วิ่งโกยแน่บไปโดยไม่ได้เอ่ย คำขอโทษใดๆ กับเธอ
“บ้าจริง!” สาวเจ้าสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะก้มลงเก็บชิ้นส่วนของมือถือ อย่างเต็มไปด้วยความโกรธ เธอพยายามมองหาซิมการ์ดอยู่นาน แต่ก็ไม่เจอ
“ซุ่มซามจริงๆ เลย” คามินบอกพลางส่ายหน้าอย่างรู้สึกเพลียๆ
“พี่คิม” ฟ้ารดามองพี่ชายอย่างรู้สึกนอยด์ เพราะเธอไม่ได้ซุ่มซ่ามตามที่อีกฝ่ายบอก แต่โดนเด็กวิ่งมาชนต่างหาก
“ถามจริง! ตั้งแต่แม่ซื้อมือถือให้ใช้จนถึงตอนนี้ ทำพังไปกี่เครื่องแล้วฮะ”คามินถามก่อนจะก้มลงช่วยเก็บเศษชิ้นส่วนต่างๆ ของมือถือ
“โธ่! จะมาบ่นอะไรตอนนี้เล่า ช่วยน้องหาซิมการ์ดก่อนดีไหม?” ฟ้ารดาต่อว่าพี่ชายจอมดุ ขณะที่หัวใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะเธอจำเบอร์มือถือหรือว่าไอดีไลน์ของเพื่อนสาวไม่ได้ มือถือก็แหลกจนไม่มีชิ้นดี ซิมการ์ดจึงเป็นความหวังเดียวที่จะทำให้ติดต่อเพื่อนสาวได้
“อยู่นั่นไง!” คามินชี้ไปยังจุดใกล้ๆ กับที่กระเป๋าวางอยู่
ฟ้ารดาฉีกยิ้มกว้างเตรียมขยับเข้าไปหยิบขึ้นมาแต่ทว่าชายสูงวัยคนหนึ่งก็เข็นล้อเข็นมาทับเข้าเสียก่อน
แกร๊ก!
“ไม่นะ! ไม่จริง” ฟ้ารดามองซิมการ์ดที่บิดเบี้ยวอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง
“ฟ้า! ยะ...อย่าร้องนะ”คามินเอ่ยเตือนคนที่ทำท่าจะดราม่า
“พะ...พี่คิมมีไลน์มิกิไหม” ฟ้ารดาถามเสียงสั่นๆ
“เคยมี แต่มิกิเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว พี่ก็กะจะขอใหม่ตอนไปเจอกันนี่แหละ” คามินบอกเสียงอ่อนลง
ฟ้ารดายกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วถามต่อ “ฮึก...แล้วไลน์ของแพรล่ะมีไหม?”
“มะ...ไม่มี” คนที่ไม่ได้ติดต่อกับแพรลานนามานาน บอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียดรู้ดีว่าตอนนี้น้องสาวกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
ทันทีที่ได้ยินคำตอบ ฟ้ารดาก็ปล่อยโฮออกมาทันที “ฮือๆๆ”
“โอ้ให้ตายเถอะ ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไงกัน” คามินสบถเบาๆ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ก็เห็นทุกคนกำลังจ้องมองมายังตนกับน้องสาว
“ไม่องไม่อายมันแล้ว ฮือๆๆ” คนที่ตั้งท่ามาเป็นอย่างดี สุดท้ายดันมาตายตอนจบ เพราะไม่รู้ว่าจะไปเจอเพื่อนสาวได้ยังไง
“เฮ้อ...เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะซื้อมือถือกับขอซิมใหม่เบอร์เดิมให้ โอเคไหม?” คามินรีบเข้าไปปลอบ
“ตะ...แต่ฟ้านัดกับมิกิวันนี้นี่” ฟ้ารดาบอกด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ไม่เข้าใจว่าทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเธอ
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
คนที่ตั้งท่าจะดราม่ายาวถึงกับหยุดชะงักไปทันใด เมื่ออยู่ๆ เสียงเรียกเข้าของพี่ชายดังขึ้น
คามินล้วงมือถือออกมากดรับสาย เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนสนิท “ฮัลโหล อะไรนะ! โอเคฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
