บทที่ 6 พระเจ้า เธอจะทนไม่ไหวแล้วนะ
“ใช่ ทีนี้ก็ปล่อยซะทีสิ ” แพรลานนาตอบพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม
“นี่ขนาดมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว ยังไม่หายร่านอีกเหรอฮะแพร ” คนที่โมโหจนเบรกตัวเองไม่อยู่เผลอสบถถ้อยคำหยาบคายออกมาอย่างลืมตัว
เพียะ
“เลว” แพรลานนาตวัดฝ่ามือลงที่ใบหน้าของคนหน้าด้าน จากนั้นก็อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังมึนๆ วิ่งออกจากห้องไป
“หึ เลวงั้นเหรอ” คนถูกตบสบถอย่างหงุดหงิด พลางยกมือขึ้นลูบแก้มด้านซ้ายที่เริ่มเจ็บและชาเบาๆ
‘ฉันจะทำให้เธอรักและตามหึงหวงฉัน เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ คอยดู ’
ที่ห้องทานอาหาร...กับข้าวถูกทยอยนำออกมาวางอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการพูดคุยที่เป็นกันเอง โดยเพียงดาวนั่งอยู่หัวโต๊ะ ทางฝั่งขวามีคุณหญิงนวลจันทร์ พันนากรณ์ นั่งอยู่กับหลานชายคนโต ‘น่านนาวา’ ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย
แพรลานนาวิ่งตรงไปยังห้องนอน เพื่อสำรวจตัวเองให้ดูเรียบร้อย เพราะแขกที่มาทานข้าววันนี้ คือคนที่ช่วยเธอเอาไว้คืนก่อนตอนเธอกลับจากไปทานอาหารค่ำกับเพื่อนๆ ที่โรงแรมเอื้องลานนา
{22:10 น. ระหว่างทางกลับเข้าไร่ อยู่ๆ รถที่ขับมาก็เกิดเสีย แพรลานนารีบควานหามือถือในกระเป๋า แต่กดเปิดเครื่องไม่ได้ เธอพยายามอยู่นาน จนกระทั่งมีรถเก๋งคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดใกล้ๆ จากนั้นผู้ชายใส่สูทก็ลงมาจากรถพร้อมกับหญิงวัยหกสิบ ตอนนั้นเธอทั้งดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ขณะที่นวลจันทร์กับหลานชาย น่านนาวา พันนากรณ์ ขับรถกลับจากการไปทานข้าวกับนายหน้าที่ดิน ก็เห็นรถเก๋งคันหนึ่งติดไฟกะพริบจอดอยู่ข้างทาง พอขับผ่านไปจึงรู้ว่าคนขับเป็นหญิงสาว ตนกับหลานชายจึงถอยรถกลับไปถามไถ่
และทันทีที่ได้ยินหญิงสาวแนะนำตัว เธอถึงกับตกใจกับนามสกุลของอีกฝ่าย จึงถามอย่างตื่นเต้นว่ารู้จักเพียงดาว ภรรยาของคุณหลวงอภิชาต สิรันยากรณ์ หรือเปล่า ? หญิงสาวก็ตอบว่าตนเป็นเด็กในอุปการะของเพียงดาว เธอแทบจะกรีดร้องอย่างลืมตัว ก่อนจะบอกกับหญิงสาวว่าเธอเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับอีกฝ่าย
แพรลานนายิ้มกว้างอย่างดีใจ รู้สึกว่าเธอโชคดีที่ได้เจอกับเพื่อนเก่าของ คุณเพียงดาว และรู้สึกขอบคุณที่อีกฝ่ายขับรถพาเธอมาส่งถึงไร่ และบอกว่าพรุ่งนี้ช่วงสายๆ จะแวะเข้ามาที่ไร่
เธอยกมือไหว้ทั้งสองอย่างขอบคุณ ก่อนจะได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายของคนที่นั่งฟังการสนทนาเงียบๆ มาตลอดทาง เมื่ออีกฝ่ายลงจากรถมาส่งถึงหน้าเรือนใหญ่ รอยยิ้มของเขามันทำให้เธอรู้สึกประหม่าและหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
พอรุ่งเช้า...เธอก็รีบไปรายงานคุณเพียงดาวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ท่านตกใจที่รู้ว่ารถเธอเสียกลางทาง และดีใจที่รู้ว่าเพื่อนเก่ามาช่วยเอาไว้
จากนั้น...ช่วงสายๆ คุณนวลจันทร์ก็แวะมาที่ไร่กับคนขับรถ ในขณะที่หลานชายติดธุระเรื่องงานมาด้วยไม่ได้
หญิงวัยหกสิบทั้งสอง นั่งพูดคุยกันถึงช่วงเวลาที่ขาดหายจนเกือบค่อนวัน ด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ก่อนจะนัดทานข้าวด้วยกันอีกครั้งในวันต่อมา }
แพรลานนาตรวจเช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมที่กระจก ก่อนจะเดินลงไปยังห้องอาหารด้วยความรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ ที่จะได้เจอน่านนาวาอีกครั้ง แต่แล้วอาการดีใจของเธอก็หายวับไปกับตา เมื่อเห็นร่างสูงของคนที่เกลียดเข้าไส้ดักรออยู่หน้าประตูห้องอาหาร เธอหน้าตึงขึ้นมานิดๆ ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินผ่านไป และทำเหมือนมองไม่เห็นอีกฝ่าย
เสกสรรคว้าหมับเข้าที่แขนของสาวเจ้า ก่อนจะผลักประตูเข้าไปข้างในห้องอาหาร แล้วฉีกยิ้มให้กับทุกคนอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนที่กำลังโกรธปรับ สีหน้าแทบไม่ทัน