“กะ...เกิดอะไรขึ้นคะ” ฟ้ารดาถามเสียงสั่น อย่างเริ่มใจคอไม่ดี เพราะพี่ชายมีท่าทีตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“เพื่อนพี่ถูกยิง ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล กระเป๋าเรามีแค่นี้ใช่ไหม?” คามิน พยายามตั้งสติ เพราะตนเพิ่งจะแยกกับครูซได้ไม่ถึงชั่วโมง อีกฝ่ายก็โดนตามประกบยิง
“ค่ะ” ฟ้ารดายกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง รีบเก็บกระเป๋าถือขึ้น แล้วเดินตามพี่ชาย ที่ดึงกระเป๋าลากของเธอออกเดินจ้ำอ้าวตรงไปยังทางออกด้วยท่าทีเร่งรีบ
โรงพยาบาล เซนต์ ร็อฟเวลล์
ทันทีที่ ‘โทนี่’ (นายตำรวจสังกัดหน่วยจู่โจมพิเศษ) เห็นรถของคามินแล่นเข้ามาจอด ก็รีบเดินแกมวิ่งเข้ามาหา แล้วดึงเพื่อนรักกับ หญิงสาวเข้าไปยังมุมลับตาคน
“มีอะไรโทนี่” คามินถามด้วยหัวใจสั่นๆ เมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่คบหามานานทำท่าจะร้องไห้
“เราเสียครูซไปแล้วเพื่อน” โทนี่บอกก่อนหลั่งน้ำตาออกมาอย่างเก็บไม่อยู่
“อะ...อะไรนะ?” คามินถึงกับสตั้นไปสามวิ ไม่อยากจะเชื่อว่าประโยคที่ได้ยินก่อนหน้าจะเป็นเรื่องจริง
ฟ้ารดาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก รีบเข้าไปกอดพี่ชายที่กำลังยืนหน้าซีดเอาไว้อย่างเป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่าย
“นี่เป็นคลิปที่ได้มาจากกล้องหน้ารถของครูซ ฮึก...” โทนี่ส่ง มือถือให้เพื่อนก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตา ที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายทิ้งลวกๆ
คามินมือไม้สั่นขึ้นมาขณะเอื้อมมือไปรับมือถือมาเปิดดูคลิปที่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งดูเหมือนว่าครูซจะรู้ว่ายังไงก็คงไม่รอดจึงออกไปยืนอยู่หน้ารถ ให้กล้องหน้ารถจะบันทึกภาพทั้งหมดเอาไว้
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นสามนัดติดๆ กัน จากนั้นร่างของครูซก็ล้มลงบนพื้นถนน
“ฮือๆๆๆ” คามินปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บปวด จดจำใบหน้าของมือปืนได้ดีว่าเป็นลูกน้องของใคร
โทนี่กัดปากแน่น น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทาง รู้ดีว่าสาเหตุที่ครูซโดนสั่งเก็บนั้น ก็เป็นเพราะอีกฝ่ายยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องการลักลอบค้าอาวุธเถื่อนของพวกที่มีอิทธิพลเข้า ทำให้ต้องมาเจอจุดจบแบบนี้
คามินกอดน้องสาวกับเพื่อนรักร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยายามตั้งสติ แล้วเอ่ยถาม “ครูซอยู่ที่ไหนตอนนี้”
“ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน” โทนี่ชี้ไปยังห้องที่มีตำรวจห้านายนั่งเฝ้าอยู่ด้านหน้า
“นายพาน้องฉันไปรอที่รถ เดี๋ยวฉันบอกลาครูซเสร็จ จะรีบออกมา” คามินเช็ดน้ำตาแล้วจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง



