‘ให้ตายสิ เธอเกลียดผู้ชายอย่าง แดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ ที่สุดเลย’ แพรลานนาอยากจะกรีดร้องดังๆ แต่ก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ภายใต้รอยยิ้มบางๆ
“สวัสดีครับ ขอโทษที่ทำให้รอนาน พอดีมัวแต่ติดกระดุมให้น้องแพรอยู่น่ะครับ” เสกสรรเอ่ยต่อเมื่อเห็นทุกคนหันมามองที่เขาและเธอ
แพรลานนารู้สึกหน้าชา เหมือนกับอยู่ๆ ก็โดนไม้หน้าสามตีลงกลางแสกหน้าอย่างจัง
“ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นครับ” เสกสรรหัวเราะขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าช็อกของแต่ละคน ก่อนดึงเก้าออกให้สาวเจ้านั่งลงข้างๆ ตน
“แหม อารมณ์ขันซะจริงนะพ่อคุณ นี่คงเป็นแดเนียลสินะ ตัวจริงหล่อกว่าในหนังสือพิมพ์เยอะเลย ” นวลจันทร์ชมหนุ่มเจ้าเสน่ห์ยิ้มๆ เธอรู้จักชายหนุ่มผ่านทางสื่อต่างๆ ในนามของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง แดเนียล ร็อฟเวลล์ ที่ติดอันดับหนุ่มหล่อ Top 10 ของโลก
“สวัสดีครับคุณนวลจันทร์ ผมแดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ครับ เรียกสั้นๆ ว่าต้อมก็ได้ครับ” เสกสรรเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้แบบไทยๆ
“สวัสดีจ้ะพ่อต้อม” นวลจันทร์ถึงกับยิ้มไม่หุบ รีบยกมือขึ้นรับไหว้ ชายหนุ่มแทบไม่ทัน
“ต้อม นี่พ่อนาวา หลานชายคนโตของคุณนวล” เพียงดาวรีบแนะนำ เพราะเห็นหลานชายตัวดีเริ่มจะออกอาการแปลกๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแดเนียล” น่านนาวายิ้มบางๆ ให้
“สวัสดีครับคุณนาวา” เสกสรรส่งยิ้มกลับ
“สวัสดีค่ะคุณนวล สวัสดีค่ะพี่นาวา” แพรลานนายกมือไหว้ทั้งสองด้วยท่าทีอ่อนหวาน
“สวัสดีค่ะน้องแพร” น่านนาวารับไหว้พร้อมกับจ้องมองใบหน้าหวาน
เสกสรรหน้าตึงขึ้นมานิดๆ ที่ได้ยินคำว่า ‘พี่นาวา’ แถมเธอยังบังอาจส่งยิ้มหวานไปให้อีกฝ่ายต่อหน้าต่อตา ‘หึ ไม่เกรงใจผัวเลยนะแพร’ คนที่กำลังเดือดเผลอบีบแขนบางอย่างลืมตัว
แพรลานนานิ่วหน้านิดๆ ก่อนจะหันไปมองคนเถื่อนพร้อมกับกระตุกแขนออกอย่างขุ่นเคือง
“นวลเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของยาย แล้วก็ไปเรียนต่อ
ที่ต่างประเทศ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีก บังเอิญว่าคืนก่อนรถของน้องแพรเสียกลางทาง เป็นจังหวะเดียวกับที่นวลและพ่อนาวาขับรถผ่านมา เลยช่วยขับรถพาน้องแพรมาส่งที่ไร่น่ะ” เพียงดาวเอ่ยก่อนจะเริ่มตักอาหารให้กับเพื่อนรักในวันวานด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
“ว้าว เป็นเรื่องดีจริงๆ เลยนะครับ ” เสกสรรเอ่ยด้วยสีหน้ายินดี
‘พระเจ้า เธอจะทนไม่ไหวแล้วนะ’ แพรลานนากัดฟันยิ้มให้นวลจันทร์กับน่านนาวาที่กำลังมองมา ขณะที่มือหนาของคนหน้าด้านกำลังลูบไล้ต้นขาของเธอไปมาราวกับพวกบ้ากาม
“น้องแพรครับ วันนี้ช่วยพาพี่ไปทัวร์ในไร่หน่อยนะครับ” น่านนาวาเอ่ยพร้อมกับตักกับข้าวให้หญิงสาวอย่างเอาใจ
“ค่ะพี่นาวา” แพรลานนายิ้มบางๆ ขณะปัดมือหนาออกจากต้นขาอย่างทนไม่ไหว
“แล้วนี่พ่อต้อมมีคนที่คบหาดูใจอยู่หรือยังจ๊ะ” นวลจันทร์ถามต่อ
“มีแล้วครับ” เสกสรรว่าพลางขยิบตาส่งให้คนข้างๆ
“ว้าย ดีใจด้วยจ้ะ แล้วใกล้จะมีข่าวดีหรือยังเอ่ย” นวลจันทร์เอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจ ในขณะที่แพรลานนาเริ่มรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมานิดๆ
“ใกล้แล้วครับ” เสกสรรตอบยิ้มๆ
“เอ...แต่วันก่อนเพียงบอกว่าพ่อต้อมน่ะยังโสดอยู่เลยนะ” นวลจันทร์เอ่ยอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้
“อ้าวเหรอครับ ฮ่าๆๆ” เสกสรรแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน
“ว่าแต่...ใช่นางเอกดังที่กำลังควงคนล่าสุดนี่ใช่ไหมพ่อต้อม ” นวลจันทร์ถามอย่างคนความจำดี เพราะอ่านข่าวบันเทิงดาราแทบทุกวัน
“แค่ก แค่ก ” เสกสรรสำลักน้ำดื่มขึ้นมาทันใด กับคำถามที่สะเทือนเส้นทางรักข้ามคืนเข้าอย่างจัง













